พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
รมว.มหาดไทย สั่งการ ผวจ. 14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย พร้อมชี้แจงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยันทำงานตามหลักของกฎหมาย
วันที่ 29 ต.ค.2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีได้รับหนังสือจากคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัยเรียกเข้าชี้แจงการจัดสรรงบประมาณแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้งของกระทรวงมหาดไทยอาจมีการทุจริตและไม่เป็นธรรม ยืนยันว่า ทำงานตามหลักของกฎหมายและพร้อมเข้าชี้แจง มองว่าเป็นธรรมดาของการทำงานที่ต้องเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกกังวลหรือไม่ที่มีรายชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเชิญมาก็สามารถชี้แจงในทุกเรื่อง
นอกจากนี้พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงมาตรการรับมือสถานการณ์อุทกภัยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ช่วงกลางเดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมนี้ บริเวณภาคใต้จะได้รับอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่นและอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้ามาใกล้หรือเข้าสู่บริเวณภาคใต้ของไทย ได้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ เตรียมพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินถล่มและคลื่นลมแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชนอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องและทั่วถึงทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลการเตรียมความพร้อมที่ถูกต้อง แนวทางปฏิบัติตนและช่องทางการแจ้งข้อมูลหรือขอรับความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ให้ติดตามและประเมินสถานการณ์และคลื่นลมในทะเลตลอด 24 ชั่วโมง โดยแจ้งเตือนภัยประชาชนได้ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ พร้อมสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ในจุดปลอดภัยในทันที โดยให้ยึดแนวทางการจัดการสาธารณภัยตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แบ่งมอบภารกิจ พื้นที่ปฏิบัติงานและผู้รับผิดชอบให้ชัดเจนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะด้านการสื่อสารให้จัดระบบการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หน่วยทหาร เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพ
รวมถึงเพิ่มช่องทางระบบการสื่อสารสำหรับแจ้งข้อมูลและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมยานพาหนะและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมรับมือและรายงานสถานการณ์มายังกองอำนวยการกลางอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประชาชนสามารถประสานงานขอรับความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
