SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจคลองด่าน บุกจับปู่วัย 52 ปี คาเครื่องแบบ อปพร. ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ หลังจากหลานสาววัย 10 ขวบซัดทอดว่า ถูกปู่และบิดาแท้ๆ ข่มขืน เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้ก่อเหตุ ขณะที่เหยื่อเปิดปากเล่าระเอียดยิบ ยืนยันทั้งพ่อและปู่ทำจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (12 พ.ค. 61) ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.คลองด่าน บุกเข้าจับกุมตัว นายวิโรจน์ หรือเผือก อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ คาเครื่องแบบ อปพร.ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรภายในงานมงคลสมรสแห่งหนึ่งภายในโรงเรียนชื่อดังย่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

โดยขณะเข้าจับกุม เจ้าตัวถึงกับนกหวีดหลุดจากปากหลังจากที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ 383/2561 ลงวันที่ 12 พ.ค. 61 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน

จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คลองด่าน โดยที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธในข้อหาดังกล่าว พร้อมทั้งอ้างว่าเหยื่อเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตนเอง ตนเองจะกระทำได้ลงคอได้อย่างไร หากตนเองก่อเหตุจริงคงหลบหนีความผิดไปแล้ว

ขณะที่คดีนี้นอกจากเด็กจะซัดทอดว่าถูกปู่แท้ๆ ลงมือก่อเหตุข่มขืน เด็กยังซัดทอดถึง นายนิรุต อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นบิดาแท้ๆ

โดยเด็กหญิงรายนี้เป็นนักเรียนชั้น ป. 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา มารดาของเด็กหญิงวัย 10 ขวบเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองด่าน ให้จับกุมตัวนายนิรุต ผู้เป็นสามีที่ลงมือก่อเหตุข่มขืนลูกสาวตัวเอง

ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งไม่นาน ก็ตามไปจับกุมตัวพ่อแท้ๆ รายนี้ได้ทันควันที่บ้านพัก พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ นำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ภายหลังเหยื่อผู้เสียหายให้การว่า นอกจากพ่อของตัวเองที่ข่มขืนแล้ว ยังถูกปู่แท้ๆ ลงมือก่อเหตุอีกด้วย ฝ่ายสืบสวน สภ.คลองด่าน จึงตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้

ขณะที่แม่ลูกผู้เสียหาย หลังเกิดเหตุและเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้วพบว่า ผู้เป็นปู่ได้ข่มขู่และตนก็ถูกไล่ออกจากบ้านพักจนเกิดความกลัวและหลบหนีมาพักอาศัยที่บ้านญาติ เนื่องจากกลัวว่าจะถูกปู่ตามมาทำร้าย

ขณะที่ทีมข่าวของเราเดินทางลงพื้นที่ไปพบกับมารดาและเด็กหญิงวัย 10 ขวบที่ตกเป็นเหยื่อทางเพศ พบว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ที่บ้านญาติและยังอยู่ในอาการหวาดกลัว โดยเด็กหญิงเล่าว่า ขณะที่ตนเองพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักเพียงลำพัง เนื่องจากปิดเทอม วันเกิดเหตุคือวันพฤหัสบดี ช่วงเที่ยง-บ่ายๆ ปู่กลับมาที่บ้านพักและดึงมือตนเองเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และขู่บังคับไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร หากบอกจะฆ่าให้ตาย ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่กล้าจะเล่าบอกใคร และถูกปู่แท้ๆ ก่อเหตุมาหลายครั้ง

ขณะที่พ่อของตนเอง วันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ตนเองลุกมาเข้าห้องน้ำ และเมื่อออกมาพบพ่อยืนดักรอที่หน้าประตูห้องน้ำ ก่อนจะบังคับให้ตนเองอมอวัยวะเพศของพ่อและบังคับจับตนเองนอนกับพื้น ก่อนจะลงมือข่มขืน ไม่นานแม่ตื่นมาเห็นจึงเรียกตนเองไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แม่ฟัง จนกระทั่งแม่พาไปแจ้งความ

ด้านมารดาของเหยื่อรายนี้เปิดใจว่า ตนเองรับไม่ได้กับการกระทำของบุคคลทั้งสอง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ซ้ำไปกว่านั้นที่ผ่านมาปีกว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่าลูกสาวถูกกระทำเช่นนี้ หากวันนั้นไม่ตัดสินใจลุกจากที่นอนมาดูว่าสามีตัวเองลุกหายไปไหนและลูกสาวก็หายตัวไปด้วยจนกระทั่งไปพบว่ากำลังถูกสามีกระทำชำเราลูกสาวตัวเอง ซึ่งถึงแม้จะเห็นคาตา แต่สามีก็ไม่ยอมรับอ้างว่าไม่มีอะไร จึงเรียกลูกสาวมาสอบถาม จนลูกยอมเปิดปากบอกเรื่องราวทั้งหมด

ซึ่งตนเองยอมรับว่าเสียใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวกับครอบครัว อีกทั้งผู้ก่อเหตุกลับกลายเป็นคนในบ้านที่ไว้ใจและเป็นสายเลือดเดียวกัน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนกรณีที่พบว่าเหยื่อยังไม่ได้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยของหน่วยงานรัฐนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ผกก.สภ.คลองด่านแล้ว และออกมายืนยันว่ามีการทำตามขั้นตอนและขบวนการตามกฎหมายคุ้มครองเด็กแล้ว โดยมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มารับตัวเด็กไปตั้งแต่วันที่ 4 หลังจากได้รับแจ้งความและได้เบิกตัวมาสอบปากคำต่อหน้าอัยการจังหวัดสมุทรปราการและสหวิชาชีพตามขั้นตอนแล้ว โดยที่ไม่ทราบว่าหลังจากสอบปากคำแล้วจะมีการปล่อยตัวเด็กให้กลับมาบ้านพักที่เกิดเหตุ จนถูกขู่ซ้ำและไล่ออกจากบ้าน โดยหลังนี้จะประสานหน่วยงานด้านวิชาชีพและผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งเข้าให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของเหยื่อต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า