SHARE

คัดลอกแล้ว

นิทรรศการ 30 Secs Before Death สัมผัสประสบการณ์ 30 วินาทีก่อนตาย นิทรรศการ 1st Immersive Exhibition By Deadline Always Exists เป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week 2023 ที่อาจทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ ต้องเสียน้ำตา

นิทรรศการ 30 วินาทีก่อนตาย ที่เราได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วม ทีมผู้จัดงานได้ขอภาพที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เหตุการณ์ในชีวิต ผู้คนที่อยู่ในชีวิต อย่างน้อย 12 ภาพ ประกอบด้วย ภาพตัวเราเอง ภาพคนที่รัก ภาพครอบครัว ภาพความทรงจำเหตุการณ์ที่เราไม่อยากลืม

ห้องนิทรรศการเป็นห้องสี่เหลี่ยมกว้างราว 3 x 3 เมตร มืดสนิท มีเก้าอี้ 1 ตัว และตัวเรามีจอจัดแสดงภาพ ผู้เข้าชมจะได้รับรีโมท พร้อมแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าให้กดปุ่มสีแดงเมื่อเรา “พร้อม”

บอกก่อนว่า การเข้าไปในห้องนี้แตกต่างจากคนอื่นตรงที่เราไม่ได้เข้าไปคนเดียว แต่มีช่างภาพ เข้าไปเก็บเรื่องราวนี้ด้วย…

Deadline Always Exists จัดเจนในเรื่องการมอบประสบการณ์การทบทวนอะไรบางอย่างในชีวิต เราค่อยๆ กดปุ่มสีแดงไปอย่างช้าๆ จนถึงช่วงที่มีเสียงดังเข้ามาให้หัวพร้อมกับข้อความที่บอกว่าเรากำลังจะตาย เราตกอยู่ในภวังค์นั้น ภาพในหัวคือภาพที่เราเลือกไปหมุนวนอยู่รอบตัวเรา ต้องบอกลาแล้วสินะ เรารู้สึกไม่พร้อมที่จะกดปุ่มสีแดงเพื่อจากไป เรายังอยู่อยู่เห็นพวกเขาต่อ ยังอยากอยู่สร้างเรื่องราวอีกมากมาย เรากดปุ่มเพื่อนเลื่อนไปช้ามาก และนาทีที่ภาพทั้งหมดกำลังจะถูกลบออกจากความทรงจำ น้ำตาไหล นึกภาพคนที่เรารักกำลังเรียกหา เรียกให้เรากลับไปอยู่ด้วย ภาพหลายอย่างที่เราตั้งใจจะทำและยังไม่ได้เริ่มวนกลับมา ทำให้คิดอยากยื้อไว้ให้นานที่สุด…

เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ คือ Key Massage หนึ่งที่อยากส่งถึงผู้ชม

มินนี่ เมธาวจี สาระคุณ ผู้จัดเล่าว่า ช่วงหลังๆ 3 – 4 ปีมานี้ การ “อยากตาย” มันกลายเป็นคำที่ธรรมดามากขึ้น ใครๆ ก็พูดว่าอยากตาย อยากหนีไปจากชีวิตนี้แล้ว มินนี่อยากทำงานชิ้นหนึ่งที่ให้คนได้รู้สึกว่า จริงๆ แล้ว ไม่ได้อยากตายหรอก ยังมีอะไรอีกเยอะเลยที่เรายังไม่ได้ทำในชีวิตนี้ ยังมีอะไรอีกเยอะที่ทำให้เราอยากอยู่บนโลกนี้ ก็เลยเกิดเป็นงานชิ้นนี้ขึ้นมา

“ไปอ่านเจองานวิจัยหนึ่งบอกว่า ก่อนที่คนเราจะตายมันจะมีภาพไหลย้อนกลับมาในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย ของชีวิต ซึ่งมันน่าเสียดายมากในช่วงที่เราเห็นภาพนั้น จังหวะที่เราได้เห็นภาพนั้น เราจะไม่สามารถทำอะไรกับมันได้อีกแล้ว เพราะเรากำลังจะตายจริงๆ ดังนั้นการที่ทำให้ทุกคนได้มาลองซ้อมกันก่อน เราคงทำอะไรได้อีกเยอะเลย มันคงมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่เราอยากกลับไปทำ กลับไปแก้ไขได้ เพราะเราไม่ได้ตายจริงๆ โมเมนต์ที่ชอบมากคือ มีคนมาดูแล้วออกมาจับมือมิน แล้วบอกว่า ขอบคุณมาก เราไม่อยากตายแล้ว เราอยากมีชีวิตต่อ แล้วพอคุยไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าเพิ่งฆ่าตัวตายมา และรู้สึกว่าอยากตาย แต่พอได้มางานนี้ แล้วมันทำให้เขารู้สึกว่ายังตายไม่ได้ มีหลายอย่างมากที่เขารู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดี”  มินนี่ กล่าว

