SHARE

คัดลอกแล้ว

นพ.มนูญ เผยยอดติดโควิดจริงสูงกว่ารายงาน 8 เท่า ด้านโฆษก ศบค. ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย อย่ามองแค่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 10 ส.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ว่า ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้วันนี้ 22,806 คน เป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ ซึ่งจากการประเมินตัวเลขยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อยู่ที่ประมาณ 159,000 คน เฉลี่ยอยู่ที่วันละสองหมื่นกว่าคน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สะท้อนความสำเร็จ ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศที่หายกลับบ้านสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564) อยู่ที่ 550,714 คน ในขณะที่ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 767,088 คน ยอดผู้ที่อยู่ระหว่างรักษาอยู่ที่ประมาณ 2 แสนคน

ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ อย่ามองแค่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะยอดผู้ป่วยรายวันที่รักษาหายก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้คนไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 20 ล้านโดส โดยจังหวัดกรุงเทพมหานครและภูเก็ตฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมประชากรมากที่สุด ร้อยละ 70 แล้ว โดยจำนวนการฉีดวัคซีนมากที่สุดเกิน 670,000 โดสต่อวัน ถือว่าประเทศไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 4 ในอาเซียน เป็นอันดับที่ 27 ของโลก

อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ได้คาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงสุดในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้นโดยใช้ ATK โดยเฉพาะใน กทม. ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเพิ่มสถานพยาบาลและเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาล ให้ทุกโรงพยาบาลรับผู้ป่วยเฉพาะสีเหลืองและสีแดง ส่วนสีเขียวขอให้รักษาตัวที่บ้านด้วยระบบ Home Isolation และศูนย์พักคอย Community Isolation ซึ่งสำหรับ Community Isolation ของกทม. มีทั้งหมด 65 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 8,625 คน อยู่ระหว่างการเพิ่มศูนย์ฯ ในต่างจังหวัดตามจุดต่างๆ ให้รองรับผู้ป่วยได้มากที่สุด และเร่งฉีดวัคซีน 2 เข็มให้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากรไทยภายในสิ้นปีนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อไป

รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด ทั้งกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม รวมถึงผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ต่างๆ มั่นใจว่ามาตรการด้านสาธารณสุขที่ดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ และอีกไม่นานสถานการณ์จะคลี่คลาย

• ยอดติดโควิดจริงสูงกว่ารายงาน 8 เท่า

ก่อนหน้านี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนักและโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเปรียบเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์กับโรคโควิด-19 ในช่วงเวลา 40 ปีได้ดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ทั้งโลกมากกว่า 40 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวียังมีชีวิตอยู่ 35 ล้านคน คนไทยเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากกว่า 6 แสนคน มีคนไทยติดเชื้อเอชไอวียังมีชีวิตอยู่ 4 แสนกว่าคน ยาต้านไวรัสเป็นตัวเปลี่ยนเกม จากเดิม 40 ปีก่อนไม่มียา ปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 30 ขนาน ทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีชีวิตยืนยาวเหมือนคนปกติ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสเอชไอวีก็ตาม
ส่วนโรคโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด จำนวนคนเสียชีวิตทั้งโลก 4.3 ล้านราย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสม 203 ล้านคน อัตราการเสียชีวิต คำนวณโดยจำนวนคนเสียชีวิต หารด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ เท่ากับร้อยละ 2.1 ตัวเลขนี้น่าจะสูงกว่าความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญประเทศสหรัฐอเมริกาคาดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงในสหรัฐต้องคูณด้วย 4 ของประเทศอินเดียต้องคูณด้วย 28
ประเทศไทยรายงานผู้เสียชีวิต 6,204 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 756,505 คน อัตราตาย 0.82% จำนวนผู้ติดเชื้อจริงในประเทศไทยน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่รายงานประมาณ 8 เท่า (เราตรวจโควิดเชิงรุกน้อยกว่าประเทศอื่นมาก) เพราะฉะนั้นอัตราตายน่าจะลดลง 8 เท่าเหลือ 0.1%

ถ้าสมมติทุกคนในประเทศไทย 70 ล้านคนติดเชื้อ จะมีคนเสียชีวิต 70,000 คน น้อยกว่าโรคเอดส์มาก ตัวเปลี่ยนเกมในการลดอัตราตายของโรคไวรัสโควิดคือ วัคซีนไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม สามารถลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ 10 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รับวัคซีน

อ่านฉบับเต็ม  : www.facebook.com/หมอมนูญ-ลีเชวงวงศ์-FC-604030819763686

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า