รมว.ดิจิทัลฯ แถลงจับกุมมือแฮ๊กเว็บชิมช้อปใช้ เป็นนักศึกษาอายุ 19 ปี พร้อมยึดของกลาง ผบก.ปอท.ยันผู้ต้องหาไม่สามารถเจาะระบบของธนาคารกรุงไทยได้
วันที่ 29 ต.ค.2562 พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงข่าวกรณีจับกุมตัวชายอายุ 19 ปี มือแฮ๊กป่วนเว็บไซต์ชิมช้อปใช้ หลังจากที่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันเปิดลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 เป็นวันที่ 2 จากการตรวจสอบพบว่าการลงทะเบียนเกิดความล่าช้า ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าลงทะเบียนได้ตามปกติ
ต่อมาตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 10 ซอย 1 ตำบลจะบังติก อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ได้พบตัว ผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ประกอบเอง 1 ชุดคอมพิวเตอร์ Notebook 1 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง External HDD 2 อัน. รวมถึงของการอื่นๆอีก 17 รายการ มาตรา10 กระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวางหรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ โดยมีอัตราจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา 13 เผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำให้ระบบเว็บไซต์ชิมช็อปใช้ช้าและกีดขวางให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถลงทะเบียนได้ตามปกติโดยกระทำแต่เพียงผู้เดียว
นายพุฒิพงศ์ รมว.ดิจิทัลฯ ยืนยันระบบการป้องกันของธนาคารกรุงไทยถือว่าดีมากแล้ว แต่ผู้ต้องหาก็มีความสามารถในการแฮ๊กข้อมูล โดยวิธีการคือผู้ต้องหาสร้่างเว็บไซต์ understopขึ้นมา แล้วเอาชุดคำสั่งไปแปะในเฟชบุ๊คส่วนตัวหรือเว็บไซต์อื่นๆ พร้อมกับข้อความเชิญชวนประชาชนให้มาคลิกเว็บไซต์ดังกล่าวจะทำให้ลงทะเบียนได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอนาน ประชาชนที่หลงเชื่อก็ไปลงทะเบียน โดยเข้าใจว่าได้ลงทะเบียนแล้วแต่รอการยืนยันจากธนาคารกรุงไทย จากนั้นผู้ต้องหาจะนำข้อมูลจากบ็อทที่ประชาชนคลิกเข้าเว็บไซต์ understop นำมาจองพื้นที่ชิมช้อปใช้ ทำให้ระบบหลักช้า สาเหตุการกระทำคาดว่าน่าจะประสงค์ในเชิงธุรกิจ หากจองพื้นที่ได้ก็สามารถหาประโยชน์ได้ อาจนำเอาไปขายหรือต่อรอง ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่สามารถเจาะระบบหรือกระทำได้สำเร็จ
พล.ต.ต.ไพบูลย์ ผบก.ปอท.กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถเจาะระบบของธนาคารกรุงไทยได้ มีการป้องกันที่แน่นหนา ส่วนประชาชนที่หลงเชื่อเข้าไปคลิกเว็บไซต์ที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้น ข้อมูลส่วนตัวต่างๆของประชาชนผู้ต้องหาไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ พฤติกรรมส่วนใหญ่ของพวกแฮ๊กเกอร์ที่ทำไปนั้น มักจะเป็นการทดลองวิชา ที่ผ่านมาผู้ต้องหาเคยกระทำชิมช้อปใช้ในเฟส1 แต่เป็นการทดลองระบบ
