Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

“วิษณุ” เผยพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งทั่วไป เข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้ว จะประกาศในราชกิจานุเบกช้าหรือเร็วไม่กระทบการวันเลือกตั้ง

วันที่ 15 ธ.ค. 2561 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนำร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งนำขึ้นทูลเกล้าฯว่า คาดว่าได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องรอประกาศราชกิจจานุเบกษาจึงจะรู้วันเลือกตั้งที่ชัดเจนจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 เพราะเป็นเพียงการกะเกณฑ์ของ กกต.แต่สามารถปรับได้ เพราะเขากะตามที่สะดวกของเขา โดยนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ถัดจากนั้น 7 วัน ต้องมีเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนหน้านั้น 2 สัปดาห์เป็นการเลือกตั้งต่างแดน หากนับถอยไปอีกเป็นการรับสมัคร พอคิดอย่างนี้ กกต.เลยคิดว่าต้องประกาศวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งถ้าช้ากว่านี้วันเลือกตั้งยังเป็นวันที่ 24 ก.พ.ได้ เพียงแต่ต้องปรับวันเลือกตั้งล่วงหน้ากับนอกราชอาณาจักร ซึ่งไม่ต้องต่อกัน ทับวันกันก็ได้

ส่วนปฏิทินที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกและหัวหน้า คสช.ให้ไปอยู่ในบัญชีเพื่อเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเริ่มทำได้เมื่อไหร่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า การทาบทามทำได้เลย แต่การเสนอชื่อให้ กกต.ต้องอยู่ภายใน 5 วันที่มีการเปิดรับสมัครจะก่อนไม่ได้ หลังไม่ได้ และ หลังจากเสนอชื่อให้กับ กกต.แล้วก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร เพราะเป็นเพียงรายชื่อที่พรรคเสนอไม่ได้เป็นผู้สมัคร 

“ก็เป็นเหมือนนายกรัฐมนตรีคนอื่นที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการหาเสียงต้องใหัพรรคพูด นายกฯจะพูดในแง่ของรัฐบาลเท่านั้น พูดอะไรก็ตามต้องตั้งต้นด้วยการเป็นรัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมือง เรื่องนี้ใครๆก็รู้ทั้งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยุบสภาและไปหาเสียงหรือแม้กระทั่งนายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ครบเทอมแล้วก็ไปหาเสียง ซึ่งรู้ว่าต้องพูดอย่างไรแต่อาจแตกต่างตรงที่ท่านนายกไม่ได้เป็นผู้สมัคร ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคจะพูดได้ก็แค่รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ต้องห่วงหรือระมัดระวังอะไร”

เมื่อถามว่าการประชุมครม.สัญจร ยังสามารถมีได้ไปจถึงเดือนกุมภาพันธุ์ ที่มีการเลือกตั้งเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีได้ปกติ เพราะได้มีกากำหนดไว้ล่วงหน้านานแล้ว สามารถมีไปได้เรื่อยๆ

นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะถึงอย่างไร ครม.ก็ต้องประชุมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะประชุมที่กรุงเทพฯ หรือสัญจรไปต่างจังหวัด ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่การประชุมสัญจร อาจได้ลงพื้นที่ได้พบประชาชนเท่านั้น ต้องยอมรับว่าคนเป็นรัฐบาลย่อมมีโอกาสได้เปรียบ แต่จะไปเอาเปรียบไม่ได้ อยู่เฉยๆก็ได้เปรียบเพราะมีงานทำ มีผลงาน ทั้งนี้การมองว่ารัฐบาลเอาเปรียบหรือไม่เอาเปรียบ มีเส้นแบ่งบางๆ ที่แล้วแต่ใครจะมองอย่างไร ถ้าแบ่งโดยกฎหมาย มันก็มีเส้นแบ่งชัดเจนตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนข้างนอกมองก็ต้องปล่อยไป ห้ามกันไม่ได้ แล้วแต่จะมองอย่าง ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากในเรื่องพวกนี้ เมืองไทยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาเยอะแล้ว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า