10 FIGHT 10 | ใส่กันอย่างเดือด ! ศึกแห่งศักดิ์ศรี “แบงค์ ธิติ” ชนะน็อก “เจ้าขุน จักรภัทร” ยกสอง

 “แบงค์ ธิติ” ชนะน็อก “เจ้าขุน จักรภัทร” ยกสอง ส่งทีมขาวครองแชมป์ รับถ้วยรางวัลและเงิน 1 ล้านบาท จาก GS BATTERY

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงคู่หยุดโลกในคู่ชกคู่ที่ 10 ซึ่งเป็นคู่สุดท้ายของ รายการ 10 FIGHT 10 Presented by GS BATTERY ในวันนี้ (12 ส.ค. 62) ระหว่าง เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน ทีมดำ กับ แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ ทีมขาว ซึ่งนอกจาก “เจ้าขุน” จะเป็นคู่ชกที่อายุน้อยที่สุดของสังเวียนนี้ ในวัย 15 ปีแล้ว ยังมีเรื่องของคะแนนที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะทีมขาวทำแต้มทิ้งขาดไปถึง 19:5 แต่เป็นศึกเดิมพันศักดิ์ศรีมากกว่า ถึงขั้น “เจ้าขุน จักรภัทร” ทีมดำ ประกาศชนะน็อก “แบงค์ ธิติ” ทีมขาว ไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ให้มีข้อครหาที่ว่าชนะคะแนนเพราะเป็นลูกชายของ เจ เจตริน วรรธนะสิน โปรโมเตอร์ของรายการนี้

ด้านกองเชียร์ของทั้งสองทีมก็ไม่ได้มีใครน้อยหน้าใคร ฟากทีมขาว ค่ายนาดาวก็ยกทีมมาเชียร์ “แบงค์ ธิติ” กันแทบยกค่าย นำโดย “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” และน้องๆ ในค่าย อาทิ เจมี เจมส์, ปันปัน สุทิตา, ต้าเหนิง ฯลฯ ส่วนทีมดำ “บ้านวรรธนะสิน” นำโดยพ่อเจ แม่ปิ่น พี่เจ้านาย และน้องเจ้าสมุทร ก็ยกบ้านมาเชียร์ “เจ้าขุน จักรภัทร” กันติดขอบเวที

ก่อนเปิดสังเวียน ก็มีโชว์ร้องเพลงจาก “แบงค์ ธิติ” (ทีมขาว) ร้องแรปกับเพื่อนร่วมค่ายนาดาวอย่าง “เจเจ กฤษณภูมิ” ซึ่งทั้งคู่ได้ออกมาโชว์ร้องและเต้นกันในเพลง We will rock you แต่มาในคอนเซปต์ We will knock you และจะให้น้อยหน้ากันได้อย่างไร ทีมดำก็มีโชว์มาแสดงเช่นกัน โดย “เจ้าขุน จักรภัทร” ได้ออกมาโชว์ร้องและเต้นในเพลง “สวรรค์ชั้น 7” เพลงของพ่อเจ เจตริน โดยควงคู่ออกมากับ “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” ในคอนเซปต์ Lion สิงโตนักล่า

เจ้าขุน จักรภัทร

โดยทั้งคู่ขึ้นชกในพิกัด 69 กิโลกรัม สำหรับการชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นชก “แบงค์ ธิติ” (ทีมขาว) อายุ 22 ปี ฉายา Dire Wolf สุนัขป่าโลกันตร์ ลีลาชกเฉียบคมว่องไว ชัยชนะเท่านั้นที่ต้องการ ! ชั่งน้ำหนักได้ 65.5 กิโลกรัม ขณะที่ “เจ้าขุน จักรภัทร” (ทีมดำ) อายุ 15 ปี ฉายา Lion สิงโต ราชานักล่าผู้ไม่เคยกลัวใคร เพราะศึกนี้แพ้ไม่ได้! ชั่งน้ำหนักได้ 68.5 กิโลกรัม ผ่านเกณฑ์ทั้งคู่

แบงค์ ธิติ

แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เริ่มยกแรก แบงค์ลุยรุกหนัก ฟากเจ้าขุนก็ไม่ยอม ต่างฝ่ายต่างปล่อยหมัดหนักทั้งคู่ แต่พอเผลอเท่านั้น เจ้าขุนสวนหมัดเข้าหน้าแบงค์อย่างจัง ถึงขั้นแบงค์เซไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตั้งหลักได้และรุกหนักเช่นเคย ปล่อยหมัดใส่เจ้าขุนรัวๆ ฝ่ายเจ้าขุนก็อึดฮึดสู้สวนหมัดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ระฆังจะดังหมดยก

ต่อกันในยกที่ 2 ทั้งคู่สมาธิดีขึ้น แบงค์เป็นฝ่ายเดินเข้าหา ส่วนเจ้าขุนแก้เกมด้วยการออกหมัดแย็บ คอยฮุกซ้าย หมัดขวาแม่นและหนักทั้งคู่ แบงค์สาวหมัดยาวๆ เข้าหา ก่อนจะรัวหมัดเข้าใส่จนเจ้าขุนทรุดลงไปจนถูกนับ 8 ก่อนจะขอลุยต่อ แต่พอออกมาได้เพียงไม่นาน เจอลูกรัวหมัดจากแบงค์เข้าใส่อย่างที่ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าขุนได้สวนหมัดเลย จนล้มลงไปอีกครั้ง และกรรมการดูแล้วเจ้าขุนไม่ไหวแน่จึงยุติการชก เป็นผลให้ “แบงค์ ธิติ” ชนะน็อก “เจ้าขุน จักรภัทร” ไปในยกที่ 2 นี้

