SHARE

คัดลอกแล้ว

ครอบครัวเด็กสาววัย 15 ปี พร้อมเหยื่อถูกล่อซื้อจับลิขสิทธิ์รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เอาผิดชายอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูน ขณะที่นายประจักษ์ ยืนยันกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจจากต้นสังกัดเจ้าของลิขสิทธิ์จริง

วันที่ 6 พ.ย. 2562 ความคืบหน้ากรณีล่อซื้อจับลิขสิทธิ์การ์ตูนใน จ.นครราชสีมา ล่าสุดผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์โทรศัทพ์ไปพูดคุยกับนายนายประจักษ์ โพธิผล อายุ 56 ปี ชายที่อ้างตัวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง เปิดเผยว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท เวอร์ริเซ็ค จำกัด ดูแลด้านการปราบปรามละเมิดลิขสิทธิ์การตูน ขึ้นตรงกับบริษัทฯ แม่ที่อยู่ในต่างประเทศ ยืนยันว่าได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการคืนเงินให้เด็กหรือไม่ นายประจักษ์ กล่าวว่า จะไปคืนเงินทำไม ถ้าคืนเงินเดี๋ยวนักข่าวก็จะออกข่าวไปว่า เห็นไหมมันคืนเงินแล้ว มันทำผิด  ผมไม่คืนเงิน ที่บอกว่าคืนผมไม่รู้ ผมทำถูกต้องตามระเบียบ เมื่อถามว่าจับลิขสิทธิ์มาแล้วกี่คน นายประจักษ์ บอกว่า จับเด็กคนนี้แค่คนเดียว อย่าไปโยงถึงคนอื่น คนอื่นไม่เกี่ยว

ชายที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า ผมมีหน้าที่ปราบปราม บริษัทต่างประเทศเขาจะไม่ให้การจับกับการขายอยู่ด้วยกัน ไม่เกี่ยวกัน ผมขึ้นตรงกับบริษัทฯ แม่ที่ต่างประเทศ คือ บริษัทโบริเท็ก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลึกๆ แล้วรู้สึกสงสารเด็กหรือเปล่า นายประจักษ์ กล่าวว่า ถ้ารู้ว่าเป็นเด็กจะจับเค้าทำไม เขาโพสต์รูปกระทงที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ลงเฟซบุ๊กตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.62 และมีคนสั่งซื้อก่อนที่ทีมงานจะเห็นจึงติดต่อไปในช่วงต้นเดือน พ.ย.62 เมื่อมีการติดต่อให้ส่งมอบกระทงในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา พบว่าเด็กสาวคนดังกล่าวถือถุงกระทงมาส่งให้ตำรวจพร้อมตัวแทนลิขสิทธิ์จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางมีตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลา หลังจากนั้นพ่อ-แม่เขาก็มาขอไกล่เกลี่ย มาขอเจรจาเพราะคนถูกจับเป็นเยาวชนอยู่พ่อแม่ของเด็กเสนอเป็นค่าละเมิดลิขสิทธิ์ให้ 5,000 บาท

ล่าสุดครอบครัวเด็กสาววัย 15 ปี พร้อมเหยื่อถูกล่อซื้อจับลิขสิทธิ์อีกนับ 10 ราย รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมา ให้เอาผิดตัวแทนลิขสิทธิ์ข้อหากรรโชกทรัพย์ ผู้เสียหายรายหนึ่งเผยว่า ลูกสาวของตนเองได้ทำกระทงลายการ์ตูน การ์ฟิล คุมะ และโดราเอม่อน และโพสต์ขายในเฟชบุ๊กขายของแห่งหนึ่ง ต่อมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อขอซื้อ โดยโอนเงินมัดจำมาไว้ 200 บาท และได้นัดหมายให้นำสินค้ามาส่งที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมาพบว่ามีชาย 2 คนมารับของ ก่อนที่จะอ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน และทนายความ แสดงตัวควบคุมตนและสามีมาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับตนเอง สามี และลูกสาว รวม 3 คน เรียกค่าปรับเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท โดยถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายค่าปรับจะถูกดำเนินคดีอย่างหนัก ตั้งแต่จำคุกตลอดชีวิตถึงประหารชีวิตเลย แต่ตนเองไม่มีเงินจ่าย ทำให้ตนเองและครอบครัวเกิดความหวาดกลัว กอดคอกันร้องไห้อย่างหนัก จึงพยายามเจรจาตกลงกันอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ตกลงกันได้ว่าจะยอมจ่ายค่าปรับที่ 30,000 บาท โดยตนเองได้ยืมเงินน้องของสามีมาจ่ายให้ก่อน หลังจากนั้นได้ไปจำนองบ้านที่อยู่ในปัจจุบันเพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ให้กับน้องแฟนที่ยืมมา ซึ่งขณะนี้ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และหลังจากทราบข่าวว่าทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริง ไม่ได้มอบหมายให้ใครมาจับลิขสิทธิ์ จึงอยากมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มที่มากระทำกับตนเอง ให้ได้รับโทษตามกฎหมายอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอีก

ด้านนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางสภาทนายความแห่งประเทศไทย และสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้รับทราบเรื่องนี้ว่ามีความไม่เป็นธรรมกับน้องอายุ 15 ปี จึงได้พร้อมที่จะช่วยเหลือทางคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งจากข้อมูลที่ทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ ได้ออกหนังสือชี้แจงแล้วว่าไม่เคยมอบอำนาจให้ใครมาดำเนินการจับลิขสิทธิ์การ์ตูน ดังนั้นจึงถือว่าผู้แอบอ้างใช้หนังสือมอบอำนาจปลอมในการแจ้งความเท็จ และการข่มขู่เด็กให้ยินยอมจ่ายเงินค่าปรับ ก็เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในตัวเด็ก ดังนั้นทั้งหมดเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์อย่างชัดเจน นอกจากนี้การใช้กำลังควบคุมตัวเด็กโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาที่โรงพัก ก็จะเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย ทั้งนี้สภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีทนายความมาให้คำปรึกษาด้านกฎหมายฟรี ที่สถานีตำรวจ ซึ่งนำร่อง 150 สถานีทั่วประเทศแล้ว รวมทั้งที่ สภ.เมืองนครราชสีมาด้วย จึงขอให้ประชาชนมาใช้บริการได้ทุกวัน

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า