13 ก.พ. วันรักนกเงือก สัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และรักแท้

ประเด็นคือ – นกเงือกเป็นสัตว์ป่าอีกประเภทหนึ่งที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทางมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 ก.พ. ของทุกปีเป็น “วันรักนกเงือก” โดยเริ่มตั้งแต่ปี 47 และดำเนินสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

ว่ากันว่า ‘นกเงือก’ เป็นหนึ่งในสัตว์ดึกดำบรรพ์ ถือกำเนิดมานานกว่า 45 ล้านปี เป็นนกขนาดใหญ่ มีจุดเด่นที่จงอยปาก ได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ห้ามเลี้ยงดูหรือครอบครอง ซื้อขายฯลฯ หากฝ่าฝืนจะมีความผิด จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นกเงือกเป็นสัตว์ที่ความสำคัญต่อระบบนิเวศน์เป็นอย่างมาก และใช้เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบรูณ์ของผืนป่า การเพิ่มหรือลดจำนวนของนกประเภทนี้ จึงมีนัยยะสำคัญ ที่สะท้อนถึงสภาพของผืนป่านั้นๆ

และนกเงือกเป็นสัตว์ที่ทีพฤติกรรมรักเดียวใจเดียว จะอยู่กับคู่ของตัวเองจนกว่าตายจากกันไป ซึ่งการตายของนกเงือกตัวผู้ จะส่งผลกับนกเงือกตัวเมียและลูกของมันอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ตัวเมียกำลังฟักไข่และเลี้ยงดูลูกนกเงือกน้อย ซึ่งถ้านกเงือกตัวผู้ออกไปหาอาหารและตายระหว่างทาง ตัวเมียกับลูกก็จะเฝ้ารออยู่ในรัง จนกระทั่งอดอาหารตายในที่สุด

และยังมีเรื่องเล่าถึงพฤติกรรมโรแมนติกของนกประเภทนี้อีกว่า เมื่อนกเงือกตัวผู้เกิดอาการปิ๊งนกเงือกตัวเมียตัวใดขึ้นมา มันก็จะเทียวนำอาหารไปให้ และถ้าเมื่อใดที่นกเงือกตัวเมียยอมรับอาหารจะนกเงือกตัวผู้ ก็เสมือนสัญญาใจ เป็นการตอบตกลงที่จะอยู่ร่วมกันตลอดไป จนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะตายจาก

ปัจจุบัน นกเงือกเป็นสัตว์ป่าอีกประเภทหนึ่งที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทางมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 ก.พ. ของทุกปีเป็น “วันรักนกเงือก” โดยเริ่มตั้งแต่ปี 47 และดำเนินสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพนกเงือกจาก pixabay.com