คืบหน้าเหตุนั่งร้านถล่มระหว่างก่อสร้างอาคารบริเวณถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้คนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ 4 คน และติดค้างอยู่ใต้อาคารอีก 3 คน ล่าสุดพบ 1 ร่างติดใต้ซากสามารถกู้ขึ้นมาได้ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
วันที่ 12 ส.ค.2562 ชุดทำงาน นำโดย ปภ.เขต 18 , เทศบาลตำบลราไวย์ และอีกหลายหน่วยงาน ยังคงร่วมกันค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 2 ราย โดยแบ่งพื้นที่ค้นหาออกเป็น 4 โซน และนำเครื่องจักร , อุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าทำการตัดเหล็กโครงสร้าง และการฉีดไล่ปูนที่เริ่มแข่งตัวเพื่อทำการค้นหาในส่วนที่คิดว่าร่างผู้สูญหายจะติดอยู่ และมีการใช้กล้องขนาดเล็กสำหรับค้นหาผู้รอดชีวิต ส่องลงไปตรวจสอบตามซอกของอาคาร ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาเป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 18.40 น.วานนี้ เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหาย 1 ราย อยู่ในห้องชั้นใต้ดินของอาคาร ซึ่งไม่ชัดเจนว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะถูกพื้นซีเมนต์ที่เริ่มแข็งตัวปิดทับอยู่ จึงต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าตัดเหล็กเพื่อเปิดพื้นที่โดยรอบก่อนใช้อุปกรณ์เครื่องเจาะเข้าทำการเจาะชั้นซีเมนต์ เพื่อเปิดขยายช่องทางลงไปด้านล่างซึ่งมีความลึกลงไปประมาณ 80 เซนติเมตร เพื่อทำการช่วยเหลือ
นายธัญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ทางเทศบาลตำบลราไวย์ มูลนิธิฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ภายในซากที่ถล่ม ซึ่งคาดว่าจะมีอีก 2 ราย ซึ่งได้มีการเอากล้องส่องลงไปพบร่างผู้ที่ติดอยู่ 1ราย และเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจาะพื้นจุดดังกล่าว แต่เนื่องจากเป็นพื้นคอนกรีตที่ลงไปทับเริ่มจะแข็งตัว ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตามจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ทั้งสองคน ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นผ่านมาเกือบ 6 ชั่วโมงแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็จะทำการค้นหาจนกว่าจะพบ
ทั้งนี้หลังจากพบร่างผู้ที่ติดอยู่ภายในและสามารถช่วยเหลือได้แล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องรีบ ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้มีการนำสว่านเจาะมาเพิ่ม เนื่องจากพื้นคอนกรีตที่เทไปได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วจะมีความแข็งตัว แข็งแกร่ง ทำให้ยากในการเจาะ อีกประการคือต้องแข่งขันกับเวลา และฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นายธัญญวัฒน์กล่าว
ขณะที่นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุครั้งนี้เกิดจากนั่งร้านค้ำยันไม่แข็งแรง โดยขณะเกิดเหตุคนงานกำลังทำการเทปูนซิเมนต์ชั้นสอง ของอาคารส่วนหน้า (ล๊อบบี้) แต่ด้วยน้ำหนักที่มากทำให้นั่งร้านค้ำยันพังลงมา ทั้งนี้เป็นการเทพื้นชั้นสอง ต่อเนื่องจากชั้นล่างที่เทคอนกรีตไปแล้ว ส่วนการขออนุญาตก่อสร้างกี่ชั้นกี่อาคารนั้น ต้องสอบถามไปยังเทศบาลตำบลราไวย์
ทั้งนี้จากการตรวจสอบด้วยสายตานั้นพบว่ามีการใช้เหล็กโครงสร้างจำนวนมาก เพื่อเสริมให้มีความแข็งแรงตามมาตรฐาน แต่อาจจะใช้เหล็กคำยันไม่เพียงพอ ซึ่งตรงนี้ความจริงหากการก่อสร้างเป้นไปตามหลักวิศวกรรมแล้วเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องร่วมกับพิสูจน์หลักฐาน และฝ่ายวิศวกรรมของ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด มาร่วมกันตรวจสอบ เพื่อจะหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ นายทวีกล่าว