SHARE

คัดลอกแล้ว

(ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ยาต้านไวรัสโควิด-19 จากจีน)

รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยไทยยังไม่มีสารตั้งต้นผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ต้านโควิด-19 แต่ได้สำรองยาไว้แล้วกว่า 5 หมื่นเม็ด เตรียมกระจาย 3 ภาคส่วนเพื่อรักษาผู้ป่วยอาการหนัก

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงความพร้อมในการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)  รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ว่า ขณะนี้มียาอยู่ประมาณ 40,000-50,000 เม็ด จะพยายามกระจายยาไปให้ครอบคลุมกับหน่วยบริการที่สามารถดูแลผู้ป่วยตามแนวทางโดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤต เบื้องต้นได้มีการหารือและมีข้อสรุปจากศูนย์บริการฉุกเฉินกระทรวงสารณสุขจะมีการจ่ายยาให้กับ 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 กรมควบคุมโรคซึ่งสถาบันหลักที่ดูแลผู้ป่วยอยู่ขณะนี้คือ สถาบันบําราศนราดูร, ส่วนที่ กรมการแพทย์ซึ่งจะดูแลทั้งในส่วนของโรงพยาบาลราชวิถี สถาบันโรคทรวงอก และครอบคลุมถึงโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร และเอกชน, ส่วนที่ 3 กระยาไปยังเขตสุขภาพ โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพื่อให้ดูแลไปที่โรงพยาบาลขนาดเล็กที่เป็นเครือข่ายโรงพยาบาลสุขภาพ

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า หลักของการกระจายยาเพื่อให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนให้สามารถปฏิบัติตามแนวทางของการดูแลผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีความจำเป็นในการใช้ยา สำหรับประเทศไทยยังไม่มีสารตั้งต้นในการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ องค์การเภสัชกรรมกำลังเร่งเจรจากับประเทศที่มีสารตั้งต้น ตอนนี้การสำรองยาได้มีการประมาณการตั้งแต่ดีที่สุดจนถึงมีผู้ป่วยมากที่สุด ขั้นตอนระหว่างนี้อยู่ในการเตรียมการ ซึ่งมาตรการต่างๆที่จะเดินไปหลังจากนี้คือ มาตรการที่จะลดการแพร่ระบาด และลดจำนวนผู้ป่วย “การประมาณการตรงนี้เราจะประมาณการให้เพียงพอ ซึ่งทีมควบคุมโรคได้มีการสต็อกยาไว้จากตอนแรก 5,000 เม็ด  อย่างน้อยถ้ามีเคสหนักก็สามารถรองรับได้ แต่ไม่มากนัก เมื่อพอสถานการณ์ในต่างประเทศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง และไทยมีโอกาสที่จะมีการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทีมก็เริ่มขยายสต็อกยา เพิ่มจำนวนยาขึ้นไป อันนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ก่อนหน้านี้ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า องค์การเภสัชกรรมได้จัดหายาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้มีจัดหาและสำรอง “ยาฟาวิพิราเวียร์” (Favipiravir) หรือที่รู้จักกันในชื่อ T-705 หรือ Avigan เป็นยาต้านไวรัสที่พัฒนาโดยบริษัทฟูจิฟิล์ม โตยามะเคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น ยาดังกล่าวมีฤทธิ์ในการยับยั้ง RNA-dependent RNA polymerase ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวน และกระจายไปทั่วร่างกายได้ ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ได้มีการศึกษาแบบสุ่มในประเทศจีน เพื่อทำการทดลองรักษาโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 โดยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ประเทศจีนได้ให้การรับรองว่า ยาดังกล่าวเป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพต่อต้านโรคนี้ได้ ปัจจุบันประเทศจีน เริ่มมีการผลิตยาชื่อสามัญ ฟาวิพิราเวียร์

ขณะนี้ อภ.ได้ร่วมกับกรมควบคุมโรค สำรองยาดังกล่าวไว้แล้วจำนวน 40,000 เม็ด สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 800 คน รวมทั้งได้ประสานงานกับบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบในต่างประเทศ เพื่อนำเข้าวัตถุดิบมาวิจัยพัฒนาและผลิตยาดังกล่าวด้วย พร้อมยืนยันมีศักยภาพ และพื้นที่การผลิตสามารถที่จะผลิตยาดังกล่าวตามมาตรฐานการผลิตที่ดี GMP หากมีการจัดหาวัตถุดิบเข้ามาได้

นอกจากนี้ ได้เร่งกำลังการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ Lopinavir/ritonavir และไข้หวัดใหญ่ Oseltamivir ซึ่งเป็นยาที่โรงพยาบาลราชวิถีใช้รักษาผู้ป่วยโควิด – 19 ได้ผล สามารถรองรับผู้ป่วยได้ถึง 2 แสนคน รวมถึง มีการผลิตยา Chloroquine ซึ่งใช้เป็นยารักษามาลาเรียผลิตขึ้นคลังได้ในเดือนเมษายนนี้ “องค์การฯ ในฐานะเป็นองค์กรหลักเพื่อความมั่นคงทางยา และเวชภัณฑ์ของประเทศที่ทันสมัย ภารกิจหนึ่งที่สำคัญคือการวิจัย พัฒนา ผลิต และจัดหายาและเวชภัณฑ์ให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยไวรัสโควิด-19” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าว

ข้อมูลจาก

https://www.facebook.com/fanmoph/videos/198099584783483/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า