สามก๊ก เวอร์ชั่นอ่านกี่จบ ก็คบได้ : “ลิโป้” ยอดขุนพล ผู้สิ้นชีพเพราะกฎห้ามดื่มเหล้า

ลิโป้ จาก wikipedia.org

การดื่มสุรามึนเมาจนขาดสติ กระทั่งเป็นเหตุนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์ เสียชีวิต ก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วมากมาย ตั้งแต่อดีตอันไกลโพ้น กระทั่งถึงทุกวันนี้

แต่ก็มีบางกรณีที่การไม่ดื่ม หรือตั้งกฏว่าห้ามดื่ม ก็อาจนำไปสู่การสิ้นชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดังเรื่องราวของ “ลิโป้” ตัวละครในวรรณกรรมสามก๊ก ผู้มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ ที่มีชีวิตอย่างสุดเหลือเชื่อเช่นกัน 

ในวรรณกรรมสามก๊กนั้น ลิโป้เป็นยอดขุนศึกที่มีฝีมือรบทัพจับศึกเก่งกาจในระดับต้นๆ และอาจเก่งกล้าที่สุด หากสู้แบบตัวต่อตัว แต่ถ้าพูดถึงความชั่วช้าสามานย์ เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นจอมโฉด ที่ทรยศหักหลังผู้มีพระคุณคนแล้วคนเล่า จนเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่มีใครอยากคบหาสมาคมด้วย

เดิมทีลิโป้เป็นขุนศึกข้างกายที่ “เต๊งหงวน” รักและเอ็นดูจนยกฐานะให้เป็นบุตรบุญธรรม แต่ต่อมาลิโป้กลับตัดหัวเต๊งหงวน คนที่ตนเรียกว่าพ่ออย่างเต็มปากเต็มคำ แล้วนำไปมอบให้ “ตั้งโต๊ะ” ที่ล่อลิโป้เข้ามาเป็นพวก ด้วยทรัพย์สินและสุดยอดอาชา “ม้าเซ็กเธาว์” หลังจากนั้นลิโป้ก็กลายเป็นบุตรบุญธรรมของตั้งโต๊ะ แล้วทั้งคู่ก็สร้างตำนานสองพ่อลูกสุดโฉด แห่งยุคก่อนสามก๊ก

ในเวลานั้นตั้งโต๊ะมีอำนาจในวังหลวง อ้างราชโองการฮ่องเต้ กดขี่ข่มเหงราษฎร จนขุนนางและหัวเมืองต่างๆ ไม่อาจทนได้ นำไปสู่การลอบสังหาร รวมทีมหลายทัพมารุมสกรัม แต่ก็ยังกำราบตั้งโต๊ะไม่ได้

ต่อมา “อ้องอุ้น” ขุนนางผู้ใหญ่ ได้ใช้ “กลสาวงาม” ให้ “เตียนเสี้ยน” บุตรบุญธรรม สร้างความร้าวฉานจนสองพ่อลูกผิดใจกัน กลายเป็นชนวนเหตุให้ลิโป้ลงมือสังหารตั้งโต๊ะ เพื่อแย่งชิงแม่นางเตียนเสี้ยน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 4 หญิงงามแห่งแผ่นดินจีนโบราณ (หลายข้อมูลระบุว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์)

ตั้งโต๊ะ พ่อบุตรธรรมคนที่สองของลิโป้

ถึงแม้ตั้งโต๊ะจะสิ้นชีพไปแล้ว แต่แผ่นดินก็ยังไม่สงบสุข เมื่อ “ลิฉุย” กับ “กุยกี” สองคู่หูจอมแสบ สมุนเก่าของตั้งโต๊ะ ยกทัพยึดวังหลวงได้สำเร็จ แล้วฆ่าอ้องอุ้น ชำระแค้นให้นายเก่า ส่วนลิโป้ผู้พ่ายศึก จำต้องนำครอบครัวหลบหนีออกมา กลายเป็นขุนพลพเนจร

