5 หุ่นยนต์สุดล้ำ เก่งไม่แพ้มนุษย์

มาดูกันว่า 5 หุ่นยนต์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งถึงแม้จะเป็นหุ่นยนต์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่มันก็มีความฉลาดและเก่งไม่แพ้มนุษย์เลย

Watson วินิจฉัยโรคเก่งกว่าหมอ

Watson (วัตสัน) คือปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ (Artificial Intelligence: AI) จาก IBM บริษัทด้านคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกพัฒนาติดตั้งระบบประมวลผลข้อมูลแบบ Cognitive Computing หรือระบบที่มีสามารถเรียนรู้จดจำ เข้าใจภาษามนุษย์ ผ่านการเก็บข้อมูลซ้ำๆ นำไปวิเคราะห์บริบทในการสนทนา ปรับตัวตามสถานการณ์ และพูดคุยตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่างมีเหตุผล

Watson ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในวงการแพทย์ ด้วยการใส่ข้อมูลงานวิจัยทางการแพทย์ ประวัติการรักษาของผู้ป่วยหลายล้านชิ้นเข้าไปในฐานข้อมูล ทำให้สามารถวินิจฉัยโรคได้แม่นยำ

จากรายงานวิจัยของ IBM ระบุว่า Watson สามารถเก็บข้อมูลทางการแพทย์ได้ 605,000 ชิ้น รวมถึงสารทางการแพทย์อีก 2 ล้านแผ่น เพื่อนำไปประมวลผลต่อ ค้นหาประวัติผู้ป่วยได้กว่า 1.5 ล้านคน

ที่สำคัญสามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดได้แม่นยำถึง 90% ขณะที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความแม่นยำเพียง 50% เท่านั้น มิหนำซ้ำยังช่วยย่นระยะเวลาในการรักษา เพราะโดยปกติ แพทย์ต้องใช้เวลาหาข้อมูลสัปดาห์ละกว่า 160 ชั่วโมง แต่ Watson ใช้เพียงไม่กี่นาทีในการเก็บรวบรวมข้อมูล

นอกจากนี้ Watson ยังใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ช่วยค้นหาข้อมูล ช่วยตัดสินใจบนฐานข้อมูลมหาศาล เพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุดแทนมนุษย์

Sophia หุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่ได้สิทธิเป็นพลเมือง

Sophia (โซเฟีย) เป็นหุ่นยนต์ที่ใส่เทคโนโลยี AI เข้าไป ของ Hanson Robotics บริษัทผลิตหุ่นยนต์ที่มีฐานอยู่ในฮ่องกง มีจุดเด่นที่รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์เพศหญิง มีต้นแบบมาจาก ‘ออเดรย์ เฮปเบิร์น’ ดาราดังผู้ล่วงลับ

Sophia ถูกพัฒนาให้มีความรู้สึก มีความคิดสร้างสรรค์ เคลื่อนไหวได้ เรียนรู้จดจำคำพูด สามารถพูดตอบโต้ได้ด้วยเทคโนโลยีจาก Google นอกจากนี้ยังมีกล้องภายในดวงตา ทำให้สบตาเมื่อคุยกับมนุษย์

ส่วนผิวหนังทำจากวัสดุที่จดสิทธิบัตรใหม่ เรียกว่า Frubber มีลักษณะยืดหยุดเหมือนยางและซิลิโคน เลียนแบบกล้ามเนื้อและผิวหนังของมนุษย์ ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ประมวลผลความรู้สึกนึกคิดของ Sophia ในขณะนั้นๆ ทำให้เธอสามารถแสดงออกทางสีหน้าได้มากถึง 62 แบบ เช่น ยิ้ม โกรธ ยักคิ้ว ทำหน้าสงสัย ฯลฯ 

ทั้งนี้ Sophia เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองจากประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมถึงได้รับเชิญไปออกรายการดังทางโทรทัศน์อีกหลายรายการ ผู้ผลิตตั้งเป้าว่าจะใช้ Sophia ไปช่วยงานมนุษย์ เช่น งานบริการต้อนรับ งานสาธารณสุข หรืออาจทำงานทดแทนมนุษย์ได้ในบางตำแหน่ง

AlphaGo Zero โค่น AlphaGo ที่โค่นแชมป์เซียนโกะอีกที

AlphaGo (อัลฟา โกะ) คือปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท DeepMind จากกูเกิล ใช้ระบบที่เรียกว่า Machine Learning เรียนรู้การเล่นเกมหมากล้อมก่อนถูกนำมาดวลกับมนุษย์จนชนะในที่สุด

