Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เจอตัวแล้วคนติดป้ายทวงหนี้ผอ.บนสะพานลอยกลางเมืองกาฬสินธุ์ ที่แท้เป็นผู้รับเหมาหญิง เผยสาเหตุคับแค้นใจหลังจากทำงานก่อสร้างให้กับโรงเรียนแล้วเสร็จหลายโครงการแต่กลับถูกอดีตผอ.เบี้ยวไม่จ่ายเงินกว่า 5.2 ล้านบาท ทำให้ครอบครัวเป็นหนี้เป็นสินท่วมหัวจนส่อล้มละลาย

จากกรณีมีคนสวมหมวกไอ้โม่งนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความคล้ายกับเป็นการทวงหนี้ระบุว่า “ผอ.สั่งทำงาน งานเสร็จ ไม่มีเงินจ่าย ใครจะรับผิดชอบ” และ “ผอ.เห็นพวกเราเป็นคนมั้ย สงสารพวกเราบ้างหรือเปล่า”มาติดไว้บนสะพานลอยบริเวณหน้าโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาเกิดความสงสัยและฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะอยากทราบถึงสาเหตุที่นำมาติดนั้นเพราะอะไรและต้องการทวงหนี้กับผอ.คนใด

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป้ายดังกล่าวมีคนปลดออกแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้รับเหมาหญิงคนดังกล่าว ทราบชื่อคือนางวิจิตรา บุญรัตน์ อายุ 51 ปี ชาว ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้นำป้ายข้อความดังกล่าวมาติดไว้บนสะพานลอยจริง เนื่องจากต้องการขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหลังจากตนเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาที่ถูกอดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ว่าจ้างให้ก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนจนแล้วเสร็จหลายโครงการ แต่ไม่ยอมจ่ายเงินจำนวน 5,200,000 บาท จนทำให้ครอบครัวเป็นหนี้สินที่นาถูกยึดไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน ซึ่งเวลาผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน จึงต้องการให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริง

นางวิจิตรา บุญรัตน์ อายุ 51 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง

โดยนางวิจิตรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ยอมรับว่าเป็นผู้ที่นำป้ายข้อความดังกล่าวไปติดไว้บนสะพานลอยจริง เนื่องจากตนเองหมดหนทางที่จะต่อสู้แล้ว และไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร อีกทั้งยังเกิดความคับแค้นใจอย่างมาก หลังจากเมื่อปี 2558 ตนได้ทำงานก่อสร้างให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กมลาไย จ.กาฬสินธุ์จนแล้วเสร็จหลายโครงการ แต่กลับถูกอดีตผู้อำนวยการ ซึ่งปัจจุบันทราบว่าย้ายมาเป็นผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้กับตนจำนวน 5,200,000 บาท ทำให้ตนต้องนำที่นา บ้าน และที่ดินไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าแรงคนงานกว่า 40 ชีวิต จ่ายค่าวัสดุก่อสร้างให้กับร้านค้าที่ได้นำวัสดุมาทำงานก่อสร้าง และจ่ายดอกเบี้ยที่ไปกู้ยืมมา

นางวิจิตรา กล่าวอีกว่า ตนเป็นเพียงผู้รับเหมาเล็กๆทำงานก่อสร้างโครงการเล็กๆหาเช้ากินค่ำ และต้องดูแลชีวิตคนงานกว่า 40 คน แต่กลับมาถูกรังแก ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่ผ่านมาตนได้เข้าขอความเป็นธรรมให้ช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงาน เดินทางไปจนถึงสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งมีเพียงผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์เท่านั้นที่ให้การช่วยเหลือ โดยการช่วยเหลือเรื่องทนายความสู้คดีและดำเนินการด้านกฎหมายในการฟ้องศาลปกครอง ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน

ด้านหน่วยงานที่เป็นต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าวทั้ง สพม.24 และสำนักงานศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือแต่อย่างใด จนเวลาผ่านล่วงเลยมาแล้วมากกว่า 3 ปี ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนทำให้ขณะนี้ครอบครัวของตนเป็นหนี้เป็นสินท่วมหัวไป ดังนั้นจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการกศึกษาขั้นพื้นฐานเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ด้วย เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน และหากปล่อยไว้บ้าน ที่ดิน รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนมาทั้งชีวิตคงจะถูกธนาคารยึดไปเหมือนที่นาอย่างแน่นอน

ด้านนายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าโรงเรียนเป็นหนี้ผู้รับเหมาจริง ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างจำนวนเงินประมาณ 15 ล้านบาท โดยเรื่องดังกล่าวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2558 ตั้งแต่ผู้อำนวยการคนเก่า ส่วนตนนั้นได้เข้ามารับตำแหน่งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งเมื่อปี 2558 ทางโรงเรียน โดยผู้อำนวยการคนเก่าได้ว่าจ้างช่างทำรับเหมาประมาณ 10 รายมาปรับปรุงโรงเรียนหลายโครงการ เป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท แต่เมื่องานเสร็จแล้ว ซึ่งเกินงบประมาณ จึงไม่มีเงินจ่ายจนทำให้ผู้รับเหมาไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 24 และล่าสุดไปติดป้ายทวงเงินที่บนสะพานลอยกลางเมืองกาฬสินธุ์

นายเอกรักษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่องขึ้นทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว และทางโรงเรียนก็พยายามใช้จ่ายอย่างประหยัด เพื่อที่จะนำเงินที่เหลือจากโครงการต่างๆทยอยใช้หนี้ให้กับผู้รับเหมาปีละประมาณ 1 ล้านบาท ตามสัดส่วนของแต่ละราย ทั้งนี้เนื่องจากทางโรงเรียนมีงบประมาณแต่ละปีประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งจะต้องนำไปพัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพด้านการศึกษาเป็นหลัก เพื่อไม่ให้กระทบกับเด็กนักเรียน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงมีจำเป็นที่จะต้องทยอยใช้หนี้ได้เพียงปีละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปี 2562 นี้ทางโรงเรียนกำลังปรึกษากับคณะกรรมการโรงเรียนเพื่อที่จะเพิ่มการใช้หนีเป็น 1.5 ล้านบาท เนื่องจากมีความเห็นใจผู้รับเหมาที่ก่อสร้างทำงานเสร็จแล้วกลับไม่ได้เงิน และพยายามมาทวงถามพูดคุยหลายคนถึงกับร้องไห้ แต่ทางโรงเรียนก็ยืนยันว่าสามารถจ่ายได้แค่นี้ เพราะหากจ่ายมากกว่านี้จะทบต่อการพัฒนาด้านการศึกษาของนักเรียน

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ป้ายทวงหนี้ ผอ. โผล่บนสะพานลอย กลางเมืองกาฬสินธุ์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า