แต่พอลิโป้ได้ “ตันก๋ง” เป็นกุนซือ จากเสือลำบาก ก็กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก และเริ่มตั้งหลักได้หลังจาก “เล่าปี่” แบ่งเมืองให้ปกครอง แต่ลิโป้ก็ยังไม่ทิ้งสันดานเดิม เมื่อสบโอกาส ก็ชิงเมืองชีจิ๋วจากเล่าปี่ ผู้มีพระคุณ

ซึ่งเหตุการณ์ในวรรณกรรมสามก๊ก ไม่ได้เล่าเรื่องราวอย่างทื่อๆ แต่มีการเเสดงให้เห็นถึงสิ่งเร้า รวมถึงชนวนเหตุที่ทำให้ตัวละครนั้นๆ ตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร

กรณีของลิโป้ โดยส่วนตัวคาดว่าน่าจะเลื่อมใสเล่าปี่ในระดับหนึ่ง เเต่จากการที่มักถูก “เตียวหุย” พี่น้องร่วมสาบานของเล่าปี่ พูดจาถากถาง มิหนำซ้ำยังกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีของพ่อตา ซึ่งในฐานะผู้ที่ได้ชื่อว่าโคตรจะรักภรรยา จึงเจ็บเเค้นเป็นยิ่งนัก ประกอบกับความเป็นผู้ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เมื่อเห็นช่องทาง ลิโป้ก็ยึดเมืองผู้มีพระคุณซะเลย

โดยเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของวรรณกรรมสามก๊กก็คือ ความมีมิติของตัวละคร มีความเป็นมนุษย์ สูง ต่ำ นูน ลึก จนผู้อ่านรู้สึกและสัมผัสได้ อย่างในกรณีของ “โจโฉ” แม้ภาพลักษณ์จะเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ในบางสถานการณ์ก็แสดงให้เห็นความละเอียดอ่อนภายในจิตใจ หรือแม้กระทั่งเล่าปี่ ที่ภาพลักษณ์เป็นคนดีมีคุณธรรม ก็ยังมีมุมดาร์ก ดาร์ก ปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง

ในกรณีของลิโป้ก็เช่นกัน เมื่อเล่าปี่อยู่ในภาวะคับขัน ถูกทัพของ “ก๊กอ้วนสุด” ล้อมเมือง และมีแนวโน้มจะแพ้ศึก ลิโป้ก็เข้าไปช่วยแก้สภานการณ์ โดยให้ทหารนำทวนไปปักในระยะไกล พร้อมกล่าวว่า ถ้าเขาสามารถยิงธนูถูกปลายทวน ทั้งสองฝ่ายต้องเลิกรบกัน ความหมายที่ชัดๆ ก็คือ “กิเหลง” แม่ทัพก๊กของอ้วนสุด ต้องถอยทัพกลับนั่นเอง

ว่าไปแล้ว ชีวิตของเล่าปี่ในเวลานั้น ก็อยู่ในกำมือของลิโป้ หากเขาเเสร้งยิงไม่โดนปลายทวน ก็สามารถอ้างได้ว่า พยายามจะช่วยเเล้ว เเต่สุดวิสัย อีกทั้งการยิงธนูให้ถูกปลายทวนในระยะไกลขนาดนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ด้วยฝีมือในระดับเหนือมนุษย์ เเละต้องการช่วยเล่าปี่ด้วยน้ำใสใจจริง ลูกธนูของลิโป้ก็พุ่งไปถูกปลายทวนได้อย่างน่าอัศจรรย์ โชว์สกิลความแม่นยำราวกับจับไปวาง ทำให้เล่าปี่รอดพ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ซึ่งน่าจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของลิโป้ ที่ได้กระทำในสิ่งอันควร นั่นก็คือตอบเเทนผู้ที่เคยมีบุญคุณ

ลิโป้อยู่ในช่วงขาขึ้นได้ไม่นานนัก ต่อมาก็ตกต่ำ เพราะหลงคำยกยอปอปั้นของไส้ศึก และมิได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตันก๋ง กุนซือผู้ซื่อสัตย์ จนเสียเมืองชีจิ๋ว และต้องพาครอบครัวกับสมุนหนีไปอยู่ในเมืองเล็กๆ ก่อนถูกทัพของโจโฉล้อมไว้