การสอนให้ AlphaGo เล่นเกมโกะเป็นนั้น จะต้องใส่ข้อมูลพื้นฐานของเกมเข้าไปก่อน เช่น กฎกติกา วิธีการเดินหมาก ความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ประกอบกับเรียนรู้วิธีการเดินหมากจากผู้เล่นที่เป็นมนุษย์กว่า 30 ล้านรูปแบบ ฝึกฝนทั้งกับมนุษย์และตัวมันเอง พร้อมหาเทคนิคจากข้อมูลหลายชุด แล้วนำมาวิเคราะห์หาเป้าหมายหนึ่งเดียว นั่นคือวิธีการที่จะเป็นผู้ชนะ จนเมื่อปี 2560 AlphaGo สามารถเอาชนะนาย Ke Jie แชมป์โลกเซียนโกะ 3-0 เกมรวด

ส่วน AlphaGo Zero (อัลฟา โกะ ซีโร่) เวอร์ชั่นล่าสุดของ AlphaGo เป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของ AI ที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลจากมนุษย์เหมือนเวอร์ชั่นเก่า แต่เริ่มเรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ซึ่งทางผู้พัฒนาระบุว่า AlphaGo Zero ใช้เวลาเรียนรู้กับตัวเองเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น และพอยิ่งชั่วโมงการเรียนรู้มากขึ้น มันก็ยิ่งฉลาดขึ้น จนสามารถชนะ AlphaGo ในเกมหมากล้อม ตัวเดียวกับที่เคยชนะมนุษย์มาแล้วได้

Libratus เล่นโป๊กเกอร์ชนะแชมป์โลก 

Libratus (ลิบราตัส) เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้ เมลลอน เพื่อมาท้าดวลกับแชมป์โป๊กเกอร์ระดับโลก โดยลักษณะเด่นของโป๊กเกอร์นั้นคือ ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถรู้ไพ่บนมือของอีกฝ่ายได้เลย ต่างจากหมากล้อมที่ทั้งสองฝ่ายจะเห็นตัวเดินหมากทั้งกระดาน

Libratus ใช้ระบบ reinforcement learning หรือการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูกซ้ำๆ หลายครั้ง จนเกิดการวางแผนและคาดเดาหาทางออกที่ดีที่สุด พอ Libratus ฝึกฝนการเล่นจนพร้อมแล้ว จึงได้ไปทดลองแข่งกับแชมป์โป๊กเกอร์ระดับโลก 4 คน ด้วยกฎกติกาการเล่นออนไลน์แบบ Texas Hold ‘Em (เท็กซัส โฮล เอ็ม)

เมื่อจบเกมที่กินเวลากว่า 3 สัปดาห์ ทางฝั่ง Libratus ชนะแชมป์โป๊กเกอร์ได้สำเร็จ ซึ่งหากมีการเสียเงินเดิมพันกันจริง Libratus จะได้เงินไปกว่า 1.8 ล้านเหรียญฯ ด้านผู้แพ้ระบุว่า เป็นเกมที่มนุษย์แพ้ AI ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนรู้สึกเสียกำลังใจ

ในอนาคตระบบ AI เช่นเดียวกับ Libratus นี้ อาจถูกนำมาใช้ประโยชน์เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ที่บางทีความสามารถของมนุษย์ยังตามไม่ทัน

Xiaoyi หุ่นยนต์ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตทางการแพทย์ 

Xiaoyi (เสี่ยวยี่) เป็น AI ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ของจีน สามารถทำคะแนนสอบได้ 456 คะแนน จากคะแนนเต็ม 600 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ผ่านถึง 96 คะแนน

หนึ่งในทีมผู้คิดค้นระบุว่า Xiaoyi สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ ทั้งตำราเรียนแพทย์หลายสิบเล่ม เวชระเบียนข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยกว่า 2 ล้านชิ้น และบทความเกี่ยวกับการทดสอบการเป็นแพทย์กว่า 400,000 บทความ ประกอบกับการเป็นปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ Xiaoyi สามารถเรียนรู้ ใช้เหตุผล และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

Xiaoyi ถูกพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง และบริษัท iFlytek บริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ เช่น การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย และให้คำแนะนำแพทย์เพื่อช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น