ภัยแล้งวิกฤตกระทบ 12 จังหวัดอีสาน-เหนือ มท.1 เล็งถกงบช่วย ปชช.เดือดร้อน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

มท.1 แจงให้ความเป็นธรรมชาวสุรินทร์ไม่เก็บค่าประปาเพราะน้ำไม่ไหล-มีตะกอน เตรียมถกแก้ภัยแล้ง-อุทกภัย ล่าสุดประกาศพื้นประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว 12 จังหวัด

วันที่ 20 ส.ค.2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือการบริหารจัดการน้ำว่า ขณะนี้มีปัญหาในการบริหารจัดการน้ำ 2 รูปแบบ คือ ภัยแล้ง และอุทกภัย จะมีบูรณาการการทำงานของหลายส่วนที่เกี่ยวข้องจะเน้นลงไปในระดับพื้นที่ ส่วนกรณีที่จะพิจารณาไม่เก็บค่าน้ำประปา ของสาขาอำเภอเมืองสุรินทร์ เกิดขึ้นเพราะ พบปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำและเมื่อลดแรงดันน้ำ จาก 30,000 คิว เหลือ 12,000 คิว ทำให้ปลายท่อประปา มีแต่ลมไม่มีน้ำ ประชาชนจึงได้รับผลกระทบ มองว่าการพิจารณาไม่เก็บค่าน้ำในเดือนที่ผ่านมาจะเป็นแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงการเตรียมใช้งบฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ในแต่ละจังหวัดว่าต้องรอการหารือในคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ และแต่ละจังหวัดก็ต้องวางแผนงานโครงการเพื่อเร่งดำเนินการโดยอาจต้องนำแผนงานโครงการที่มีอยู่แล้วมาดำเนินการเพื่อให้ทันต่องบประมาณภายในกันยายนนี้

ปภ.รายงาน 12 จังหวัดประสบภัยพิบัติแล้ง

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ถึงปัจจุบัน (20 ส.ค.62) มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนแล้ง/ฝนทิ้งช่วง) 12 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ สระแก้ว พิษณุโลก พิจิตร และขอนแก่น รวม 66 อำเภอ 477 ตำบล 5,670 หมู่บ้าน 2 เทศบาล 101 ชุมชน โดย ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านและจุดแจกจ่ายน้ำ อย่างต่อเนื่อง พร้อมระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยผันน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา ขุดลอกแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ขุดเจาะและเป่าล้างบ่อบาดาล รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