รมว.สาธารณสุข ยืนยันไทยมียาเพียงพอรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ย้ำผู้เสียชีวิตอายุ 35 ปี มีอาการป่วยจากโรคอื่น เผยนายกฯ ประกาศปรับแผนใหม่รับมือโควิด
วันที่ 2 มี.ค.2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายหยาง ซิน อุปฑูตจีนประจำประเทศไทย ขอให้ช่วยเจรจากับผู้ผลิตยาที่ได้ลิขสิทธิ์ในผลิตยาการรักษาโรคโควิด-19 ที่มีสรรพคุณใช้ได้ดีกับผู้ป่วย ให้ทางการไทยสามารถซื้อยาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งยาตัวนี้ทางการไทยมีไว้ในสต็อกยา แล้วและมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย แต่ยังต้องการเพิ่มเติมเพื่อความอุ่นใจ
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ยาของไทยที่ผลิตเองสามารถใช้ยับยั้งอาการได้ เช่น ยาสูตรของโรงพยาบาลราชขวิถีที่ใช้รักษาผู้ป่วยหายแล้วหลายราย ยืนยันขณะนี้ไทยมียาเพียงพอกับการรักษาอาการให้หายได้ หากไม่มีการแพร่ระบาดรุนแรงมากกว่านี้ และวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะประกาศแผนบูรณาการป้องกันรับมือโควิด-19 โดยยังไม่ใช่การประกาศยกระดับเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือระยะที่เป็นการระบาดกันเองในประเทศจากคนสู่คน และมีผู้รับเชื้อในวงกว้าง ขอให้ประชาชนดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในปัจจุบันมีคนไทยติดเชื้อ 43 คน รักษาหาย 28 คน เสียชีวิต 1 คน สรุปแล้วมีการติดเชื้อจริงๆที่เป็นอยู่ขณะนี้ประมาณ 13-14 คน ซึ่งยอดการติดเชื้อจริงก็เป็นยอดเดียวกันมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการในการป้องกันดูแลตนเอง ขอให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด หากป่วยให้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนปัญหาการคลาดแคลนหน้ากากอนามัย นายอุทิน กล่าวว่า สามารถใช้หน้ากากผ้าแทนได้เพราะถือเป็นการป้องกันการสัมผัสเท่านั้น หากต้องการป้องกันจริงต้องปิดทั้งหน้า ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น