‘กาสิโน’ แห่งแรกของญี่ปุ่น ความหวังสร้างเม็ดเงิน บนการเดิมพันครั้งใหญ่

สัปดาห์ก่อนญี่ปุ่นได้เปิดเผยถึงโปรเจ็กต์ใหญ่ยักษ์ที่กำลังจะสร้างในโอซาก้า นั่นคือ ‘กาสิโนรีสอร์ต’ ขนาดมหึมา ที่ญี่ปุ่นหวังว่านี่จะเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเหมือนกับสิงคโปร์ คือดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างเม็ดเงินได้เป็นจำนวนมาก

แต่ถึงอย่างนั้น เป้าหมายอันแสนทะเยอทะยานยังมาพร้อมกับความท้าทายหลายด้าน และดูเหมือนว่านี่จะเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ในวันที่รัฐบาลประกาศอนุมัติแผนสร้างกาสิโนรีสอร์ตแห่งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) กล่าวว่า รีสอร์ตแบบผสมผสานแห่งนี้มีความสำคัญต่อประเทศ และเปรียบว่านี่จะเป็น “โรงไฟฟ้าด้านการท่องเที่ยว”

“นี่จะมีส่วนช่วยให้ประเทศของเราเติบโต” นายคิชิดะกล่าว

สำหรับรีสอร์ตแบบผสมผสานแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมความบันเทิง คือมีทั้งโรงละคร กาสิโน ห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ประชุม โรงแรม ไปจนถึงท่าเรือข้ามฟาก ซึ่งญี่ปุ่นหวังว่านี่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและกระตุ้นตัวเลขการจ้างงานให้เติบโต

โดยรีสอร์ตแห่งนี้รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะตั้งอยู่ที่เกาะที่มีชื่อว่า ยูเมะชิมะ (Yumeshima) ในโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ โดยที่นี่เป็นเกาะเทียมที่เกิดจากการถมทะเล สร้างขึ้นเพื่อการจัดงาน World Expo ในปี 2025

ที่บอกว่าเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ เพราะนี่เป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูงถึง 1.08 ล้านล้านเยน หรือราว 2.77 แสนล้านบาท

โดยมีกิจการร่วมค้า Osaka IR เป็นผู้บริหารจัดการรีสอร์ต ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าที่ประกอบไปด้วยกลุ่มนักลงทุน 20 ราย เช่น MGM Resorts International, Orix, Panasonic Holdings และ Daikin Industries

ญี่ปุ่นคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2029 และประเมินว่ารีสอร์ตแห่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 20 ล้านคน/ปี สร้างรายได้ให้ประเทศปีละกว่า 5.2 แสนล้านเยน หรือราว 1.33 แสนล้านบาท

“งาน Osaka World Expo ในปี 2025 และกาสิโนรีสอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งนี้ จะพลิกผันโชคชะตาที่ตกต่ำของภูมิภาคคันไซได้ในที่สุด” ผู้บริหารคนสำคัญในเขตคันไซ ซึ่งรวมถึงโอซาก้าและเกียวโตกล่าว

โดยหลักแล้วกาสิโนรีสอร์ตแห่งนี้จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาคคันไซ ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะสูงถึง 1.1 ล้านล้านเยนต่อปี สร้างงานได้มากกว่า 93,000 ตำแหน่ง และคาดว่าโอซาก้าจะสามารถเก็บภาษีและรายได้อื่นๆ จากธุรกิจนี้ได้กว่า 1.06 แสนล้านเยนต่อปี

“นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของโอซาก้า” ฮิเดยูกิ โยโกยามะ นายกเทศมนตรีของโอซาก้ากล่าว

ทั้งนี้ โอซาก้านั้นมองสิงคโปร์เป็นต้นแบบ โดยบริเวณ Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2010 แต่ละแห่งนั้นมีโรงละคร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และสวนสนุก

ความสำเร็จของสิงคโปร์นั้นเห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2019 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 19 ล้านคน เพิ่มขึ้น 60% จากทศวรรษก่อนหน้า 

สะท้อนว่าแม้ว่าสิงคโปร์จะมีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่ก็รักษาสถานะการเป็นที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติได้ หลังจากเปิดรีสอร์ตแบบผสมผสาน

