กลุ่ม ปตท. 9 เดือนแรกของปี 2567 ทำเงินกว่า 1.3 แสนล้านบาท นักวิเคราะห์มอง ‘น่าผิดหวัง’ เพราะธุรกิจโรงกลั่น-ปิโตรเคมีฉุด แต่ยังแนะนำซื้อ PTT-PTTEP-PTTGC
TODAY Bizview รวบรวมกำไรของกลุ่ม ปตท. ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 โดยพบว่า ทั้งกลุ่มทำกำไรไปกว่า 1.3 แสนล้านบาท แน่นอนว่าบริษัทที่ทำเงินสูงสุดในกลุ่มคือบริษัทแม่ บมจ.ปตท. (PTT) ที่ 80,760 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้กำไรของบริษัทลูกในเครือ
รองลงมาคือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กำไร 60,525 ล้านบาท ส่วนอันดับ 3 คือ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) กำไร 7,191 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกตัวที่จะกำไร บริษัทลูกบางบริษัทขาดทุนหนักกว่าหมื่นล้านบาท เช่น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ขาดทุน 18,072 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายพิเศษ (ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ VENCOREX และ PTT ASAHI)
ถัดมาคือ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ขาดทุน 4,067 ล้านบาท จากการขาดทุนสต็อกน้ำมันหนักถึง 5,000 ล้านบาท และสุดท้ายคือ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ขาดทุน 415 ล้านบาท จากธุรกิจเอทานอลที่ค่อนข้างแย่
‘จักรพงศ์ เชวงศรี’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า กำไรของกลุ่ม ปตท. ส่วนใหญ่ออกมา ‘น่าผิดหวัง’ มีเพียง PTT ที่ออกมาสูงกว่าคาด
PTTEP และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ออกมาตามคาด ส่วนบริษัทที่ทำได้ค่อนข้างแย่คือ TOP และ IRPC ซึ่งเป็นธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี
มองไปข้างหน้า คาดว่าในไตรมาส 4 ปี 2567 กลุ่มที่กำไรออกมาแย่จะดีขึ้น หรือจากการขาดทุน น่าจะเห็นกำไร จากค่าการกลั่นที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น น่าจะส่งผลให้การขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (Stock Loss) ลดน้อยลง หรือเห็นกำไรจากสต็อกน้ำมัน (Stock Gain) เล็กน้อย
ส่วนตัวที่กำไรในช่วงที่ผ่านมาสูงกว่าคาดการณ์ หรือออกมาตามคาดการณ์นั้น คาดว่าในไตรมาส 4 ปี 2567 จะออกมาทรงตัว โดยรวมในไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ คาดว่ากำไรกลุ่มจะออกมาดีขึ้น
สำหรับการลงทุน ให้น้ำหนัก PTT PTTEP และ PTTGC ‘มากกว่าตลาด’ (Outperform) ส่วนตัวอื่นๆ ในกลุ่มให้น้ำหนักเท่ากับตลาด (Neutral) ไปจนถึงน้อยกว่าตลาด (Underperform)