Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาคประชาสังคมออกมาร้องเรียนรัฐบาลออกกฎหมายอีกฉบับคุมการทำงานของเอ็นจีโอ มากกว่าส่งเสริมการทำงาน ทั้งที่กฎหมายดังกล่าวยังไม่ผ่านประชาพิจารณ์ คาดเข้าข่ายขัดกับรัฐธรรมนูญหลายมาตรา หวั่นร่างของภาคประชาชนเป็นแค่ไม้ประดับ เผย ปัจจุบันภาครัฐใช้กฎหมายฟอกเงินคุมเอ็นจีโออยู่แล้ว

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ…. ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ รวมถึงหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันโดยให้ พม. ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย และส่งผลดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไปนั้น

นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์  ประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายในคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม (คสป.) กล่าวว่าการอนุมัติดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเรื่องสับสน เพราะร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. … ได้ผ่านการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว ซึ่งกำหนดบทบาทของภาคประชาชนเพื่อให้ชุมชนลุกขึ้นมา ประสานกับองค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.) เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 250 และมาตรา 254 ซึ่งองค์กรต้องมีการจดทะเบียน เมื่อจดทะเบียนแล้วทำให้สามารถได้รับความช่วยเหลือจากรัฐทั้งในเรื่องการประสานงาน ฝึกอบรมเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง สามารถนำทรัพยากรในท้องถิ่นมาบริหารจัดการได้

“แต่ร่างกฎหมายอีกฉบับที่ประกบเข้ามา ว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ยังไม่ผ่านการประชาพิจารณ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ชัดเจนว่าพยายามจะตีเนียนให้เข้ากับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคมพ.ศ. … ทั้งที่ควรจะเป็นวาระจรมากกว่า การที่คณะรัฐมนตรีรับหลักการถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ เพราะการกำหนดว่าองค์กรภาคประชาสังคมต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่จะออกมา ต้องจดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยต้องมีการควบคุมรายรับ เช่น รายรับจากต่างประเทศ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจ ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหลายมาตรา องค์กรภาคประชาสังคมทำนอกกรอบไม่ได้ในหลักการยังผิดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 42  ที่ระบุว่าบุคคลย่อมรวมตัวเป็นองค์กร ชุมชนสหภาพ องค์กรได้ แต่ในกฎหมายมีบทบัญญัติให้อำนาจผู้มีอำนาจเข้ามาแทรกแซง ทั้งนี้ไม่เห็นมีความจำเป็นออกกฎหมายมาควบคุมต้องโต้แย้งด้วยเหตุผล ควรใช้เหตุผลมาหักล้างมากกว่าที่จะมาออกกฎหมายควบคุมซึ่งประเด็นที่ว่าองค์กรภาคประชาสังคมแสวงหารายได้จำนวนมาก เรื่องนี้สามารถใช้กฎหมายฟอกเงินเข้ามาจัดการได้อยู่แล้ว องค์กรรัฐทำโดยคำสั่งของผู้มีอำนาจไม่ตอบสนองประชาชนอย่างแท้จริงซึ่งร่างกฎหมายนี้จะคล้ายกับการทำงานของภาครัฐกรณีระงับ 3สารอันตราย ที่ประเทศไทยมี พรบ.คณะกรรมการว่าด้วยวัตถุอันตรายแต่กรรมการฯกลับทำตรงกันข้ามอนุญาตให้ใช้สารพิษ ร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันนี้  จึงจำกัดเสรีภาพร้ายแรงสุด” นายสรรพสิทธิ์ กล่าว

นางสุนี ไชยรส ในฐานะผู้ร่วมเสนอกฎหมาย ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. …. (ฉบับประชาชน)  กล่าวว่า รัฐบาลควรมีการทบทวนการรับหลักการร่าง พรบ. ดังกล่าว เพราะถือว่าขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับภาคประชาชนตามขั้นตอนกระบวนการร่างกฎหมาย  แต่รัฐบาลกลับนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับของรัฐบาลเสนอประกบเข้ามา จึงกังวลว่าโอกาสที่สาระสำคัญในร่างของภาคประชาสังคมจะตกไปซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

“กฎหมายที่สอดไส้ไม่รับฟังความคิดเห็นเป็นการหมกเม็ดอย่างมาก เหมือนต้องการควบคุมการเติบโตของภาคประชาสังคมทั้งๆที่ควรคุ้มครองเสรีภาพในการรวมตัวทั้งส่วนที่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นนิติบุคคล กลับต้องมาจดแจ้งตรวจสอบ การทำงานที่ผ่านมาไม่ต้องจดทะเบียนก็สามารถทำงานได้ เช่นภาคประชาสังคมที่ทำงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม องค์กรก็ต้องมีการจดแจ้งกับหน่วยงานที่จะทำงานเป็นไปตามระเบียบการปฏิบัติงานอยู่แล้วส่วนการตรวจสอบในเรื่องของค่าใช้จ่ายก็มีระบบที่ตรวจสอบอยู่แล้วเป็นการทำงานเพื่อส่วนรวม และเสียภาษีเงินได้เหมือนคนทั่วไปทุกคนที่เสียภาษี นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลจากทาง พม.ที่ทำให้เกิดความสับสนเพราะเนื้อหาเป็นคนละเรื่องเดียวกัน และบอกอีกว่ามีหลายหน่วยงานสนับสนุนเนื้อหามีความใกล้เคียงกัน ถือว่าบิดเบือนอย่างมาก ในฐานะภาคประชาสังคมจะไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปแน่นอน ภาคประชาสังคมไม่ใช่หน่วยงานของรัฐดังนั้นควรจะให้อิสระในการดำเนินงาน การตรวจสอบก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่วิจารณ์ไม่ได้ ในทางสากลประเทศที่พัฒนาแล้วต่างส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคประชาสังคมเข้ามาทำงานและเติบโต ซึ่งเป็นการช่วยภาครัฐอุดช่องว่างที่หน่วยงานของรัฐเข้าไม่ถึงหรือมีข้อจำกัด ทุกวันนี้ควรยอมรับว่ามีเรื่องมากมายที่รัฐเองก็รับมือไม่ไหว” นางสุนีย์ กล่าว

ด้าน นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมในการผลักดัน และติดตามรู้สึกผิดหวังอย่างมากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการของร่างกฎหมายอีกฉบับเข้ามาด้วย ซึ่งว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ที่เป็นกฎหมายควบคุมองค์กรภาคประชาสังคม แต่ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคมที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายยาวนานในการทำงานเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา กลับไม่ได้เป็นร่างหลักแต่เป็นเพียงติ่งที่จะนำมาพิจารณาขณะเดียวกันร่างพระราชบัญญัติอีกฉบับก็โผล่มาโดยที่ไม่มีที่มาเป็นกฎหมายที่ควบคุมมากกว่าส่งเสริม ในฐานะที่ติดตามกฎหมายฉบับนี้มาตั้งแต่ต้นต้องตั้งคำถามกับมติคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ และจะปฏิบัติตามกรอบหน้าที่ของ สมาชิกวุฒิสภาในการตั้งกระทู้หรือสอบถามไปยังรัฐบาลต่อเจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ต่อไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนจะดำเนินการอย่างไร และหวังว่าจะมีการชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นในการผลักดันกฎหมายและคาดหวังอะไรจากภาคประชาสังคมกันแน่

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า