ผอ.รร.ดังในหนองคาย ยันไม่มีทหารตำรวจสั่งลบรูปพานไหว้ครู-ชี้เด็กไม่มีเจตนาร้าย

ผู้อำนวยการโรงเรียนดัง ในจังหวัดหนองคาย ชี้แจงพานไหว้ครูของเด็กนักเรียน ยืนยันเจตนาเด็ก ทำตามความคิดสร้างสรรค์ที่ชอบประชาธิปไตย ยืนยัน ไม่มีตำรวจทหารเข้ามาข่มขู่ มีเพียงตำรวจเข้ามาดูแลความสงบในกิจกรรมพี่น้องรหัส

(พิพัฒน์ ศรีสุขพันธ์ ผอ.รร.ชุมพลโพนพิสัย)

วันที่ 14 มิ.ย. นายพิพัฒน์ ศรีสุขพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย จ.หนองคาย ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข่าวมีตำรวจเข้ามาในโรงเรียนสั่งลบภาพพานไหว้ครูที่มีลักษณะล้อการเมืิองของนักเรียน ในกิจกรรมพิธีไหว้ครูเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อวานนี้ทางโรงเรียนมีพิธีไหว้ครูช่วงเช้า และช่วงบ่ายมีกิจกรรมพี่น้องรหัส ซึ่งมีเด็กเข้าร่วมกว่า 2,900 คน ทางตำรวจ สภ.โพนพิสัย 2 นาย ได้เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย ตามที่โรงเรียนได้มีการทำ MOU กับสภ.โพนพิสัยไว้ ไม่ได้มีตำรวจ หรือทหารเข้ามาสั่งให้ลบภาพพานไหว้ครู ตามที่ข่าวปรากฎออกไปแต่อย่างใด

โดยระหว่างที่ตนนั่งทำงานอยู่ในห้อง ได้มีผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเรื่องพานไหว้ครู และถามว่า มีตำรวจทหารเข้ามาในโรงเรียนหรือไม่ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า มีตำรวจเข้ามา 2 นาย แต่เป็นการมาดูแลความสงบในกิจกรรมพี่น้องรหัส ไม่ได้เข้าข่มขู่หรือบังคับแต่อย่างใด และตนได้ขอให้ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวส่งภาพพานไหว้ครูที่ปรากฎในเฟซบุ๊กมาให้ดูจึงได้ทราบเรื่อง แล้วให้เด็กนำพานไหว้ครูดังกล่าวมาดู พร้อมสอบถามว่าเหตุใดจึงทำพานลักษณะนี้

โดยเจตนาเด็กเป็นความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีจิตใจที่ชอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงได้แสดงออกเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้นมาแล้วนำธูปเทียนกราบไว้ ส่วนอีกพานที่เป็นตาชั่ง ก็คือ 250 ส.ว. ที่มีแต่คนโจมตี เด็กเลยเข้าใจว่า 250 ส.ว. คือตัวแทนของหลายๆ ล้านคนที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนด รัฐธรรมนูญก็ผ่านการทำประชาพิจารณ์มา ส.ว. 250 คนจึงมีสิทธิ์ ส่วนรูปที่ถ่ายออกมาตาชั่งมองดูเอียง เพราะเป็นการถ่ายด้านข้าง ประกอบการติดกาวไม่ดีจึงทำให้เอียง ไม่ได้มีเจตนาลำเอียงอะไร

โรงเรียนไม่ได้ฝักใฝ่เรื่องการเมือง และนักการเมืองไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมไหว้ครูของโรงเรียนอยู่แล้ว โรงเรียนมุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง มีมาตรฐานสากล เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากว่า 50 ปี เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง ซึ่งโรงเรียนจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นประมาท

ส่วนที่บอกว่า ตนปิดกั้นเด็กนั้น นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า ไม่ใช่ เพียงแต่ให้คำแนะนำให้รู้จักวิเคราะห์และวินิจฉัยเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แล้วเก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์นำไปพัฒนาในการดำเนินชีวิตของเรา เมื่อถึงอายุที่มีสิทธิเลือกตั้งก็จะทำให้เลือกตั้งคนที่มีคุณภาพเข้าไปบริหารประเทศให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป

ขณะที่ กลุ่มนักเรียนที่จัดทำพานไหว้ครูดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่มาบังคับหรือข่มขู่ ส่วนการทำพานลักษณะนี้ เพื่อสื่อว่ารักประชาธิปไตย ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เช่นเดียวกับ พาน ส.ว. 250 คน เพื่อสื่อให้เห็นว่าเป็นตัวแทนของหลายล้านเสียง

(เพจเฟซบุ๊ก สภานักเรียนโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย)

https://www.facebook.com/Chumpholphonphisaischool/posts/2243880132400090

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประวิตร เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังพานไหว้ครูล้อการเมือง-ไม่รับนั่งกุนซือ พปชร.