SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาพนักท่องเที่ยวนอนชิลอ่านหนังสือในเปลที่ประดิษฐ์ขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยมีลูกหาบชาย 2 คนช่วยกันแบกน้ำหนักเพื่อเดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ที่ถูกแชร์และส่งต่อในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็วซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขณะที่ลูกหาบบอกว่ารับจ้างแบกและหามทุกอย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ไม่เคยเกี่ยง เพราะเวลาทำเงินที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูท่องเที่ยวเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมเท่านั้น

ภาพคุณ Wasun pantip.com

เมื่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการพิชิตยอดภูกระดึงที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,316 เมตร แต่อาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพหรือไม่อยากเหนื่อยเดินขึ้นยอดภูที่เป็นทางชันขึ้นภูเขา ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ชาวบ้านในชุมชนจึงรวมตัวกันเพื่อรับจ้างแบกสัมภาระนักท่องเที่ยวขึ้นยอดภู เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนมาอย่างยาวนาน

อัตราค่าบริการปัจจุบันอยู่ที่ราคา กิโลกรัมละ 30 บาท ลูกหาบแต่ละคนสามารถแบกน้ำหนักได้เฉลี่ย 50 กิโลกรัมต่อเที่ยว นั่นหมายความว่าลูกหาบจะได้ค่าแบกเที่ยวละ 1,500 บาท แบกสัมภาระ 1 วัน เที่ยวไปและกลับ ลูกหาบจะได้ค่าแรงวันละ 3,000 บาท 

นายบุญหอง จันทาสี ประธานกลุ่มลูกหาบภูกระดึง เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า ลูกหาบจะให้บริการตามลำดับคิว นักท่องเที่ยวจะต้องไปที่ต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน จากนั้นนำสัมภาระทั้งหมดมาชั่งน้ำหนัก เพื่อจัดของแบ่งน้ำหนักสัมภาระให้ลูกหาบแต่ละคน ช่วงหน้าหนาวถือเป็นช่วงที่ทำรายได้มากที่สุดเพราะนักท่องเที่ยวมากกว่าฤดูร้อน

ลักษณะการแบกสัมภาระปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของนักท่องเที่ยว คนที่ไม่อยากเดินขึ้นหรือเดินไม่ไหว เดิมมีให้บริการนั่งเสลี่ยงเป็นเก้าอี้ชายหาดมัดประกบกับไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งได้อย่างสบายๆ ต่อมาเป็นแบบเปลผูกติดลำไม้ไผ่ใช้ลูกหาบ 2 คน

ประธานกลุ่มลูกหาบภูกระดึง เล่าว่า ของที่แบกขึ้นยอดภูกระดึงที่หนักที่สุดคือ แผงจานดาวเทียม เพื่อใช้ในราชการทหาร ทั้งหมด 4 ชิ้น น้ำหนักรวมมากกว่า 200 กิโลกรัม ครั้งนั้นต้องใช้กำลังลูกหาบ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 6 -10 คน ช่วยกันแบกแผงจานดาวเทียมที่มีขนาด 4 เมตร ด้วยความใหญ่ของสัมภาระและความสูงชันประกอบกับระยะทาง แม้ลูกหาบจะแข็งแรงและมีความอดทนสูงแต่ก็หมดแรงไปตามๆ กัน

แบกรถอีแต๊กขึ้นยอดภูก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่กลุ่มลูกหาบไม่เคยลืม ใช้ลูกหาบทั้งหมด 30 คน ช่วยกันแบกชิ้นส่วนรถอีแต๊กขึ้นไปประกอบบนยอดภูกระดึงหลังปิดฤดูท่องเที่ยว โดยนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง บอกกับลูกหาบว่าจำเป็นต้องนำรถอีแต๊กขึ้นไปเพื่อฟื้นฟูสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงที่พักแรม ซึ่งเดิมทีอุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีอยู่แล้ว 2 คันแต่ยังไม่เพียงพอต่อการดูแลนักท่องเที่ยวและความสะอาด

https://www.facebook.com/bowling.ku/posts/1533060886706744

 

ขอบคุณภาพจาก Sugarbean pantip.combrightv

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า