ยูนิเซฟร่อนจดหมายรัก ‘สัปดาห์ภูมิคุ้มกันโรค’ ขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ยูนิเซฟเผยแพร่จดหมายรักเนื่องในสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week)

“เนื่องในสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week) ซึ่งตรงกับสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนของทุกปี ยูนิเซฟอยากกล่าวคำขอบคุณกับทุกคนผ่านจดหมายรักฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นวัคซีน บุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนคนงานที่บรรจุวัคซีนในโรงงานทำให้เด็ก ๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลกได้รับวัคซีน และขอบคุณเราทุกคนที่มีส่วนร่วมสนับสนุนให้เกิดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและทำให้โลกนี้ปลอดภัยยิ่งขึ้น”

UNICEF/ Sukhum Preechapanich ประเทศไทย

“จดหมายรักถึงคนที่ฉันไม่เคยพบหน้า

ในปี 1796 เจมส์ ฟิปปส์ ซึ่งตอนนั้นอายุ 8 ขวบ ได้รับวัคซีนครั้งแรกจากเอ็ดเวอร์ด เจนเนอร์ วัคซีนที่ว่าคือวัคซีนไข้ทรพิษซึ่งเกิดจากนวัตกรรมที่สะสมมาหลายศตวรรษก่อนหน้านี้จากเหล่าแพทย์จากแอฟริกาเหนือ ย่ายายในเมืองคอนสแตนติโนเปิล และบรรดาหมอในราชวงศ์หมิงของประเทศจีนที่พยายามหาวิธีปกป้องคนรุ่นหลังให้รอดพ้นจากการเจ็บป่วยล้มตาย

UNICEF ประเทศกัมพูชา

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ฉันรู้ดี ฉันทำงานในองค์การยูนิเซฟ ซึ่งตลอด 75 ปีที่ผ่านมาเราเป็นองค์กรจัดหาวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและช่วยให้เด็กร้อยละ 45 ทั่วโลกได้รับวัคซีน ครั้งหนึ่งฉันเองก็เคยเป็นเด็กที่ไม่ต่างจากเด็ก ๆ ที่เราทำงานด้วย ฉันคงไม่มีทางได้มาถึงวันนี้ถ้าไม่ได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นจดหมายรักจากฉันและทุกคนที่ยูนิเซฟ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเด็กทุกคนที่มีชีวิตอยู่รอดได้จนกระทั่งทุกวันนี้เพราะวัคซีน

เพราะเราอยากจะกล่าวคำ ขอบคุณ

UNICEF/Ulet Ifansasti ประเทศอินโดนีเซีย

ขอบคุณโจนัส ซอลค์ นักไวรัสวิทยาที่คิดค้นวัคซีนป้องกันโปลิโอ ขอบคุณเคที่ คาริโคที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการสร้างเทคโนโลยี mRNA ทำให้เราต่อสู้กับโควิด-19 ได้ ขอบคุณแมกซ์ ไทเลอร์ นักไวรัสวิทยาและแพทย์รางวัลโนเบล และทีมงานที่ยอมเสียเลือดของตัวเองให้กับยุงเพื่อคิดค้นวัคซีนป้องกันไข้เหลือง

ขอบคุณคนงานที่บรรจุวัคซีนในโรงงาน ขอบคุณนักออกแบบสำหรับตู้แช่พลังงานแสงอาทิตย์ที่รักษาความเย็นให้กับวัคซีน ขอบคุณคนขับเรือ นักบิน และ คนขับรถที่เดินทางฝ่าน้ำท่วมในหน้ามรสุมหรือฝ่าหิมะหลายไมล์เพื่อส่งมอบวัคซีนเข็มแรกให้กับเด็กทารก

UNICEF/ Frank Dejongh ประเทศไอวอรี่ โคสต์

ขอบคุณอูฐในประเทศปากีสถานที่บรรทุกวัคซีนเดินทางกว่าสองสัปดาห์เพื่อนำวัคซีนป้องกันโรคหัดและหัดเยอรมันไปให้กับเด็กมากกว่า 90 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ขอบคุณเหล่าหมอพยาบาลที่คอยส่งเสียงหยอกล้อเด็ก ๆ เพื่อให้การฉีดวัคซีนไม่เจ็บจนเกินไป ขอบคุณเอสวิล เพรสลีย์ที่โชว์การฉีดวัคซีนเรียกความมั่นใจให้กับสาธารณชนผ่านโทรทัศน์ในปี 1956 ก่อนจะขึ้นเวทีบอกทั้งโลกให้รู้จักกับโรคโปลิโอ เพราะนั่นคือภารกิจที่ราชาทำ

นี่คือจดหมายบอกรักถึงทุกคนเพราะความรักทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้… แด่ “วันแห่งความสงบสุข” ในพื้นที่สู้รบเมื่อยูนิเซฟจัดการข้อตกลงหยุดยิงเพื่อฉีดวัคซีนให้กับเด็ก ๆ… แด่จิม แกรนท์ ผู้อำนวยการบริหารองค์การยูนิเซฟในทศวรรษ 80 ที่รณรงค์จนทำให้การฉีดวัคซีนในเด็กทั่วโลกก้าวกระโดดจากร้อยละ 20 เป็น 80… แด่องค์การอนามัยที่ริเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในปี 1966 และภายในระยะเวลาเพียง 11 ปี ได้ทำให้โรคไข้ทรพิษหมดไปจากโลกนี้

UNICEF/ Minzayar Oo ประเทศเมียนมาร์

ในแต่ละปี วัคซีนได้ช่วยชีวิตเด็กเกือบ 3 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเด็กจำนวนมากที่ตกหล่น ในขณะที่เราลงทุนเพื่อฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาด เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียวของยุคนี้ที่จะสร้างระบบดูแลสุขภาพให้ครอบคลุมเด็กทุกคน เพราะฉะนั้นนี่คือจดหมายรักถึงผู้นำประเทศทั่วโลก – ผู้ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ  เพราะหนทางเดียวที่ทำให้เรามาไกลถึงวันนี้ และหนทางเดียวที่จะทำให้เราก้าวต่อไปในอนาคต ก็คือ การลงทุนสร้างระบบดูแลสุขภาพให้เข้มแข็งสำหรับทุกคน

NICEF/Fredrik Lerneryd ประเทศแกมเบีย

และคนสุดท้ายที่ต้องขอบคุณคือ คุณ นี่คือจดหมายรักถึงคุณ ถ้าหากคุณเคยได้รับวัคซีน หรือลูก ๆ ของคุณเคยได้รับวัคซีน นั่นหมายความว่าคุณได้เป็นส่วนหนึ่งของวงล้อมที่ทำให้เราทุกคนปลอดภัย คุณเป็นผลพิสูจน์ว่ามนุษย์สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยความทุ่มเท ความร่วมมือ และความรัก พวกเราทุกคนที่ยูนิเซฟและเด็กทุกคนที่ยังมีชีวิตรอดปลอดภัยเพราะวัคซีนขอขอบคุณจากใจ

ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ”

#LongLifeForAll