ส่งผลให้ “ทีมขาว” เป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนน 22:5 ครองถ้วยแชมป์และเงินรางวัล 1 ล้านบาท จาก GS Battery ซึ่งเกณฑ์การให้คะแนน ทีมที่ชนะคะแนน จะได้ 1 แต้ม หากชนะน็อกได้ 3 แต้ม ถ้าเสมอ ไม่ได้คะแนน ซึ่งดังที่ประกาศไว้ตั้งแต่ครั้งแรกของรายการว่า หากทีมใดคว้าชัยชนะไปได้ จะได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท จาก GS BATTERY และทีมแพ้จะได้รางวัลเงินสด 500,000 บาท พร้อมเหรียญที่ระลึก

ทั้งนี้ ในสัปดาห์แรกของการแข่งขัน (10 มิ.ย.) “บีม ศรัณยู” (ทีมดำ) ชนะน็อก “เป้ อารักษ์” (ทีมขาว) ทำให้ทีมดำมีคะแนนนำทีมขาวไปก่อน 3:0 สัปดาห์ถัดมา (17 มิ.ย.) “แมน พัฒนพล” (ทีมขาว) ชนะน็อก “เติ้ล ธนพล” (ทีมดำ) ทำให้ทีมขาวพลิกขึ้นนำ 4:3 เนื่องจากชนะน็อกได้ 3 แต้ม และบวกอีก 1 แต้ม เพราะน้ำหนักน้อยกว่า ต่อมาคู่ชกคู่ที่ 3 “เจสัน ยัง” (ทีมขาว) แพ้คะแนน “หลุยส์ พงษ์พันธ์” (ทีมดำ) คะแนนของทั้งสองทีมจึงเสมอกันที่ 4:4 แต้ม สัปดาห์ที่ 4 “ซัน ประชากร” (ทีมขาว) เอาชนะคะแนน “บอย พิษณุ” ได้อีก ส่งผลให้ทีมขาวมีคะแนนนำทีมดำอยู่ 5:4 แต้ม ส่วนคู่ที่ 5 “ชิน ชินวุฒ” (ทีมขาว) ชนะคะแนน “ฮั่น อิสริยะ” (ทีมดำ) และบวกแต้มเพิ่ม 1 แต้ม เพราะน้ำหนักน้อยกว่า 10 กก. ทีมขาวจึงนำทีมดำไปอีกเป็น 7:4 แต้ม ก่อนที่ทีมดำจะตีตื้นขึ้นมาเป็น 5:8 แต้ม เมื่อ “โดม เพชรธำรงชัย” (ทีมดำ) เอาชนะคะแนน “ธามไท” (ทีมขาว) ไปได้ แต่โดมถูกหักที่น้ำหนักเกินพิกัดไป 1 แต้ม คู่ชกคู่ที่ 7 “แอนด์ดรูว์ กรเศก” (ทีมขาว) ชนะน็อก “ดิว ภัทรพล” (ทีมดำ) และดิวถูกหักเรื่องน้ำหนักตัวไป 2 คะแนน ทำให้ทีมขาวทำแต้มขึ้นนำทีมดำเป็น 13:5 แต้ม คู่ที่ 8 “ไต้ฝุ่น กนกฉัตร” (ทีมขาว) ชนะน็อก “กวินท์.ดี” (ทีมดำ) ทีมขาวนำไปลิบลิ่วเป็น 16:5 แต้ม คู่ชกคู่ที่ 9 “กาย รัชชานนท์” (ทีมขาว) ชนะน็อก “ไนกี้ นิธิดล” (ทีมดำ) ส่งผลทีมขาวทำแต้มทิ้งขาด 19:5 และในวันนี้ “แบงค์ ธิติ” (ทีมขาว) ชนะน็อก “เจ้าขุน” (ทีมดำ) ในยกที่สอง ได้เพิ่มมาอีก 3 แต้ม ทำคะแนนรวมทิ้งขาดเป็น 22:5 ทีมขาวจึงเป็นฝ่ายชนะ คว้าถ้วยรางวัลและเงินสด 1 ล้านบาทมาครอง

ที่สำคัญ ในแมตช์หยุดโลกครั้งนี้ กระแสรายการ 10 fight 10 มาแรงมากในโลกออนไลน์ ทำให้ Trend Twitter #10Fight10 ติดอันดับ 1 ของโลก เหมือนกับที่ The Mask Singer ซีซั่น 1 เคยติด ส่วนยอดคนดู Live ทั้งเฟซบุ๊ก และ ยูทูป ก็ทะยานเกินแสนทั้งสองช่องทาง

เมื่อจบการแข่งขัน ทั้ง “แบงค์” และ “เจ้าขุน” ต่างขอบคุณและขอโทษกันและกัน บนสังเวียนคือเกมกีฬา แต่เมื่อลงมา ความเป็นเพื่อนผองน้องพี่ยังเหมือนเดิม

“เจ้าขุน” ถึงกับหลั่งน้ำตาเรียกหา “แม่ปิ่น” พร้อมขอโทษที่ทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งแม่ปิ่นกอดและปลอบใจลูกชาย ทำเอาแฟนคลับน้ำตาซึมไปด้วย

ติดตามความสนุก ลุ้นกันจนนั่งไม่ติดอย่างนี้ได้ใหม่ในซีซั่นหน้า กับ 10 Fight 10 season 2 จะมีใครมาขึ้นสังเวียนบ้าง และรูปแบบรายการจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ติดตามได้ที่ ช่องเวิร์คพอยท์ 23 ที่เดียวเท่านั้น !!

ถ่ายภาพโดย: นลิน อรุโรทยานนท์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์เวิร์คพอยท์