ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ แถลง “เป็นไปไม่ได้ที่จะสมัคร” หลังมีกระแสข่าวจะลงสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.
วันที่ 14 ธ.ค. 2564 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า คนที่เคยทำงานกับผมมาโดยตลอดจะรู้ว่าผมจะให้ความเห็นอย่างหนึ่งว่า ทุกคนมีหมวกที่สวมคนละบทบาท หากเราสวมบทบาทใดแล้ว เราก็อยากจะทำบทบาทนั้นให้ดีที่สุด วันนี้ผมเลือกสวมบทบาทราชการ ซึ่งผมเรียนวิศวะมา แต่คุณแม่อยากให้ผมรับราชการ เมื่อผมมารับราชการแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด
ผมกราบเรียนว่าในระบบราชการที่ผ่านมา ผมเติบโตมาจากกรมที่ดิน เราปฏิรูปมีระบบคอมพิวเตอร์ ลดปัญหาทุจริตคอรัปชันลงไปได้ ผมและทีมงานหลายคนได้พัฒนาระบบแอปพิเคชั่นเพื่อให้ประชาชนได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินได้สะดวก ทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่าย จนกระทั่งทางกระทรวงมหาดไทยได้ให้โอกาสผม ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย ต่อมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง และจังหวัดปทุมธานี จะเห็นว่าทุกพื้นทีที่ผมอยู่ผมทำงานเต็มที่จริงๆ ผมสุขของผมคือได้เห็นประชาชนมีความสุข เห็นประชาชนยิ้ม เมื่อผมสวมหมวกราชการผมก็สวมหมวกราชการให้ดีที่สุด และความภาคภูมิใจของงานราชการ คือการเดินจากราชการไปจนเกษียณอายุราชการอย่างสง่าผาเผย นี่คือความตั้งใจจริงๆ หากเกษียณอายุราชการแล้วผมอยากสอนหนังสือ
ตลอดในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะต้องย้ายทะเบียนบ้าน เหมือนนายอำเภอที่จะต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ในบ้านพักนายอำเภอนั้นๆ การที่เราจะเป็นผู้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และเราไม่ใช่คนในพื้นที่นั้น มันไม่เหมาะสม นายอำเภอก็ต้องอยู่ในอำเภอของตนเองอยู่ในบ้านพักของนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องย้ายทะเบียนบ้านเข้าจังหวัดนั้นๆ เมื่อผมไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผมก็ย้ายทะเบียนบ้านจากกรุงเทพฯ เข้าจังหวัดเชียงราย จากนั้นย้ายมายังจังหวัดพะเยา จากนั้นย้ายมาลำปาง และมาจังหวัดปทุมธานี วันนี้ทะเบียนบ้านของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เลขที่ 6 ถนนเทศปทุม ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ผมเชื่อว่าคุณสมบัติลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เป็นไปไม่ได้ แต่ผมคงไม่ตอบเองให้ทุกคนไปหาข้อมูลเองดีกว่า เพราะผมเห็นว่าสื่อมวลชนทุกคนก็ค้นหาข้อมูลอยู่แล้ว ผมเองเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสมัคร แต่ผมก็ต้องขอบคุณพี่น้องหลายๆ คน และผู้ใหญ่ใจดีหลายๆ คนที่พยายามจะทาบทามหรือเชิญชวนหรือให้เกียรติเราในตรงนั้น เพราะผมเชื่อว่า การที่มีคนมาสอบถาม หรือแม้แต่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งก็ยังบอกว่า อยากให้ผู้ว่าฯ ไปช่วยที่กรุงเทพฯ ถือว่า ผมได้รับเกียรติยศอย่างสูงที่ได้รับเกียรติตรงนั้น แต่ในอีกมุมก็มีคนบอกว่าผมพึ่งจะอยู่จังหวัดปทุมธานีได้เพียง 2 เดือน แล้วผมเลือกไปทำงานที่อื่น แล้วผมจะตอบพี่น้องชาวปทุมธานีได้อย่างไรว่าผมไม่รักคนปทุมแล้วหรือ
ที่ผ่านมาผมอยู่จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา ผมทำงานให้พื้นที่เขาอย่างเต็มที่ วันนี้ผมเชื่อว่าใน 3 จังหวัดที่ผ่านมามีคนรักผมมีมากกว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้าหรือคนเกียดผม ผมถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวผมเองและเป็นเกียรติยศของครอบครัวแล้ว วันนี้ผมมาอยู่จังหวัดปทุมธานี หากถามคนปทุมธานีแล้วผมเชื่อว่า เขาเห็นความแตกต่าง และผมก็เชื่อแผนที่เราได้คิดอยู่บรรลุวัตถุประสงค์ และชาวปทุมคงอยากให้ผมเป็นผู้ว่าจังหวัดปทุมธานีต่อ ที่ผมพูดคงไม่ใช่คำตอบ แต่พี่น้องและประชาชนคงตีความได้