ภาพจาก kor.pngtree.com

ด้วยความหมดอาลัยตายยาก วันๆ ลิโป้ก็ดื่มแต่เหล้าจนเมามาย เพื่อให้ลืมความกลัดกลุ้มที่รุมเร้า ขลุกอยู่กับภรรยาหลวงภรรยาน้อย ไม่ยอมออกรบ หรือหาหนทางแก้ไขสถานการณ์ กระทั่งวันหนึ่งภรรยานำกระจกมาให้ส่อง เขาก็ต้องตกใจจนแทบช็อก เมื่อพบว่าใบหน้าตัวเองซีดเซียวทรุดโทรม จนดูไม่เป็นผู้เป็นคน จึงรำพึงรำพันกับตัวเองว่า “พิษภัยของสุราช่างร้ายนัก” ก่อนตั้งกฏเหล็ก “ห้ามทุกคนดื่มสุราเด็ดขาด” ถ้าใครขัดคำสั่ง จะต้องถูกตัดหัว

ต่อมาเมื่อคนเลี้ยงม้าของลิโป้ ยักยอกม้าส่วนหนึ่งเพื่อจะนำไปให้เล่าปี่ เเต่ถูก “เฮาเสง” ขัดขวางไว้ได้ หลังจากนั้นก็มีผู้ไปเเสดงความชื่นชมเฮาเสงที่บ้านเป็นจำนวนมาก เฮาเสงจึงอยากเลี้ยงสุราเหล่ามิตรสหาย เเต่ติดอยู่ที่กฏเหล็กของลิโป้

เฮาเสงจึงเข้าไปขออนุญาตเลี้ยงสุราเเขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยียน พอลิโป้ได้ยินดังนั้น ก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า เเล้วก็สั่งให้นำตัวเฮาเสงไปตัดหัว โทษฐานมาขออนุญาตละเมิดกฏเหล็ก เเต่มีผู้ช่วยอ้อนวอนขอชีวิตไว้ ลิโป้จึงสั่งให้โบยแทน ถึงแม้รอดตาย แต่ก็สร้างความเจ็บอายให้กับเฮาสงเป็นยิ่งนัก

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เห็นใจเฮาเสงเป็นจำนวนมาก แทนที่จะได้รางวัล กลับกลายเป็นถูกลงโทษ อันเนื่องมาจากกฏพิลึกพิลั่นของลิโป้ อีกทั้งยังกระทำเกินกว่าเหตุ พรรคพวกของเฮาเสงจึงทนไม่ไหว คบคิดกันจับตัวลิโป้มัดไว้ในขณะที่กำลังหลับ แล้วเปิดประตูเมืองให้ทัพโจโฉเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

โดยขณะที่ลิโป้ถูกมัดนั่งอยู่ต่อหน้าโจโฉและเล่าปี่ ที่ช่วงนั้นยังมีไมตรีหวานชื่นกันอยู่ ลิโป้ก็ได้อ้อนวอนขอชีวิต และเอ่ยกับเล่าปี่ให้ระลึกถึงตอนที่เขาออกอุบายช่วยให้พ้นภัย ด้วยการท้าเดิมพันยิงธนูให้ถูกปลายทวน

โจโฉจึงหันไปถามเล่าปี่ว่า “ควรจะทำเช่นไร”
“ให้ท่านนึกถึงจุดจบของเต๊งหงวน กับตั้งโต๊ะ (ที่ถูกลิโป้ผู้เป็นบุตรบุญธรรมฆ่าตาย) เเล้วท่านจะได้คำตอบ” เล่าปี่กล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้น โจโฉก็สั่งทหารให้นำลิโป้ไปตัดหัว ปิดฉากชีวิตยอดขุนศึก ที่เอาตัวรอดมาได้ทุกสมรภูมิ เเต่สุดท้ายกลับถูกทหารของตัวเองจับมัดส่งตัวให้ศัตรูสังหาร เพราะความคับเเค้นใจ ด้วยโทษที่ได้รับอย่างไม่เป็นธรรมจากกฏห้ามดื่มสุรา อันเป็นชนวนเหตุนำลิโป้สู่วาระสุดท้าย อย่างสิ้นลายชายชาตินักรบ 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews