Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ช่วงระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา เกือบทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากวิกฤตถ้วนหน้า เริ่มตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน

ตามด้วยภาวะเงินเฟ้อ และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลายบริษัทต้องล้มหายตายจากไป แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่สามารถปรับตัวได้และเริ่มพลิกฟื้นธุรกิจกลับมา

แม้อาจจะยังไม่ดีเท่ากับก่อนวิกฤต แต่ก็เริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และมีโอกาส Turnaround หรือพลิกกลับมาทำกำไร ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

โดยพบว่ามี 4 บริษัทใน 4 ธุรกิจ ที่แนวโน้มรายได้ค่อนข้างดี และบางรายกลับมารายได้กลับมาเติบโตโดดเด่นแล้ว ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวในอีก 1-2 ไตรมาสต่อจากนี้

TGPRO เข้าช่วงขาขึ้นเต็มตัว

เริ่มจาก บมจ.ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ (TGPRO) ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส ภายใต้เครื่องหมายการค้า TGPRO ผลประกอบการเริ่มเข้าสู่การ Turnaround เต็มรูปแบบ

หลังขาดทุนติดต่อกันในปี 2562-2563 อยู่ที่ 171.57 และ 58.37 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ปี 2564 พลิกกลับมามีกำไรได้ถึง 84 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

หลังจากปรับกลยุทธ์เน้นผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ได้แก่ สินค้าท่ออุตสาหกรรมอาหารในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา รวมถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีความต้องการสินค้าประเภทท่ออุตสาหกรรมน้ำแข็ง

‘รชต ลีลาประชากุล’ กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า คาดว่าในไตรมาส 3 ปี 2565 ผลงานจะดีต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีความต้องการใช้ท่ออุตสาหกรรม โดยบริษัทยังคงรักษาการเติบโตของยอดขาย

ขณะเดียวกันเตรียมขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ ที่มีความต้องการท่ออุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ประเทศกลุ่มทวีปอเมริกาใต้ และ ทวีปแอฟริกา ในกลุ่มสินค้าประเภทท่อสเตนเลสแบบไร้ตะเข็บ (Seamless Pipe) และท่อสเตนเลสแรงดันสูง

‘บริษัทยังคงดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงและมีความหลากหลาย พร้อมทั้งเตรียมแผนงานให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาด ทั้งด้านต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนการขนส่ง บริหารคลังสินค้า และ การป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน เพื่อรองรับตลาดที่มีจะแนวโน้มขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง’

ทั้งนี้ จากผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ราคาหุ้น ณ 5 ก.ย. 2565 ที่ 0.26 บาท มีระดับราคาต่ำกำไร (P/E) เพียง 11.16 เท่า และซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (P/BV) ที่ 0.56 เท่า

BEAUTY มั่นใจครึ่งหลังพลิกกำไร

ถัดมา บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) หลังจากขาดทุนมา 2 ปีติดต่อกัน (2563-2564) ที่ระดับ 105 ล้านบาท และ 81 ล้านบาท ตามลำดับ

ล่าสุด ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2565 เหลือขาดทุนเพียง 29 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย

‘พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจว่า จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในครึ่งหลังปี 2565 จากการปรับโครงสร้างธุรกิจเริ่มส่งผลดีอย่างต่อเนื่อง ยอดขายดีขึ้นทุกช่องทางทั้งในและต่างประเทศ

จากกลยุทธ์ปรับโครงสร้างบริหารจัดการ และการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมด อาทิ การปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลาย เข้าถึงง่าย การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (Refresh Branding)

การปรับปรุงและพัฒนารูปแบบร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET ใหม่ให้มีความทันสมัย การขยายช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ และการลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร คาดว่าผลประกอบการของบริษัท จะพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง 2565

PROUD ฟื้นตัวทั้งรายได้-กำไร

ส่วน บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) ‘ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  มั่นใจว่าผลประกอบการครึ่งหลังปี 2565 มีแนวโน้ม Turnaround ทั้งรายได้และกำไร

เพราะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน มูลค่า 3.81 พันล้านบาท จำนวน 238 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 92.5% หรือมูลค่ารวม 3,495 ล้านบาท เป็นโครงการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 38%

ทั้งนี้ ลูกค้าทยอยโอนเข้ามาตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. 2565 และคาดว่าจะเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะโอนเสร็จสิ้นภายในปีนี้

ปัจจุบันมียอดขายรอโอนแล้ว (Backlog) 2,857 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัว และสามารถล้างขาดทุนสะสม พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 จากช่วงปีก่อนไม่มีการรับรู้รายได้

ขณะที่ โครงการเวหา (VEHHA) หัวหิน มูลค่าโครงการราว 2.29 พันล้านบาท ที่เริ่มเปิดขายในช่วงเดือน ก.ค. 2565 มีกระแสตอบรับที่ดี หลังจากเปิดตัวพบว่ากลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อโครงการเป็นจำนวนมาก

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียและโซนสแกนดิเนเวีย โดยจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4 ปี 2565 แล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี2568 ตั้งเป้ายอดขายภายในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 50%

RT พ้นจุดต่ำสุด พร้อมฟื้นตัวในครึ่งหลัง

สุดท้าย บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค ผลประกอบการเริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว สะท้อนจากงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2565 ที่พลิกมีกำไรสุทธิ 0.21 ล้านบาท

จากไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ขาดทุน 25 ล้านบาท หลังปรับกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนวัสดุก่อสร้าง อาทิ เหล็ก และน้ำมัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

‘ชวลิต ถนอมถิ่น’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า ธุรกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และสถานการณ์มีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะถัดไป รวมถึงคาดว่าปัจจัยต่างๆ ที่กระทบกับต้นทุนมีแนวโน้มคลี่คลาย

ประกอบกับแรงงานก่อสร้างที่กำลังจะกลับมา จึงมีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินงานก่อสร้างได้เร็วขึ้น มั่นใจว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไป โดย RT มุ่งเน้นการส่งมอบงานเพื่อรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำ ‘ถือ’ ราคาเหมาะสม 1.60 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าแนวโน้มไตรมาส 3 ปี 2565 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามมูลค่า Backlog ที่ขยายตัว และการระบาดโควิด-19 ภายในแคมป์ที่คลี่คลายแล้ว

โดยปัจจุบัน RT มีงานในมือ 7.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ 4.6 พันล้านบาท หลังลงนามสัญญาใหม่ 2 โครงการเมื่อ ส.ค.ที่ผ่านมา มูลค่า 2.7 พันล้านบาท ขณะที่อยู่ระหว่างเจรจา 3-4 โครงการใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565 จะดีขึ้นทั้งเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และครึ่งแรกปี 2565 (HoH) และมีโอกาสฟื้นตัวเป็นกำไร

โดยได้ปัจจัยหนุนจาก 1. การระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลายอย่างมีนัย 2. บริษัทนำเข้าแรงงานอีก 300-400 คนภายใน ธ.ค. 2565 และ 3. การเริ่มงานอย่างเป็นทางการของอุโมงค์ทางคู่เด่นชัยฯ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า