DELTA ฉุดหุ้นไทยร่วงหนัก 25 จุด นักวิเคราะห์มอง ตลท.เอาจริง มีสิทธิขยาย Cash Balance ถอดหลักทรัพย์ออกจาก SET50

DELTA รอวันแตก หุ้นทั้งตลาดแบกไม่ไหว SET Index ร่วงกว่า 20 จุด นักวิเคราะห์เชื่อว่าครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ‘เอาจริง’ อาจขยายเวลาติด Cash Balance และทำให้ปีหน้า (2568) หลุดคำนวณ SET50

ช่วงค่ำวานนี้ (20 พ.ย. 2567) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 หรือภาษาชาวบ้านคือ ติด Cash Balance ต้องวางเงินสดก่อนซื้อ 100% ตั้งแต่ 21 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2567

มีผลให้เช้าวันถัดมา (21 พ.ย. 2567) ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index ปรับตัวลงรวดเดียวเฉียด 20 จุด ระหว่างวันปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,435.73 จุด ลดลง 25.75 จุด หรือ 1.76% จากวันก่อนหน้า ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,440.46 จุด ลดลง 22.02 จุด หรือ 1.51%

‘วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า DELTA ปรับตัวลงราว 30 บาท มีผลต่อ SET Index บาทละจุด (DELTA ลง 1 บาท = SET ลง 1 จุด) เป็นผลจากมาตรการ Cash Balance เมื่อวาน

ส่วนแนวโน้ม SET Index วันต่อๆ ไป ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะระยะสั้นดัชนียังปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องหลุดแนวรับสำคัญ 1,440 จุด ส่งผลให้ SET ยังซึมลงได้ต่อ และแม้ดัชนีจะดูพักลงมาค่อนข้างแรง แต่ถ้าเทียบกับที่ปรับขึ้นมาเพราะหุ้น DELTA ระยะสั้นก็คาดว่าจะยังซึมลงได้อยู่

ทั้งนี้ ประเมินกรอบ SET Index ที่แนวรับ 1,400-1,410 จุด และแนวต้านที่ 1,460-1,470 จุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยในประเทศ (Domestic Play) ได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเห็นภายในปีนี้ รวมถึงเม็ดเงินการลงทุนปีหน้า (2568)

นอกจากนี้ ยังแนะนำ Domestic Play เพื่อหลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงต่างประเทศเรื่องความไม่แน่นอนของนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปอีกด้วย

ทั้งนี้ แม้ SET Index จะปรับตัวลงค่อนข้างเยอะ แต่หุ้นส่วนใหญ่ยังบวกได้ เช่น GULF ADVANC PTT ฯลฯ เพราะเม็ดเงินไหลออกจาก DELTA ไปเข้าตัวอื่น เป็นการปรับพอร์ต (Rebalace) จากเดิมที่เม็ดเงินเคยกระจุกอยู่ใน DELTA ส่งผลให้หุ้นตัวอื่นๆ ที่เหลือดูดีมากขึ้น

เมื่อถามถึงผลกระทบของ DELTA ต่อตลาดหุ้นไทย นักวิเคราะห์มองว่า ปรากฏการณ์ของหุ้น DELTA ก็เหมือนปรากฏการณ์หุ้น Nvidia (NVDA) ในสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแรงนำตลาด ซึ่งเข้าใจได้ว่า สะท้อนเทรนด์โลกที่เบนไปทางเทคโนโลยีและเอไอมากขึ้น แม้บ้านเราจะไม่มีหุ้นเอไอแท้ๆ แต่ DELTA ก็เป็นบริษัทที่พอจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์ดังกล่าว

ส่วนเม็ดเงินที่เข้ามากระจุกใน DELTA มากจนเกินไปนั้น เชื่อว่า ถ้าดูจะเป็นความเสี่ยงเกินไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็คงจะพิจารณา เช่นในครั้งนี้ ก่อนที่จะประกาศติด Cash Balance ตลท.ก็เคยเตือนเรื่อง PE (ราคาต่อกำไร) ไปแล้ว จึงเชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการมอร์นิเตอร์อยู่แล้ว เช่นเดียวกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ PE สูง

‘วิจิตร อารยะพิศิษฐ’ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ วิเคราะห์ว่า SET Index วันนี้ ปรับตัวลงจาก DELTA เป็นหลัก หลังวานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้เข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า DELTA อาจหลุดคำนวณในดัชนี SET50 ในรอบต่อๆ ไปได้

ทั้งนี้ ผลกระทบของ DELTA ต่อ SET Index คือ 1 บาทต่อ 1 จุด ซึ่งวันนี้ DELTA ปรับตัวลงไปแล้ว 30 จุด แต่ SET ปรับตัวลง 25 จุด หมายความว่า ถ้าไม่รวม DELTA ดัชนีก็ยังบวกได้ราวๆ 5 จุด สะท้อนว่า นักลงทุนอาจจะไม่ได้กังวลมาก

มองไปข้างหน้า สิ่งที่ต้องจับตาคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขยายเวลาติด Cash Balance หุ้น DELTA หรือจะขยายการล็อคหุ้นไว้ในมาตรการกำกับการซื้อขายหรือไม่ เพราะถ้าขยายไปจนถึง ก.พ. 2568 จะส่งผลให้ DELTA หลุดคำนวณดัชนี SET50 รอบกลางปีหน้าทันที

เมื่อถามถึงความเหมาะสมของการจัดการหุ้น DELTA นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดหุ้นทุกตลาดมีหุ้นที่นำตลาดอยู่แล้ว ของไทย เช่น DELTA ADVANC TRUE INTUCH และ TRUE ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐ ก็มีหุ้น 7 นางฟ้าเป็นตัวนำตลาด เพียงแต่ PE แพงไม่เท่า DELTA

การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้มาตรการ Cash Balance เพราะมองว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเกินมูลค่า (Valuation) ก็ต้องคิดต่อด้วยว่า ถ้าลงมาขนาดนี้แล้ว (มูลค่า) ยังแพง อาจจะต้องยืดระยะเวลาติด Cash Balance ไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด DELTA หลุด SET50 หรือไม่ เชื่อว่านักลงทุนกังวลเรื่องนี้เยอะ เพราะครั้งนี้ ตลท.อาจจะเอาจริงก็ได้

ทั้งนี้ หากนำ DELTA ออก ผลตอบแทนของ SET Index ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) จะติดลบประมาณ 3% จากที่บวก 3% ตอนนี้ เรียกได้ว่า DELTA มีผลต่อผลตอบแทนของตลาดสูงถึง 6% ส่วน 5 ตัวข้างต้น หากเอาออกก็จะส่งผลให้ YTD ติดลบประมาณ 8% จากที่บวก 3% ตอนนี้

‘ต้องบอกว่า ทุกตลาดมีตัวนำ แต่บ้านเรา DELTA นำจนน่าเกลียดไปนิด เทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่ไซส์ธุรกิจก็ต่างกันพอสมควร เช่น กลุ่มพลังงาน PE อยู่ที่ 10 เท่าเ แต่ DELTA PE อยู่ที่ 100 เท่า ก็เล่นไปแรงเกิน’