จากเพจยอดนิยมสู่ TikTok ล้านวิว “วิเคราะห์บอลจริงจัง” บทพิสูจน์ Sports Creator

หลายปีก่อน เราเริ่มได้ยินคำพูดที่ว่า คนไทยไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ หรือ คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด กันจนชิน นั่นทำให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์มากมายจากหลากหลายสาขา หันไปทำคอนเทนต์สั้นกันแทบทั้งนั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ไม่ใช่กับ วิศรุต สินพงศพร อดีตผู้สื่อข่าวสายกีฬาคนนี้ เพราะเขาเลือกที่จะทวนกระแส เดินหน้าเปิดเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” และเขียนบทความยาว (มาก) ลงในนั้น ต่อเนื่องกันทุกวัน  

ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ความดื้อรั้น แต่คือความเชื่อมั่นที่ตัวเขายึดถือมานานกว่า 7 ปี และในวันนี้ก็สามารถพิสูจน์ให้คนนับแสนเห็นได้แล้วว่า สิ่งที่เขาเชื่อนั้นเป็นจริงได้

ความเชื่อที่ 1: Long Form Article ยังไปต่อได้

วิศรุตเล่าย้อนไปถึงวันแรกที่เปิดเพจว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากความเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่งานหนังสัปดาห์หนังสือแห่งชาติยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักอ่านทุกปี นั่นหมายความว่ายังมีคนอีกมากมายที่ชื่นชอบการอ่านอะไรยาวๆ อยู่ ดังนั้นเขาจึงลงมือเขียนบทความขนาดยาว (มาก) ลงเพจทุกวัน วันละอย่างน้อย 1 บทความ เพื่อต่อยอดความเชื่อของตนเองให้ออกมาเป็นรูปธรรม และหวังว่าจะเป็นเสี้ยวหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้คนไทยได้

“ตอนทำเพจปีแรกมีผู้ติดตามแค่ 4,000 คนเอง ขนาดเขียนบทความทุกวัน วันละ 5-6 ชั่วโมง คนอ่านก็ไม่เยอะ แรกๆ ก็ไขว้เขวเหมือนกันว่าจะเปลี่ยนไปทำอินโฟกราฟิกตามสมัยนิยมดีไหม แต่พอลองถามความเห็นลูกเพจ ทุกคนกลับบอกว่าอยากให้เขียนบทความยาวเหมือนเดิม เพราะยุคนี้ไม่ค่อยมีคนเขียนอะไรแบบนี้ให้อ่าน เราก็เลยมั่นใจมากขึ้นว่า บทความยาวเป็นจุดขายที่ไม่มีใครเหมือน และตัดสินใจเขียนบทความลงเพจต่อไป ซึ่งยอดผู้ติดตามก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็มีประมาณ 430,000 คนแล้ว”

อย่างไรก็ดี วิศรุตกล่าวเพิ่มเติมว่า บทความที่เขาเขียน นอกจากจะทำให้ผู้ติดตามเพจได้รับข้อมูลที่ละเอียด ครบถ้วน และมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้นแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าที่เข้ามาสนับสนุนเขาด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะกับสินค้าที่ต้องการให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้บริโภค เพราะบทความยาวสามารถให้ข้อมูลได้ครบถ้วนกว่าการทำคอนเทนต์รูปแบบอื่น

ความเชื่อที่ 2: ความต่างจะสร้างการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนั้น วิศรุตยังเชื่ออีกว่า การทำคอนเทนต์หรือเขียนบทความในทิศทางที่แตกต่างจากคนอื่น จะทำให้วงการข่าวสารกีฬาฟุตบอลที่เขารัก เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา “วิเคราะห์บอลจริงจัง” จึงมีการทำงานในรูปแบบผสมผสานระหว่างอินฟลูเอนเซอร์และสื่อมวลชน

