จบมหากาพย์ 20 ปี !!! กทม. รื้อตลาดลาว คืนทางเท้าให้ประชาชน

กทม. ลุยรื้อโครงสร้างตลาดลาวคาดแล้วเสร็จภายใน 3 วัน พร้อมเดินหน้าปรับภูมิทัศน์คืนทางเท้าให้ประชาชน ด้านผู้ค้าขนของย้ายเข้าตลาดคลองเตย 2

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการยกเลิกพื้นที่ทำการค้า และติดตามรื้อถอนโครงสร้างและส่วนประกอบอื่นๆ บริเวณตลาดริมคลองหัวลำโพง (ตลาดลาว) ถนนพระรามที่ 4 เขตคลองเตย

รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าวว่า การรื้อถอนโครงสร้างและส่วนประกอบอื่นๆ เริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 07.00 น. สำนักการโยธา จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ 4 ชุด ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อาทิ โครงเหล็กหลังคา วัสดุมุงหลังคา เสาเหล็กโครงสร้าง รั้วเหล็กฝั่งถนนพระรามที่ 4 และริมคลองหัวลำโพง ทำการล้อมรั้วสังกะสีชั่วคราว สำนักการจราจรและขนส่ง ย้ายกล้องวงจรปิด (CCTV) สำนักเทศกิจ จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ 2 ผลัด ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย สำนักงานเขตคลองเตย จัดทำแผนปฏิบัติการปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดตั้งกองอำนวยการร่วม และกำหนดจุดสกัด พร้อมทั้งประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ เพื่อขอรับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า การประปานครหลวงตัดน้ำประปา ในส่วน NT ได้ดำเนินการจัดเก็บสายสื่อสารแล้วเมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม 2567) ตามแผนจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 วัน คาดว่าจะรื้อถอนโครงสร้างและส่วนประกอบอื่นๆ แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 จากนั้นสำนักการโยธา จะเริ่มดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ ทุบพื้นทางเดิม จัดทำทางเท้าใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนใช้สอยพื้นที่ในการเดินทางสัญจร สำนักงานเขตคลองเตยประสานสำนักการระบายน้ำ พัฒนาคลองหัวลำโพง นอกจากนี้ การไฟฟ้านครหลวง และ NT ยังมีโครงการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน

ทั้งนี้ ตลาดริมคลองหัวลำโพง (ตลาดลาว) เขตคลองเตย เดิมเป็นพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน ตั้งแต่ปี 2548 มีผู้ค้า 96 ราย ซึ่งเขตฯ ได้จัดทำโครงสร้างหลังคาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายสินค้า ปัจจุบันมีผู้ค้า 91 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 03.00-24.00 น. จำหน่ายอาหารสดประเภท ไก่ เป็ด ปลา กบ หอย ผักสดต่างๆ และวัตถุดิบในการประกอบอาหารอีสาน ซึ่งหลังจากทำการค้าในแต่ละวันแล้ว ผู้ค้าจะต้องจัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้าและทำความสะอาดพื้นที่ แต่ในช่วงหลังผู้ค้าไม่จัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้า รวมถึงมีการลักลอบทิ้งขยะและเทน้ำเสียลงในคลองหัวลำโพง ในปี 2559 เขตฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่สามารถใช้พื้นที่ทางเท้าในการเดินทางสัญจรได้สะดวก อีกทั้งพื้นที่ทางเท้าจะเปียกน้ำอยู่ตลอดเวลาจากการจำหน่ายอาหารสด ก่อให้เกิดความสกปรกเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ไม่ถูกสุขลักษณะตามหลักสุขาภิบาล

ต่อมาในปี 2561 เขตฯ ได้จัดทำแผนการปรับปรุงภูมิทัศน์ พร้อมทั้งออกประกาศยกเลิกจุดผ่อนผัน ห้ามมิให้ทำการค้าขายบริเวณดังกล่าว แต่ในช่วงเวลานั้นได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ค้าจึงขอผ่อนผันขยายเวลาทำการค้าออกไปจนกว่าสถานการณ์คลี่คลายลง จนกระทั่งปี 2567 เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการปรับปรุงภูมิทัศน์จัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ตลาดริมคลองหัวลำโพง (ตลาดลาว) เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีความสะอาดและสวยงาม คืนทางเท้าให้กับประชาชนได้ใช้ในการสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยได้เชิญผู้ค้ามาประชุมสร้างความเข้าใจ ให้เห็นถึงความสำคัญของส่วนรวมในการปรับปรุงภูมิทัศน์ และความจำเป็นในการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ตลอดจนรับทราบถึงแนวทางมาตรการให้ความช่วยเหลือ การจัดหาตลาดและสถานที่รองรับผู้ค้า ซึ่งผู้ค้าจะทำการค้าได้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยผู้ค้าบางส่วนกลับภูมิลำเนา บางส่วนไปทำการค้าในที่แห่งใหม่ และบางส่วนย้ายเข้าไปทำการค้าในพื้นที่ตลาดคลองเตย 2 ซึ่งมีแผงค้ารวมทั้งสิ้น 400 แผง แบ่งเป็นผู้ค้าเก่า 79 แผง สามารถรองรับผู้ค้าได้อีก 320 แผง โดยจัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่ตลาดกำหนด

ในการนี้มี พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นางสาวเกศจริน สามิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคลองเตย สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง NT กองบัญชาการตำรวจนครบาล สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่