วันที่คนไทยรวมใจเป็นหนึ่งเดียว น้อมส่งพ่อสู่สวรรคาลัย

ประเด็นคือ- โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพความทรงจำจากการถ่ายทอดผ่านเลนส์ของช่างภาพจิตอาสา ที่ยังตราตรึงในหัวใจ ถวายความอาลัย “พ่อ” แม้ฝนจะตกหนักเพียงใด ร่างกายจะพิการ แดดจะร้อน แต่ทุกคนมีดวงใจเดียวกันที่มาน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยครั้งสุดท้าย

วันนี้ (29 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกสังคมออนไลน์ในกลุ่มต่างๆ ใน จ.ราชบุรี ได้มีการแชร์ภาพความประทับใจเหล่าพสกนิกร ทั้งข้าราชการ ประชาชน และจิตอาสาพระราชทาน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

ซึ่งเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านเลนส์ของเหล่าบรรดาช่างภาพจิตอาสา และจากภาพถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่คอยเก็บรายละเอียดภาพความทรงจำ ที่ครั้งหนึ่งได้ร่วมกันส่งเสด็จ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่สวรรคาลัย

โดยที่ภาพแรกที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดคือภาพข้าราชการนายหนึ่งที่สวมชุดสีกากี ยืนตากฝน ปฏิบัติหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินไปสู่พระเมรุมาศจำลอง แล้วเกิดฝนตกหนัก ประชาชนไม่ย่อท้อที่จะขึ้นไปถวายดอกไม้จันทน์ที่หน้าพระเมรุมาศจำลอง

อีกภาพเป็นความประทับใจที่หญิงรายหนึ่งเดินเข้าแถวด้วยความมุ่งมั่นที่จะขึ้นไปถวายดอกไม้จันทน์ ต้องอุ้มลูกสาวในขณะที่หลับ แม้จะหนักและเมื่อยแค่ไหน เธอเองก็ไม่ลดละแต่อย่างไร

และอีกหลายๆ ภาพที่บรรดาช่างภาพจิตอาสาถ่ายทอดเรื่องราวออกมา ภาพเหล่าผู้ปกครองต่างอุ้มลูกและหลาน ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงเด็กโต ที่เดินทางมาถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ พระเมรุมาศจำลอง และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นภาพอันแสนประทับใจที่ร้อยเรื่องราวว่า ทุกคนเดินทางมาจากหลากหลายสถานที่ มาเพื่อบอกว่า “รักพ่อคนเดียวกัน”

นายพงศนาถ พิทักษ์เฉลิมวงศ์ วัย 50 ปี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกวิศวกรรมและการตลาดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี ช่างภาพจิตอาสา เจ้าของเฟซบุ๊ก “พงศนาถ พิทักษ์เฉลิมวงศ์” ผู้ที่ถ่ายภาพข้าราชการยืนกลางสายฝน เปิดเผยว่า ในวันนั้นผมเห็นถึงความมุ่งมั่นในแววตาที่จ้องมองไปที่ประชาชน ผู้เป็นแขกของพระราชา เห็นข้าราชการคนดังกล่าววิ่งวุ่นอยู่ตั้งแต่เช้า ไม่ได้พักผ่อน ขณะนั้นฝนตก ผมก็หลบเข้าในเต็นท์ เห็นข้าราชการท่านนี้จ้องมองประชาชนผู้ร่วมพระราชพิธีด้วยความห่วงใย รู้สึกถึงความคิดของเขาว่า มุ่งมั่นจะดูแลแขกของพระราชาให้สมพระเกียรติสูงสุด จนผมต้องออกจากเต็นท์ เพื่อเก็บภาพข้าราชการคนนี้ไว้ เป็นความปลื้มปิติแทนชาวราชบุรี

ส่วนภาพที่ 2 รวดเร็วมากที่ประชาชนในขบวนต่างรีบเร่ง เสี้ยววินาทีนั้น ครอบครัวท่านนี้เดินทางมาถึง แม่ได้อุ้มลูกน้อยที่รอจนเพลียจนหลับ แถมอากาศที่ร้อน แต่ยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะถวายดอกไม้จันทน์ ด้วยความรู้สึกโศกเศร้าจากแววตา ผมรู้สึกเป็นโชคดีที่สามารถบันทึกภาพได้ทัน

