SHARE

คัดลอกแล้ว

รมว.คมนาคม สั่งเร่งแก้ไขปัญหาความแออัดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย หลังเอเปคและไฮซีซันการท่องเที่ยว หลังพบปัญหารอกระเป๋านาน ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองล่าช้า แท็กซี่โดยสารไม่เพียงพอ 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งตั้งคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมตั้งศูนย์สั่งการร่วม (Single Command Center) เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมท่าอากาศยาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เตรียมความพร้อมการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยว

รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางช่วงเวลามีผู้โดยสารหนาแน่นและเกิดปัญหาความล่าช้าในการให้บริการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสารในพื้นที่ท่าอากาศยานตามนโยบายรัฐบาล และจะเร่งแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน ภายใน 15 วัน ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาและจัดตั้งศูนย์สั่งการร่วม (Single Command Center) เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ แบบ Real Time เพื่อให้ Flow ผู้โดยสารมีการผ่านขั้นตอนตามกระบวนการต่าง ๆ อย่างสะดวก รวดเร็ว

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สำหรับปัญหาความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ สามารถบรรเทาความแออัดโดยการบริหารจัดการคิวรอตรวจหนังสือเดินทางให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้โดยสารได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน และใช้เวลาหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง 60 วินาทีต่อคน

ในช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เจ้าหน้าที่สามารถระบายผู้โดยสารทั้งหมดได้ภายในเวลา 30 นาที ขึ้นอยู่กับข้อมูลของผู้โดยสารแต่ละรายด้วย ซึ่งถือว่าสามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงมาตรฐานการตรวจฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบการปฏิบัติฯ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ยังคงพบปัญหาในบางกรณีที่เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติไม่สามารถสแกนหนังสือเดินทางผู้โดยสารชาวไทยได้ อาทิ หนังสือเดินทางที่ออกโดยเครื่อง Kiosk และหนังสือเดินทางที่ทำตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา

ทางกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (บก.ตม.2) ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารคนไทยที่ไม่สามารถสแกนหนังสือเดินทางด้วยเครื่อง Auto Channel ไปตรวจหนังสือเดินทางผ่านเคาน์เตอร์ตามปกติ

 

ปัญหาการรับกระเป๋าสัมภาระล่าช้า

นายศักดิ์สยาม ระบุว่า เนื่องจากผู้ให้บริการภาคพื้นประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์ ทำให้การบริการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระขาเข้ามีความล่าช้าในบางเที่ยวบิน ทสภ.ได้แก้ไขปัญหาในเบื้องต้นแล้ว กรณีตรวจพบมีการลำเลียงสัมภาระใบแรก (First Bag) ล่าช้าเกินกว่า 15 นาที จะดำเนินการแจ้งบริษัทผู้ให้บริการภาคพื้นเร่งดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งขณะนี้ผู้ให้บริการภาคพื้นอยู่ระหว่างการจัดหาอุปกรณ์และบุคลากรมาให้บริการเพิ่มเติม ปรับแผนการบริหารจัดการให้มีความพร้อมรองรับปริมาณจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร และเร่งจัดทำ Action Plan ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ปัจจุบันผู้โดยสารใช้เวลาตั้งแต่ลงเครื่องรับสัมภาระกระเป๋าจนออกจากท่าอากาศยาน มีระยะเวลาเฉลี่ยในกระบวนการขาเข้าระหว่างประเทศ ประมาณ 40 นาที ต่อผู้โดยสาร 1 คน ซึ่งถือว่าการบริการในภาพรวมทุกกระบวนการมีความคล่องตัวขึ้น จากการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ณ ทสภ. จะมีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศและภายในประเทศ รวมประมาณ 130,000 คน/วัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่มีจำนวนผู้โดยสารรวมประมาณ 115,000 คน/วัน)

ปัญหาความคับคั่งในการใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ

ในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่น จะเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น และขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ กำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาในการรอคิวรถแท็กซี่เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน

ปัจจุบันมีจำนวนผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะที่เป็นสมาชิกให้บริการ ณ ทสภ. อยู่ประมาณ 2,400 คัน ลดลงจากช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ที่มีผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะที่เป็นสมาชิก ประมาณ 4,200 คัน แต่จำนวนรถแท็กซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันถือว่าเพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่ง ทสภ. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพิ่มการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และพิจารณานำรถขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ มาให้บริการเพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ รมว.คมนาคม เน้นย้ำให้ ทอท. วิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณการเดินทางและเที่ยวบินที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ให้การบริการมีความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีจำนวนเที่ยวบินหนาแน่น เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้โดยสารในท่าอากาศยาน รวมทั้งมอบนโยบายให้ ทอท. ดำเนินการแก้ไขปัญหาความคับคั่งในท่าอากาศยาน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

และในปี 2566 คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เพื่อลดความแออัดในพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางบริเวณอาคารผู้โดยสารหลัก และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้โดยสารได้ดียิ่งขึ้น

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า