สรุปไฮไลต์เปิดตัว Apple ในธีม It’s Glowtime มาครบทั้ง Apple Watch, AirPods, iPhone16 และ Apple Intelligence

จบกันลงไปแล้วกับอีเวนท์ยิ่งใหญ่แห่งปีของ Apple โดยปีนี้มาภายใต้ธีม It’s Glowtime โดยรอบนี้เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ อาทิ Apple Watch, AirPods, iPhone16

TODAY Bizview ขอสรุปไฮไลต์ครบจบผ่านบทความนี้

[ Apple Watch Series 10 ตัวเรือนบางกว่าที่เคย ]

เริ่มจากการเปิดตัว Apple Watch Series 10 เป็น Apple Watch ที่ตัวเรือนบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา ใส่สบายขึ้น มาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา Apple Watch ทั้งหมด 

นอกจากนั้นยังมาพร้อม การชาร์จที่เร็วขึ้น การวัดความลึกและอุณหภูมิน้ำ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและฟิตเนสใหม่ๆ และความชาญฉลาดที่มากับ watchOS 11

โดย Apple Watch Series 10 มีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียมและไทเทเนียมในหลากหลายสีสัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาท

สำหรับสายผจญภัยและนักกีฬาที่รอคอย Apple Watch Ultra 2 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มี GPS ที่แม่นยำที่สุดบนนาฬิกาสปอร์ต จอภาพที่สว่างที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมด และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้งานปกติ หรือสูงสุด 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน watchOS 11 สามารถใส่สำหรับกิจกรรมทางน้ำได้สบายๆ 

[ AirPods 4 ดีไซน์ใหม่ก้านสั้นขึ้น ]

ถัดมาที่ AirPods 4 หูฟังดีไซน์แบบ open-ear  มีให้เลือก 2 รุ่นคือ AirPods 4 และ AirPods 4 ที่มีฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ หรือ Active Noise Cancellation (ANC) ราคาเริ่มต้น 4,900 บาท

ส่วน AirPods Max ไม่ได้มีอะไรใหม่มาก แต่มีมาให้เลือกใน 5 สีสันใหม่ที่สวยงาม อาทิ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีฟ้า สีส้ม และสีม่วง 

[ iPhone 16 ดีไซน์ตามคาดราคาเริ่มต้นสุด 29,900 บาท ]

สำหรับพระเอกของงานที่ใครๆ ก็ต่างรอคอยอย่าง iPhone 16 ก็มีดีไซน์ออกมาในรูปที่หลุดออกมาก่อนหน้า  โดยรอบนี้เปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาพร้อมชิป A18 ที่ถ้าเทียบกับ iPhone 15 แล้วถือว่าเร็วขึ้นราวๆ 30% สามารถเล่นเกมระดับ AAA ที่ประมวลผลหนักๆ และช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น มาพร้อม Camera Control เป็นปุ่มใหม่ที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว ส่วนของระบบกล้องที่ทรงพลังที่มีกล้อง Fusion 48 MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่าให้เลือก สามารถบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ซึ่งทำให้ผู้ใช้ย้อนดูความทรงจำในแบบที่มีมิติความชัดลึกบน Apple Vision Pro ได้อีกด้วย 

โดย iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาพร้อม 5 สีใหม่ อาทิ สีดำ สีขาว สีชมพู สีเขียวอมฟ้า และสีน้ำเงินอัลตร้ามารีน 

ในส่วนของ  iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ดีไซน์ยังคงเดิมอยู่จอภาพขนาดใหญ่ขึ้นนั่นคือ 6.3 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro และ 6.9 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro Max มาพร้อม จอภาพ Super Retina XDR ที่สวยสดงดงามพร้อมด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลแบบติดตลอดและ ProMotion ช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ ชิป A18 Pro ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence และกระจายความร้อนดีขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นสูงสุด 20% อีกด้วย

ส่วนของกล้อง ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) เช่นเดียวกับ iPhone 16 ธรรมดา  และมี Fusion 48MP ใหม่พร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ที่เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps ทำให้รุ่น Pro มีคู่ความละเอียดและอัตราเฟรมสูงสุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone และยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ 48MP ใหม่ เพื่อการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้น

ซึ่งราคา iPhone ทั้ง 4 รุ่นแบ่งออกเป็น เริ่มต้นดังนี้ 

• • • • iPhone 16 ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท (ความจุ 128 GB)
      • iPhone 16 Plus ราคาเริ่มต้น 34,900 บาท (ความจุ 128 GB)
      • iPhone 16 Pro ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท (ความจุ 128 GB)
      • iPhone 16 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท (ความจุ 256 GB)

ทั้งหมดจะเริ่มสั่งจองในไทยได้ตั้งแต่ 13 ก.ย.นี้ รับเครื่องจริง 20 ก.ย. นี้ 

[ Apple Intelligence ไทยรอไปก่อน ]

ในส่วน Apple Intelligence ที่เป็นระบบ AI ของ Apple ที่ใครๆ ก็รอคอยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานในเดือนหน้าพร้อมกับ iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ จะทยอยเปิดให้ใช้งานในเดือนต่อๆ ไป 

ในช่วงแรก Apple Intelligence จะเปิดให้ใช้งานในภาษาอังกฤษแบบ U.S. English และเร็วๆ นี้จะเพิ่มภาษาอังกฤษ Australia, Canada, New Zealand, South Africa และ U.K. และในเดือนธ.ค.จะรองรับภาษาอื่นๆ อาทิ Singapore, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น และ ภาษาสเปน ส่วน ‘ไทย’ คงต้องรอไปก่อน