ด้านนายสัญญา ภุมรินทร์ อายุ 57 ปี รับราชการที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี เปิดเผยความประทับใจที่ได้เป็นอีกหนึ่งในช่างภาพจิตอาสา ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ผมสมัครเป็นจิตอาสาของบ้านโป่ง ในหมวดบริการประชาชน แต่ไปทำหน้าที่เป็นช่างภาพ เหตุเพราะวันนั้นทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม ในวันนั้นประชาชนจำนวนมากมาเข้าแถวรอเข้าคัดกรองนานมาก ในช่วงบ่ายจึงติดตามดูในแถว ตลอดระยะทางประมาณ 3 กม. มองเห็นถึงความอดทนที่ไม่มีย่อท้อ ลูกที่ร้องจนหลับก็ยังอยู่ในอุ้มมือตลอดเวลา น้องนักเรียนก็จะหมดความอดทน แต่มีแม่ที่ให้กำลังใจตลอดแถวเส้นทาง รวมไปถึงคนชรา คนพิการ ที่นำเดินทางมาพร้อมด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ มีจิตที่มุ่งมั่นที่เข้าถวายดอกไม้จันทน์ ผมเห็นถึงความอดทนรอนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด ประกอบกับพื้นผิวถนนที่ร้อนระอุ นั่งไม่ได้ จึงได้ถ่ายภาพเก็บเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ เพื่อเป็นความทรงจำตลอดไป

นอกจากนี้โลกโซเชียลยังได้มีการกล่าวถึงภาพของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังและอยู่ในสถานที่ที่ต้องทำความสะอาดตลอดเวลา เพื่อคอยดูและประชาชนที่เดินทางมาร่วมในพิธี เพราะพวกเขาเหล่านั้นถือว่า ทุกคนคือแขกของพระราชา ต้องทำให้ดีที่สุด แม้จะไม่มีใครเห็น ไม่ได้มีโอกาสได้ภาพสวยๆ ก็ตาม

ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดตามหญิงสาวบุคคลในภาพและได้มีโอกาสสัมภาษณ์เธอ จนทราบชื่อว่า น.ส.ศิรณี พระวิชัย และ น.ส.บุณยวี สุทธิสงวน ทั้งสองคนเป็นเจ้าหน้าที่ ของสถาบันการพัฒนาความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จ.ราชบุรี  โดย น.ส.ศิรณี เล่าให้ฟังว่า วันนั้นตนเองและเพื่อนในหน่วยงานได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลงานบริการประชาชนด้านสุขา คอยดูและทำความสะอาดห้องสุขาทุกห้องตลอดทั้งวัน ทั้งชายและหญิงที่ตลอดทั้งวันจะมาใช้บริการ เนื่องจากมีประชาชนมาจำนวนมาก แม้จะเป็นงานที่หลายคนจะไม่ชอบ แต่ตนเองกับเพื่อนคิดว่า งานบริการคือจากใจเขาใจเราค่ะ ถ้างานที่ตนเองได้รับมอบหมายไม่รับ ก็ต้องไม่มีคนทำ ตนจึงยินดีและเต็มใจเพราะเราทำเพื่อ “พ่อ” ประชาชนทุกคนที่มาคือแขกของ “พ่อ” เราจึงต้องทำให้ดีที่สุด “ปิดทองหน้าพระล้นแล้ว มาปิดด้านหลังที่ยังมี…ถึงใครไม่เห็นแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็น”

ในขณะที่โลกโซเชียลได้กล่าวชื่นชม โดยระบุข้อความว่า “นี้แหละครับคนที่ควรยกย่องอย่างแท้จริง คนที่ยอมเสียสละมาทำหน้าที่ ที่ไม่มีใครให้เกียรติ ให้ความสำคัญ หน้าที่ที่คนส่วนใหญ่รังเกียจ แต่พวกเธอทำเพื่อพ่อ ด้วยความเต็มใจ น้องๆ เค้าทำหน้าที่ล้างส้วม น้องๆ เค้าอยู่ตั้งแต่เช้าจนมืด ดูแลส้วมได้สะอาดกว่าส้วมที่บ้านของเราอีก จึงขอยกย่องชื่นชมและขอบคุณจิตอาสาทุกท่านที่เสียสละทำหน้าที่นี้ครับ”

ขณะที่อีกหลายช่างภาพจิตอาสาชาว จ.ราชบุรี อีกหลายคนกล่าวแสดงถึงความรู้สึกว่า เป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่ในสิ่งที่ตนเองถนัด คอยเก็บเรื่องราว ภาพความทรงจำทุกอิริยาบท เพื่อถ่ายทอดให้ประชาชนได้ชมว่า ครั้งหนึ่งนั้นพวกเราทุกคนได้มาอยู่ในที่เดียวกันและหัวใจดวงเดียวกันที่มาถวายความอาลัยและร่วมส่งเสด็จครั้งสุดท้าย และขอทำความดีเพื่อพ่อ แม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมง แต่ภาพทุกภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมา ทำให้ทุกคนที่เข้ามาพบเห็น ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติที่ครั้งหนึ่งได้เกิดมาสมัยในรัชกาลที่ 9