Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้องอดีตอธิการบดี สจล. คดีทุจริตเงิน 700 ล้านบาท ส่วนอดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สั่งจำคุก 95 ปี และสั่งจำคุกคนรับโอนเงิน 55 ปี พร้อมให้ใช้เงินคืน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วม หลายร้อยล้านบาท ตามสัดส่วนที่ทำผิด

วันที่ 20 ส.ค.2562 วานนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาว่านายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 4 มีความผิดร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และปลอมกับใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา ส่วนนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด จำเลยที่ 6 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) แต่ผู้เปิดบัญชีรับโอนเงินจากจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตามมาตรา 335 โดยการกระทำของจำเลยที่ 4 และที่ 6 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดให้จำคุกนายทรงกลด ทั้งสิ้น 19 กระทง มีกำหนด 95 ปี และให้จำคุกนายกิตติศักดิ์ รวม 11 กระทง มีกำหนด 55 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วทั้งจำเลยที่ 4 และที่ 6 ให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมาย คนละ 20 ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 4 และที่ 6 ต่อจากคดีในศาลอาญามีนบุรีนั้นปรากฏว่าจำเลยที่ 4 ได้จำคุกโทษสูงสุดแล้ว 50 ปี ส่วนจำเลยที่ 6 จำคุกสูงสุด 20 ปี จึงไม่อาจนับโทษรวมได้อีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2 )

ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งนั้น ปรากฏว่า เงินที่จำเลยที่ 4 เบิกถอนไปโดยทุจริตนั้น แม้เป็นเงินฝากบัญชีของ สจล.โจทก์ร่วมที่ 1 แต่ขณะเกิดเหตุถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ที่อยู่ในความครอบครองของธนาคารไทยพาณิชย์ฯ โจทก์ร่วมที่ 2 ซึ่งเงินของ สจล.นั้น ทางธนาคารได้ชดใช้ให้จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงให้จำเลยที่ 4 ชดใช้เงินคืนธนาคารไทยพาณิชย์ฯ โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 688,578,411.44 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินที่กระทำผิดแต่ละครั้งนับจากปี 2554, 2555, 2557 โดยให้จำเลยที่ 6 ร่วมกับจำเลยที่ 4 ชดใช้เงินในจำนวน 563,386,411.44บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินที่กระทำผิดแต่ละครั้งด้วย และให้จำเลยที่ 4, 6 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายที่ 3 อีก 20 ล้านบาท นอกจากนี้ พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8 ทั้งนี้แม้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง จะยกฟ้องจำเลยที่ 2, 3, 4, 7, 8 แต่จำเลยดังกล่าวก็ยังต้องถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำคลองเปรม เนื่องจากถูกตัดสินโทษในคดีลักเงิน สจล.สำนวนแรกของศาลอาญามีนบุรี ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์

นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. กล่าวขอขอบคุณที่ให้ความเมตตาและให้ความยุติธรรม ซึ่งศาลพิเคราะห์ค่อนข้างละเอียด ขณะที่ที่เงินหายไปเป็นคณะกรรมการชุดก่อนและชุดหลัง ส่วนตัวเองเป็นอธิการบดีในช่วงกลาง โดยการที่ถูกฟ้องนั้นค่อนข้างไม่ยุติธรรมและมองว่าเป็นการถูกกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตามในศาลชั้นต้นทั้ง 2 ศาลพิพากษายกฟ้อง ก็รู้สึกดีใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการลักทรัพย์

ด้านนายพีรันธร วีระภรณ์พิมล ทนายความ กล่าวว่า ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาแล้วว่านายถวิลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถอนเงินบัญชีทั้ง 7 บัญชี และไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับการทุจริต แต่จะมีประเด็นการเปิดบัญชีโดยไม่มีอำนาจในการเปิด แต่การไม่มีอำนาจในการเปิด พอสืบพยานเสร็จก็ทราบว่าทางจำเลยที่ 4 ได้นำเอกสารที่นายถวิลเซ็นไว้ตอนมีอำนาจมาใช้เอกสารทั้งหมดที่ทำขึ้นมา จึงเป็นการใช้เอกสารที่เป็นเท็จ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ต้องรอดูว่าอัยการจะอุทธรณ์คดีหรือไม่เพราะอัยการฟ้องมา 8 คน ยกฟ้องไป 6 คน ก็ต้องเตรียมคำพิพากษาเพื่อรอแก้อุทธรณ์ของอัยการต่อไป

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า