“เรามองว่าการรายงานข่าวกีฬา หรือข่าวอื่นๆ ตามปกติทั่วไป ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มันอาจทำให้ได้เอนเกจเมนต์ (คอมเมนต์, ไลก์, แชร์) อย่างรวดเร็วก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้อาจไม่ทำให้เกิดการต่อยอดไปสู่สิ่งใหม่ๆ เราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพนั้น การทำงานของเราเลยจะลดความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ลง แล้วเพิ่มความเป็นสื่อมวลชนให้มากขึ้น เพื่อผลิตบทความคุณภาพสูงออกมาส่งเสริมให้คนรักการอ่าน โดยจะเป็นบทความในลักษณะที่ใส่ความคิดเห็นของตัวเองลงไปได้ กล้าคิด กล้าพูด กล้าวิจารณ์ แต่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจริง ที่มีแหล่งอ้างอิงถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ผิดลิขสิทธิ์” 

ความเชื่อที่ 3: ทำคอนเทนต์ก็เหมือนทำอาหาร

ในส่วนของเนื้อหาบทความที่ทั้งละเอียด และเข้มข้น ชวนให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกัน เขาเล่าว่าเกิดจากการค่อยๆ ร้อยเรียงข้อมูลที่ค้นคว้ามา เข้ากับความคิดเห็นของเขาอย่างพิถีพิถัน โดยเชื่อว่าการทำคอนเทนต์ก็เหมือนการทำอาหาร ถ้าเป้าหมายชัดเจน มีวัตถุดิบดีและครบถ้วน ผลลัพธ์ก็จะเป็นที่น่าพอใจ ทั้งกับตัวผู้เขียน ผู้อ่าน รวมถึงลูกค้าผู้จ้างงาน

“ก่อนที่เราจะทำอาหารสักอย่าง ก็ต้องคิดก่อนว่าจะทำอะไร และหาวัตถุดิบ พอได้ครบก็เอาวัตถุดิบมาวางเรียงกัน แล้วถึงจะเริ่มทำเมนูนั้น กับการเขียนก็เหมือนกัน อย่างแรกเราต้องตั้งเป้าก่อนว่าจะเขียนเรื่องอะไร แล้วไปหาวัตถุดิบมา ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ จากอินเทอร์เน็ต หรือฟุตเทจเก่าๆ พอได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วก็ค่อยมาร้อยเรียงเป็นบทความ ซึ่งใช้เวลาในการทำบทความหนึ่งชิ้น ประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเด็นที่หยิบยกมาเขียน”

สิ่งที่น่าสนใจคือ ความพิถีพิถันในการผลิตบทความแต่ละชิ้นนั้น ทำให้เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง สามารถดึงดูดคนชอบอ่านจากทั่วทุกสารทิศได้เป็นอย่างดี ถ้าลองสังเกตก็จะเห็นได้ว่า ลูกเพจของเขาไม่ได้มีแค่คอกีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนอีกมากมายที่ไม่ได้ดูฟุตบอล ไม่ชอบดูกีฬา แต่ชอบอ่านบทวิเคราะห์อย่างมีหลักการ 

ความเชื่อที่ 4: ทักษะสำคัญคือการปรับตัว

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเชื่อว่าทำให้ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” เติบโต และอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ คือ การปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่เสมอ เช่น การที่ผู้บริโภคต่อต้านบทความคลิกเบต และรู้เท่าทันโฆษณาแฝงมากขึ้น ดังนั้นบทความของวิเคราะห์บอลจริงจังก็จะเขียนอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนข้อมูล ถ้าอันไหนเป็นโฆษณาก็จะบอกตรงๆ 

นอกจากนั้นยังมีเรื่องแพลตฟอร์มคลิปสั้นยอดฮิตอย่าง TikTok ที่ผู้บริโภคจำนวนมากนิยมใช้กันมากขึ้น แน่นอนว่า ‘วิเคราะห์บอลจริงจัง’ ก็เร่งปรับตัวตาม และก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ด้วยเหมือนกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้รับการการันตีคุณภาพของเทนต์ เป็นยอดวิวนับล้านจากผู้ติดตาม

