วันที่ 22 พ.ค.63 บีบีซีรายงานว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้น 2.4 ล้านคน ทำให้ยอดรวมคนตกงานในสหรัฐฯ ตลอด 9 สัปดาห์ที่ผ่านมาสูงถึง 38.6 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 20.5 ล้านคน คิดเป็น 14.7% หรือ 1ใน 4 ของจำนวนคนวัยทำงานในสหรัฐฯ นอกจากนี้จำนวนผู้ขอสวัสดิการคนว่างงานเมื่อวันที่ 28 มีนาคม มีจำนวนกว่า 6.8 ล้าน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยว่าชื่อว่ามาตรการความช่วยเหลือของรัฐบาลมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์จะช่วยเยียวยาความเสียหายจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้ และแม้ว่าเราอาจจะเห็นจำนวนคนตกงานมากขึ้น และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แต่นายมนูชินเชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปัจจุบันรัฐทั้ง 50 รัฐในอเมริกาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาด โดยระดับการผ่อนคลายมาตรการจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่
ด้านผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์เผยว่า อัตราการจ้างงานมีแนวโน้มที่จะต่ำลงเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากหลายๆ บริษัท ตัวอย่างเช่นอูเบอร์ ที่เพิ่งประปลดพนักงานทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เล็งเห็นผลกระทบและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกินเวลานานในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการประเมินว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 37% จะประสบปัญหาด้านรายได้ภายในเดือนหน้า ทั้งนี้ตามรายงานจากกระทรวงพาณิชย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเผยว่า ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ยอดขายของร้านค้าปลีกทั่วสหรัฐฯ ตกลง 16.4%