เธอเล่าอีกว่า นิทรรศการนี้ จัด 1 รอบ ต่อ 1 คน โดยให้ผู้เข้าร่วมส่งรูปมาก่อน อย่างน้อย 12 รูป คือเป็นรูปที่เลือกแล้วว่ามีความหมายกับชีวิต เพราะต้องการจะให้รูปนั้นทำงานกับคน เพราะทุกคนมีเรื่องราวที่เราไม่สามารถเข้าไปนั่งถาม นั่งสัมภาษณ์ ได้ เราไม่สามารถทำนิทรรศการที่จัดแบบเน้นเฉพาะบุคคลได้ เราเลยใช้วิธีการให้เขาส่งรูปมา แล้วเรื่องราวของเขามันจะออกมาเอง เป็นเรื่องราวที่เราไม่ได้สัมภาษณ์แต่เขาจะรับรู้ได้ด้วยตัวเอง

ความรู้สึกของคนที่มาร่วม จะแตกต่างกันไปจากสภาพจิตใจและความรู้สึก

มินนี่ทำงานนี้ขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ยังอยากมีชีวิตอยู่ มีหลายอย่างมากที่ทำให้เรายังอยากอยู่บนโลกใบนี้ มีคนมากมายที่ยังอยากให้เขาอยู่ในชีวิตเรา ยิ่งพอทำนิทรรศการแล้วได้เห็นภาพผู้คนเหล่านั้นไหลย้อนกลับ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีความหมายมาก คาดหวังว่าคนที่มาจะเห็นคุณค่า และความหมายของการมีชีวิตมากขึ้น งานศิลปะมันคือการ express อารมณ์ของคน

ซึ่งคนที่มาดูจบออกมาแล้วก็จะมีทั้งแบบคนที่ยังไม่เข้าใจ และมีหลายคนที่เดินร้องไห้ออกมา จากนั้นจะให้เขียนในสิ่งที่อยากจะเขียน หรือเขียนสิ่งที่เขาเสียดาย สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ มีประโยคที่ชอบในสมุดเยี่ยมที่มินนี่บอกว่า ชอบมากคือ “บางทีเราต้องตายหลายครั้ง กว่าจะเข้าใจชีวิต คืออะไร” ซึ่งในความเป็นจริง ทุกอย่างที่เห็น เมื่อตายแล้วเราจะลืมมันไปหมด

มินนี่ บอกว่า อีกความต่างของนิทรรศการ เป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week ซึ่งจริงๆ งานอื่นจะเป็นเรื่องความอู้ฟู่ ถ่ายภาพ ยิ่งใหญ่ อลังการ แล้วที่ตั้งเราอยู่กลางสยาม ท่ามกลางความวุ่นวาย ผู้คนมากมาย เราอยากเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่อยากให้คนได้สัมผัสความธรรมดาของชีวิต เราอยากจะนำเสนอให้คนที่มางานนี้เห็นว่า มันธรรมดามากนะ มันแค่นี้เอง ชีวิตมันธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องรู้ ที่บางทีเราอาจจะหลงลืมมันไป ถ้าใครอยากดูความธรรมดาของชีวิต ก็มาเจอกันได้ที่งานนี้ ส่วนใครที่ได้ลองใช้ Deadline Always Exist แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะซ้ำกัน แต่จะเป็นภาคต่อกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจัดเพิ่มรอบ

 

 

สำหรับผู้เขียนเอง มองว่า นิทรรศการนี้ทำงานกับความรู้สึกเราได้อย่างสมบูรณ์ เราเลือกช่างภาพที่เป็นเพื่อนสนิท ไม่เช่นนั้นนิทรรศการนี้อาจจะทำงานไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น ขอบคุณน้องมินนี่ที่เชิญเรามาร่วมนิทรรศการ ที่แสนธรรมดาแต่มีความหมายกับชีวิตเรามากๆ มันทำให้ทุกห้วงเวลาหลังจากเข้ารับชมนิทรรศการ เราอยากพูดคุย อยากโทรหา อยากใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักให้มากที่สุด อยากทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ เพราะจริงๆ แล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่าความตายจะมาถึงตอนไหน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า