“เรายังรักการเขียนเหมือนเดิม แต่ว่ายุคนี้คนมีความสนใจหลากหลายมากขึ้น วัยรุ่นชอบดูคลิปสั้นมากกว่าอ่านบทความ ดังนั้นโจทย์ของเราก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ข้อมูลที่เราคิดว่าเขียนดีมากๆ สามารถเข้าถึงวัยรุ่นได้มากขึ้น ก็เลยมาลงตัวที่ TikTok โดยเอาบทความยาวที่เขียนไว้แล้ว มารวมให้เป็นคลิปสั้นไม่เกิน 5 นาที เพื่อขยายฐานผู้ติดตามให้มากขึ้น จากเดิมที่มีแค่คอกีฬาที่ชอบอ่านบทความยาวบนเฟซบุ๊ค ก็จะได้คนรุ่นใหม่ที่ชอบดูคลิปสั้นเพิ่มมาด้วย”

“TikTok มาแรงมากในไทย เพิ่งมีการประกาศรางวัลใหญ่ไปเมื่อไม่นานนี้ คนเข้าร่วมเยอะมาก แสดงให้เห็นว่าเทรนด์คอนเทนต์ทุกอย่างกำลังพุ่งมาที่ TikTok และหนึ่งในนั้นก็คือคอนเทนต์กีฬา ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาในตลาดนี้ยังไม่มีคอนเทนต์กีฬาที่ลึกๆ แบบเรา ก็เลยเชื่อว่าถ้ากระโดดเข้าไปเป็นเพลเยอร์ตอนนี้ คนน่าจะชอบ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะคลิปของเรามียอดวิวเฉลี่ยอยู่ที่หลักแสนถึงล้านวิว”

ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่าความเชื่อของวิศรุตนั้นไม่ผิดพลาด เพราะตลอดเวลาหลายปีที่เปิดเพจมา ประกอบกับการเพิ่งเปิดแอคเคาต์ TikTok เมื่อปลายปี 2022 เขาก็มีชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือ TikTok Awards 2023 และ Thailand Social Awards สาขา Sports ครั้งล่าสุด ซึ่งล้วนเป็นรางวัลที่มีเกณฑ์การตัดสินเป็นความนิยมของผู้บริโภคทั้งสิ้น ชี้ให้เห็นว่าการพยายามปรับตัวของเขา ทำให้สามารถเข้าใจ และเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของ ‘วิเคราะห์บอลจริงจัง’  ไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะปัจจุบันวิศรุตทำทั้งคอนเทนต์ที่เป็นบทความยาวบน Facebook คลิปสั้นบน TikTok รวมถึงขยับขยายไปอัปเดตคลิปวิดีโอบน YouTube ด้วย และล่าสุดกับการร่วมงานกับสำนักข่าว TODAY ในฐานะ Sport Creator ที่จะมาสร้างสรรค์และเติมเต็มคอนเทนต์ด้านกีฬาให้ครบรสมากยิ่งขึ้น

ความเชื่อที่ 5: ยอดผู้ติตตามไม่ใช่มาตรวัดความสำเร็จทั้งหมด

ทั้งนี้ วิศรุตได้แบ่งปันมุมมองเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ทำให้เขาและวิเคราะห์บอลจริงจังเติบโตอย่างยั่งยืน คือ เขาไม่เคยเอาจำนวนผู้ติดตามมาเป็นมาตรวัดความสำเร็จ แต่จะใช้ ‘ความพึงพอใจ’ เป็นหลักมากกว่า ถ้าตัวเขาเองพอใจกับงาน และผู้อ่านรู้สึกว่านี่คืองานคราฟต์ที่ทำออกมาได้ดี และได้รับอะไรบางอย่างกลับไป นั่นถึงจะเรียกว่าความสำเร็จ  

“อย่างที่บอกว่าพื้นฐานในการทำเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง คือ อยากให้คนรักการอ่านมากขึ้น ดังนั้นคนที่อ่านบทความของเรา ต้องได้บางอย่างกลับไป ถ้าไม่ได้ความรู้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ความสนุก” 

ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังความสำเร็จของ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” พื้นที่วิเคราะห์ทุกแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจัง ตามแบบฉบับ วิศรุต สินพงศพร ที่เดินหน้าอย่างมุ่งมั่น และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา จนขึ้นเป็น Top of Mine ของคอกีฬาและคนอีกมากมาย

ติดตามวิเคราะห์บอลจริงจัง

FB: https://www.facebook.com/jingjungfootball  

TikTok: https://www.tiktok.com/@jingjungfootball 

YouTube: https://www.youtube.com/@StarSoccerTV