SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค.ปรับแผนกระจายวัคซีนให้เข้ากับสถานการณ์ พร้อมสั่งชะลอจองคิวผ่านระบบหมอพร้อม ล่าสุดไทยป่วยโควิด 2,455 ราย เป็นคลัสเตอร์เรือนจำ 479 ราย รวมสะสม 137,894 ราย เสียชีวิตอีก 10 ราย

วันที่ 26 พ.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้มี 2,455 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,960 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,210 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 750 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 479 ราย และอีก 16 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 137,894 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,571 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 45,256 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,210 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 41 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 873 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม. 975 ราย เพชรบุรี 259 ราย นนทบุรี 122 ราย สมุทรปราการ 100 ราย ปทุมธานี 61 ราย สงขลา 42 ราย ชลบุรี 40 ราย ตาก 30 ราย สุราษฎร์ธานี 24 ราย และสมุทรสาคร 21 ราย

ส่วนการกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 113,486 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 9,428 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 3,147,227 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 2,157,609 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 989,618 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากคนในครอบครัวและคนอื่นๆ เช่น เพื่อนผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมห้องพัก เพื่อนบ้าน และผู้ร่วมโต๊ะสนุ๊ก อย่างละ 13 ราย นอกจากนั้น มีปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ มาจากการอาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด 8 ราย ไปในที่คนหนาแน่น ได้แก่ เรือนจำ สนามชนวัว และตลาด 5 ราย มีอาชีพเสี่ยง ได้แก่ รปภ. 1 ราย และระบุไม่ได้ 1 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดใน กทม.ว่า วันนี้พบติดเชื้อเพิ่ม 975 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 36,542 ราย เสียชีวิตอีก 16 ราย ทำให้เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตสะสมแตะไปที่ 1% ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางของประเทศที่มีเพียงกว่า 0.7% และมีการพบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มอีก 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในถนนลาดพร้าว โรงงานเย็บผ้าแห่งหนึ่งในเขตยานนาวา ตลาดแห่งหนึ่งในเขตหนองจอก เคหะแห่งหนึ่งเขตคลองจั่น และแคมป์ก่อสร้าง เขตสวนหลวง ทำให้ยอดรวมคลัสเตอร์จากเดิม 33 คลัสเตอร์ เพิ่มเป็น 38 คลัสเตอร์ จากจำนวนคลัสเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การกระจายตัวของการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

คำถามที่น่าสนใจจากสื่อมวลชน

ผู้ป่วยชาวศรีสะเกษเสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อจากแบคทีเรีย ทำพีธีเผาอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้ชุดป้องกันเต็มที่ เป็นการปกปิดข้อมูลหรือไม่

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวชี้แจงว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้สั่งการสอบสวนอย่างเร่งด่วนแล้ว ยืนยันไม่มีการพบการปกปิดข้อมูลการเสียชีวิตแต่อย่างใด ต่อมาได้รับทราบจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษว่า ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว เป็นชายไทยอายุ 61 ปี อยู่อำเภอเมืองศรีสะเกษ มีประวัติติดโควิดจากผู้ป่วยโควิดรายที่ 22 ได้เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 ผลการรักษาโควิดหายแล้ว ไม่มีเชื้อ แต่ยังต้องรักษาในโรงพยาบาล แต่ต่อมาพบว่าปอดติดเชื้อแทรกซ้อนขึ้นมาเป็นปอดติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา ส่วนเหตุที่ทางโรงพยาบาลศรีสะเกษใส่ชุดพีพีอีมา เพื่อป้องกันเหมือนกับผู้เสียชีวิตโควิดรายอื่นด้วย

นพ.ทวีศิลป์ ยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดใดๆ ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกใช้นำมาบริหารสถานการณ์เป็นปีๆ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไร จะรีบรายงานให้ประชาชนทราบโดยเร็ว

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวในตอนท้ายว่า การลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนว่า ขอให้ชะลอการจองคิวผ่านระบบหมอพร้อมออกไปก่อน ตอนนี้ขอให้ระบบหมอพร้อมเป็นการติดตามการฉีดวัคซีน และการออกใบรับรอง สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยงที่เคยลงทะเบียนไว้ในระบบหมอพร้อมแล้ว ยืนยันว่าการลงทะเบียนยังอยู่ในหมอพร้อมและจะได้รับวัคซีนตามช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวันเวลาหรือจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามา

โฆษก ศบค. อธิบายถึงการกระจายวัคซีนต้านโควิดว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. ได้สั่งจัดสรรวัคซีนตามเกณฑ์ใหม่ จากเดิมมีการจัดสรรโควตาตามที่จอง บางจังหวัดจองจำนวนมาก แต่คนติดเชื้อน้อย และติดไม่มาก แต่ได้วัคซีนไป โดยสั่งการให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขาฯ ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) หารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรค เห็นว่า เพื่อปรับแผนกระจายวัคซีนให้เข้ากับสถานการณ์ จะใช้เกณฑ์การติดเชื้อมาจัดสรรโควตาแทน ใช้เกณฑ์อัตราการติดเชื้อรายวันมาคิด รวมทั้งเกณฑ์ในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว และกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงแผนการฉีดวัคซีนจะมีการปรับใช้หลายเกณฑ์ และจัดสรรใหม่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า