SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค. แถลงย้ำมาตรการเปิดประเทศ ข้อกำหนดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ย้ำยังเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่สีฟ้า พร้อมชี้แจงกรณีคนไทยกลับไทยไม่ต้องมีประกันสุขภาพ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

วันที่ 22 ต.ค. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ชี้แจงกรณีคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศที่ได้รับอนุญาตไม่ต้องกักตัวหลังวันที่ 1 พ.ย.ว่า ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกันสุขภาพวงเงินครอบคลุม 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหมือนนักท่องเที่ยวที่จะมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะคนไทยที่มีสัญชาติไทย มีหลักประกันสุขภาพ มีสิทธิการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนดรวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยที่เดินทางไปต่างประเทศและจะกลับเข้าประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เน้นย้ำเฉพาะผู้ที่เดินทางทางอากาศเท่านั้น

สำหรับการรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร หรือการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงคนไทยและชาวต่างชาติ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

1.กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศแบบไม่กักตัว มี 45 ประเทศบวกกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ฉีดวัคซีนครบ ฉีดเข็มที่ 2 จะต้องมีระยะ 14 วันก่อนการเดินทาง มีการตรวจหาเชื้อดควิดด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และมีผลยืนยันเป็นลบ มีประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 เหรียญสหรัฐ ต้องมาทางอากาศเท่านั้น รวมถึงต้องใบจองที่พัก เป็นต้น รวมถึงต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และสามารถติดตามตัวได้ว่าเดินทางไปที่ไหนอย่างไรด้วย

2. กลุ่มที่เข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือ Sandbox เช่น สมุย พังงา กระบี่ ตามเงื่อนไขที่กำหนดคือ วัคซีนครบ ไม่จำกัดประเทศ ใช้หลักการเดียวกับกลุ่มที่ 1 คือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีการตรวจหาเชื้อดควิด 72 ชั่วดมงก่อนการเดินทาง มีประกันสุขภาพ และหลักฐานการจองที่พัก มีการตรวจโควิดซ้ำในวันที่ 6 หรือ 7 ก่อนที่จะออกจากแซนด์บ็อกซ์นั้น

3. กลุ่มคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ทั้ง 2 ประเภท การเข้าสถานที่กักกันตามที่ราชการกำหนด (วัคซีนไม่ครบ ไม่จำกัดประเทศ) กลุ่มนี้อาจจะยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือฉีดเข็ม 2 ไม่ครบ 14 วันก่อนการเดินทาง รวมทั้งคนที่มาจากประเทศอื่นๆ นอกจาก 45 ประเทศ บวก 1 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะต้องอยู่ในสถานที่กักกันตามที่ราชการกำหนด เช่น SQ, ASQ ของเอกชน หรือสถานกักกันของหน่วยงาน หรือองค์กร (OQ) หรือ กลุ่มที่เข้ามารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล(HQ) ซึ่งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ระบาด หลังมีการประกาศในวันที่ 1 พ.ย. ไปแล้ว ทางสาธารณสุข และ ศบค.จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และหากมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดจะนำมาเรียนให้ทราบให้ทันการณ์

นอกจากนี้ พญ.อภิสมัย ได้แถลงย้ำเรื่องแนวปฏิบัติ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 36 ที่เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ไทยมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลจึงเห็นความจำเป็นว่าจะต้องมีการฟื้นฟูประเทศ เพื่อประโยชน์ในด้านการใช้ชีวิตและด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน เบื้องต้น ให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อเป็นปัจจัยเอื้อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาจากต่างประเทศได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง แต่จะต้องยึดหลัก ต้องให้ประชาชนมีความปลอดภัย รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชน อันจะส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมสาารถดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยว ดังนี้

1.การกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้มีการกำหนดเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคแบบบูรณาการ โดยการกำหนดเขตพื้นที่ใดให้เป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศบค.) ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้

2.การกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้สถานที่ กิจการ หรือการดำเนินกิจการในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว สามารถเปิดดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล และมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร Covid Free Setting รวมทั้งมาตรการด้านกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

3.การยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ แต่ได้มีคำสั่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 31 ต.ค. 2564

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ข้อ 3 คือ การยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวสีฟ้า ในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มก็คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ให้ยกเลิกเคอร์ฟิวตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนการห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 500 คน ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว กล่าวคือ ในพื้นที่สีฟ้าหรือจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวนี้ให้จัดกิจกรรมได้ แต่ไม่เกิน 500 คน ให้นำวิธีปฏิบัติในส่วนของข้อห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค สำหรับขั้นตอนการขออนุญาตจัดกิจกรรม การพิจารณาอนุญาต รวมทั้งกิจกรรม หรือการรวมกลุ่มที่ได้รับการยกเว้น ให้สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ 4 และข้อ 5 ตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ออกมาก่อนหน้านี้มาใช้บังคับด้วย

สำหรับการเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในระยะเริ่มแรกของการดำเนินการเปิดเขตพื้นที่สีฟ้านำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ แม้จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงเวลานี้ โดยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายในอนาคตได้ ตามที่ได้ประกาศไว้แล้วเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไปตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนด

ทั้งนี้ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ แม้จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวยังคงขอให้ปิดไว้ก่อน  ส่วนการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาเพิ่มเติม และสามารถสั่งปิดได้ กรณีที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้นๆเพิ่มขึ้น

มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การกำหนดมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรบางประเภท เช่น มาจากประเทศที่ได้รับการอนุญาต หรือมีหนังสือรับรอง หรือหลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางที่ชัดเจน มีการตรวจยินยันว่าไม่มีการติดเชื้อโควิด มีหลักฐานการแสดงว่าได้รับวัคซีนครบ มีหลักฐานการชำระเงินค่าที่พัก รวมถึงการมีกรมธรรม์ประกันภัย และประกันสุขภาพด้วยไป

  • โควิดไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ว่า ทิศทางยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยเสียชีวิต แม้ตัวเลขจะกระดกขึ้นเล้กน้อย แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงลดลงอยู่ ยอดผู้ป่วยใหม่วันนี้อยู่ที่ 9,810 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,802,526 ราย หายป่วยกลับบ้าน 10,513 ราย หายป่วยสะสม 1,683,021 ราย ตั้งแต่ 1 เมษายนผู้ป่วยกำลังรักษา 102,317 ราย เสียชีวิต 66 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 2,585 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 583 ราย

เมื่อเทียบเป็นรายพื้นที่จะพบว่ากลุ่มที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นยังเป็นพื้นที่จังหวัดภาคใต้ในสัดส่วนล่าสุดอยู่ที่ 19% ส่วน กทม.และปริมณฑลลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 16% ต่างจังหวัดอยู่ที่ 65% ผู้เสียชีวิตวันนี้จำนวน 66 คน พบว่า 25 คนอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งสูงทีเดียว และ 5 จังหวัดภาคใต้ยังติดอันดับท็อป10 ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดอยู่ ทั้งสงขลา นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า คลัสเตอร์ของภาคใต้ที่ต้องติดตามคือ การพบการติดเชื้อระบาดเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่ตอนนี้เริ่มมีการกระจายเข้าไปสู่ครอบครัว และในชุมชน เช่น ตลาด ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า คนที่ใกล้ตัวเรา แม้จะเป็นเพื่อนเรา ญาติสนิท มิตรสหายของเรา เขาอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อ เป็นผู้นำพาเชื้อ มาสู้ครอบครัวของท่าน ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า