นั่นทำให้โอซาก้าอยากทำรีสอร์ตแบบนี้ขึ้นบ้าง ที่จะสามารถดึงดูดผู้คนทั่วโลกได้

โดยในรีสอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งนี้จะมีร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายงานฝีมือแบบดั้งเดิม สถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับศิลปะการจัดดอกไม้และพิธีชงชาแบบญี่ปุ่น รวมถึงศูนย์การท่องเที่ยวที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในคันไซ

แม้จะมีสิ่งดึงดูดการท่องเที่ยวหลายอย่าง แต่เอาเข้าจริงๆ โอซาก้านั้นคาดหวังว่าสัดส่วนรายได้ 80% นั้นจะมาจากธุรกิจกาสิโน ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายสำคัญ

ถามว่าทำไม …

สาเหตุสำคัญมาจากการกฎระเบียบของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จำกัดพื้นที่เล่นการพนันไว้เพียง 3% ของรีสอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งนี้ นั่นหมายความว่ากาสิโนที่นี่จะจุคนได้่สูงสุดที่ 11,500 คน

แต่ด้วยเป้าหมายทางการเงินของโอซาก้า เท่ากับว่าจะต้องดึงดูดคนมาที่กาสิโนให้ได้ถึง 16 ล้านคนต่อปี ดังนั้น เพื่อให้ไปถึงตัวเลขดังกล่าว กาสิโนที่นี่จะต้องมีแขกหน้าใหม่ 4 รอบ/วัน

ซาคุตะ โอทานิ รองศาสตราจารย์แห่ง Yasuda Women’s University กล่าวว่า “พวกเขาอาจสามารถบรรลุเป้าหมายจำนวนผู้มาเยือนได้ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็อาจมีไม่เพียงพอ

“ท้ายที่สุด การพึ่งพากาสิโนเป็นหลัก อาจเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

ความท้าทายอีกอย่างคือการป้องกันการติดการพนัน

โดยสิงคโปร์เรียกเก็บภาษีเข้ากาสิโนจากพลเมืองวันละ 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 3,800 บาท) เพื่อเป็นเกราะป้องกันการติดพนัน และทำให้การติดการพนันไม่ได้กลายเป็นประเด็นร้ายแรง

แต่สำหรับกาสิโนโอซาก้า ชาวญี่ปุ่นจะถูกจำกัดให้สามารถเข้าได้ 3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ 10 ครั้งภายในระยะเวลา 28 วัน มีค่าผ่านประตู 6,000 เยนเท่านั้น (ราว 1,500 บาท) ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าได้ฟรี

ไม่เพียงเท่านั้น โอซาก้าจะต้องต่อสู้กับการแข่งขันจากกาสิโนอื่นๆ ในเอเชีย โดยนอกจากสิงคโปร์แล้ว ยังมีรีสอร์ตคอมเพล็กซ์ในมาเก๊าและเกาหลีใต้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการต่อต้านการสร้างกาสิโนจากคนในพื้นที่ที่จะเป็นอุปสรรค ยกตัวอย่างคือกรณีของโยโกฮาม่าและซัปโปโร ที่ต้องยกเลิกแผนการสร้างรีสอร์ตคอมเพล็กซ์ไป เพื่อตอบสนองต่อการคัดค้านจากประชาชน

โดยจังหวัดนางาซากิเป็นพื้นที่อื่นเพียงแห่งเดียวที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการทำรีสอร์ตคอมเพล็กซ์อย่างเป็นทางการ ประชาชนเห็นด้วย แต่การอนุมัติถูกเลื่อนออกไปเพื่อรอการตรวจสอบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นนั้นวางแผนสร้างรีสอร์ตคอมเพล็กซ์ในประเทศถึง 3 แห่ง แต่ยังไม่มีแผนที่จะเปิดรับสมัครเมืองเจ้าภาพเมืองถัดไปในตอนนี้

และถ้าที่โอซาก้าไม่ประสบความสำเร็จดังหวัง แนวคิดการสร้างรีสอร์ตคอมเพล็กซ์ของญี่ปุ่นก็คงเป็นไอเดียที่ตกกระป๋องไปในท้ายที่สุดนั่นเอง

ที่มา: https://asia.nikkei.com/Business/Travel-Leisure/Japan-s-1st-casino-looks-to-copy-Singapore-s-success

https://www.reuters.com/markets/asia/japan-approves-osaka-site-countrys-first-casino-2023-04-14/