ป.ป.ส.ยัน พบเคตามีนปะปนกับไตรโซเดียมฟอสเฟส ทำให้น้ำยาทดสอบเปลี่ยนเป็นสีม่วงเหมือนกัน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยืนยัน มีการซุกซ่อนเคตามีนปะปนกับสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่มีโครงสร้างทางเคมีทำให้น้ำยาทดสอบเปลี่ยนเป็นสีม่วงเหมือนกัน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมเตรียมขยายผลหาผู้กระทำความผิด โดยในเบื้องต้นยังไม่พบนักการเมืองเกี่ยวข้อง

วันที่ 22 พ.ย.2563 นายวิไชย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าตรวจสอบห้องในสำนักงานป.ป.ส.ภาค 1 อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บ ยาเค ที่ตรวจยึดได้จากจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยห้องดังกล่าวมีมาตรการในรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ผู้ที่จะเข้ามาในอาคารได้ต้องผ่านการสแกนนิ้ว และมีกล้องวงจรปิดติดอยู่

นายวิไชย ยืนยันว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบของกลางไปแล้วทั้งหมด 66 กระสอบจาก 475 กระสอบ ซึ่งพบว่าเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ยังไม่พบสารเคตามีน

ส่วนที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่าเป็นเคตามีนนั้น เนื่องจากพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นตัวถุงกระสอบ และพฤติการณ์ตรงกับข้อมูลที่ทางไต้หวันแจ้ง และสามารถตรวจยึดเคตามีน 300 กิโลกรัม ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันเมื่อมีการใช้น้ำยาสุ่มตรวจสอบถุงกระสอบที่พบในโกดัง ขึ้นเป็นสีม่วง จึงเชื่อว่า เป็นเคตามีน แต่เมื่อตรวจสอบในห้องปฏิบัติการจึงเพิ่งทราบว่า สารไตรโซเดียมฟอสเฟต มีโครงสร้างทางเคมี ที่ทำให้น้ำยาทดสอบเปลี่ยนเป็นสีม่วงเหมือนเคตามีนเช่นกัน

เลขาธิการป.ป.ส. ยังระบุอีกว่า การซุกซ่อนเคตามีนปะปนไปกับถุงไตรโซเดียมฟอสเฟตในลักษณะนี้เป็นครั้งแรกที่ตรวจพบ ซึ่งสารไตรโซเดียมฟอสเฟตถือว่าไม่เป็นสารผิดกฎหมายทั้งไทย และไต้หวัน พร้อมยืนยันว่ากระสอบของกลางทั้งหมด เป็นกระสอบชุดเดียวที่ตรวจยึดได้ ไม่ได้มีการสลับหรือเปลี่ยนตามที่สังคมตั้งข้อสังเกต

โดยขณะนี้ได้เร่งขยายผลถึงผู้กระทำผิด แต่เบื้องต้นยังไม่พบนักการเมืองเกี่ยวข้อง แต่หากขยายผลถึงบุคคลใดก็จะดำเนินคดีทุกราย โดยหลังจากนี้จะมีการส่งของกลางทั้งหมดอีก 405 กระสอบ ไปให้หน่วยงานอื่นร่วมตรวจสอบ เช่น องค์การสหประชาชาติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อยืนยันผล และตรวจหาว่าของกลางกระสอบไหนที่เป็นสารเคตามีน