จีนยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจาก “ไวรัสอู่ฮั่น” พุ่ง 25 ราย พบผู้ติดเชื้ออีก 830 คน

การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อปอดอักเสบจากไวรัสดังกล่าวพุ่งสูง 25  ราย ติดเชื้ออีก 830 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังพิจารณาว่าจะประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศได้แล้วหรือไม่

วันนี้ (24 ม.ค. 2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนประกาศจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) หรือ ไวรัสอู่ฮั่น จากเดิมอยู่ที่ 654 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 830 ราย ใน 29 เมืองของประเทศจีน นับจากสิ้นสุดวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(23 ม.ค. 63) ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย จากเดิม 18 ราย ซึ่งเป็นคนในพื้นมณฑลหูเป่ย 24 ราย และ 1 ราย เป็นคนในพื้นที่มณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของประเทศจีน

นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อนอกพรมแดนจีนเพิ่มขึ้นอีกในหลายประเทศ ดังนี้

ติดเชื้อ              เสียชีวิต

จีน                                     830                25

ไต้หวัน                                1

มาเก๊า                                 2

ฮ่องกง                                 2

เวียดนาม                             2

ไทย                                    4

ญี่ปุ่น                                  2

เกาหลีใต้                             1

สิงคโปร์                              1

สหรัฐอเมริกา                       1

รวม                                  846                 25

จากรายงานของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติยังระบุอีกว่า จากการตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มขึ้นอีก 1,072 ราย กระจายอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 20 แห่ง

ส่วนที่อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ออสเตรเลีย 1 คน และสหราชอาณาจักร 4 คน ขณะที่ใน ซาอุดิอาระเบีย พบหญิงสาว 1 รายมีอาการป่วยคล้าย “ไวรัสโคโรน่า 2019” จากการตรวจสอบ ล่าสุด พบว่าหญิงสาวรายนี้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เเต่มีอาการป่วยจากไวรัสเมอร์ หรือ ไวรัสโคโรน่า ที่แพร่ระบาดในปี 2012

ส่วนผู้ที่เคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อและผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้ออีกเกือบ 6000 ราย อยู่ระหว่างติดตามเฝ้าระวังอาการ โดยผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมด มีประวัติเดินทางเข้าออกประเทศจีนโดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่น

ลักษณะอาการของผู้ป่วย จะมีอาการคล้ายไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ตัวร้อน ต่างๆ ในผู้ป่วยบางรายมีอาการของระบบทางเดินหายใจ และ โรคปอดบวม  และ ผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก และ ผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่เป็นชาย มีอายุระหว่าง 48-89 ปี และ ผู้เสียชีวิตทุกคนมีโรคประจำตัว

ขณะที่ข้อมูลเฉลี่ยอายุของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสทั้ง 18 คน ในจีนดังนี้  9 คน อายุ มากกว่า/เท่ากับ 80 ปี, 2 คน อายุ มากกว่า/เท่ากับ 70 ปี, 5  คน อายุระหว่าง 60 – 70 ปี และ 2 คน  น้อยกว่า 60 ปี

จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความกังวลว่าเชื้อโรคจะแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น แม้องค์การอนามัยโลก ( WHO ) จะเล็งเห็นถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าควรประกาศให้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่  แต่จะมีการประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ มีคำแนะนำจากแพทย์ชาวฮ่องกง – (หนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเมื่อครั้งโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง หรือ (SARS) ระบาดขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2546 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 349 ราย) ว่า เมื่อไรก็ตามที่ เราคอแห้ง ไวรัสนี้จะแพร่เข้าสู่ร่างกายได้ภายใน 10 นาที เพราะฉนั้นจะต้องคอยจิบน้ำอุ่นให้คอชุ่มชื้นอยู่ตลอด หลีกเลี่ยงอาหารทอดกรอบ และ กินวิตามิน C ก็จะช่วยป้องกันได้ส่วนหนึ่ง

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-01/24/c_138730533.htm