สทนช.เตือนเฝ้าระวัง 6 แหล่งน้ำขนาดใหญ่รับน้ำเกินปริมาณกักเก็บ

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เผยภาคอีสานและภาคตะวันออกยังมีฝนตกหนัก แม่สายหลักน้ำระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง เตือนเฝ้าระวัง 6 แหล่งน้ำขนาดใหญ่หวั่นรับน้ำเกิดปริมาณกักเก็บ

วันที่ 6 ก.ย.2562 สรุปสถานการณ์น้ำประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่องภาคเหนือและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนัก ในวันที่ 7 – 11 ก.ย.62 ประเทศไทยมี การกระจายของฝนลดลง ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ปริมาณฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (มม.) มีฝนตกหนักมากบริเวณ อ.เมือง จ.ตาก (78) อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ (77) อ.ตระการพืชผล (83) อ.โขงเจียม (73) จ.อุบลราชธานี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ (85) อ.ขลุง จ.จันทบุรี (71) อ.กระบุรี (88) อ.เมือง (80) จ.ระนอง อ.เมือง จ.ชุมพร (101)

แม่สายหลักน้ำระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในหลายพื้นที่ ได้แก่ แม่น้ำยม จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์, แม่น้ำน่าน อ.เวียงสา จ.น่าน, แม่น้ำเจ้าพระยา อ.ชุมแสง ห้วยหลวง จ.อุดรธานี, แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร,  ลำน้ำยัง จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร, แม่น้ำชี จ.ยโสธร, ลำเซบาย จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี, แม่น้ำมูล จ.อุบลราชธานี ขณะที่ลำน้ำเข็ก อ.วังทอง, แม่น้ำป่าสัก จ.เพชรบูรณ์ มีแนวโน้มลดลง แม่น้ำโขง พบเริ่มล้นตลิ่งบริเวณโขงเจียม จ.อุบลราชธานี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่าจะสูงกว่าตลิ่ง 1.7 -2.0 ม. ในวันที่ 7-8 ก.ย.62 นี้

ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 48,276 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59% แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ต้องเฝ้าระวัง หนองหาร (124%) สิรินธร (90%) ศรีนครินทร์ (81%) วชิราลงกรณ (82%) และแก่งกระจาน (81%) เฝ้าระวังน้ำน้อย 11 แห่ง โดยมีแนวโน้มปริมาตรน้ำเพิ่มขึ้น 32 แห่ง ซึ่งถึงปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงแหล่งน้ำรวม 16,655 ล้าน ลบ.ม. ระบายออกรวม 12,195 ล้าน ลบ.ม. แหล่งน้ำขนาดกลาง เฝ้าระวังน้ำน้อย 73 แห่ง มีแนวโน้มปริมาตรน้ำเพิ่มขึ้น 74 แห่ง แหล่งน้ำที่เสี่ยง น้ำมากกว่าความจุ 83แห่ง ได้แก่ เหนือ 5 แห่ง ตอน. 75 แห่ง ตะวันออก 3 แห่ง
คุณภาพน้ำ ค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ปกติ ค่าออกซิเจนในน้ำต่ำกว่าค่ามาตรฐาน บริเวณ แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำนครชัยศรี

เจ้าพระยาระบายน้ำตามแผน ส่วนชี-มูล ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนสิรินธร
ลุ่มเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก : ระบายน้ำ 2.21 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การ 4,159 ล้าน ลบ.ม.(23%) และเก็บน้ำสำรอง 3,768 ล้าน ลบ.ม. ช่วยชะลอน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ลุ่มชี- มูล 8 เขื่อนหลัก : ระบายน้ำ 1.24 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การ 1,345 ล้าน ลบ.ม.(23%) และเก็บสำรองน้ำเพิ่ม 919 ล้าน ลบ.ม. เพื่อใช้บริหารจัดการฤดูแล้ง 62/63
ลุ่มภาคตะวันออก 6 เขื่อนหลัก: ระบายน้ำ 0.78 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การ 465 ล้าน ลบ.ม.(33%) และเก็บน้ำสำรอง 372 ล้าน ลบ.ม.

เฝ้าระวังน้ำหลาก-ดินโคนถล่ม แจ้ง เตรียมพร้อม จ.แพร่ (7 หมู่บ้าน) พื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 16 จ. (จ.แม่ฮ่องสอน ลําปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร อุบลราชธานีขอนแก่น อํานาจเจริญ นครพนม ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ และ จ.สระแก้ว)

สถานการณ์น้ำในลำน้ำชี ที่เขื่อนวังยาง ระดับน้ำหน้าเขื่อน 139.14 ม.รทก. เพิ่มสูงขึ้น 0.44 ม. ระดับน้ำท้ายเขื่อน 138.99 ม.รทก. เพิ่มสูงขึ้น 0.44 ม. ได้เปิดแขวนบานประตูทั้ง 6 บานเพื่อให้น้ำไหลตามธรรมชาติ ความจุเก็บกัก 64.42 ลบ.ม. จากความจุกักเก็บที่ 33.00 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 191 ของความจุ ปริมาณการระบายน้ำ 792.28 ลบ.ม./วินาที หรือ 68.45 ล้าน ลบ.ม/วัน ปัจจุบันระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านในจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 4 อำเภอ เมือง โกสุมพิสัย กันทรวิชัย เชียงยืน เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำชีจะเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชนได้ ให้เก็บของขึ้นที่สูง เพราะมวลน้ำขึ้นเร็วมาก ระวังพนังกั้นน้ำตามจุดต่างๆ ด้วย