SHARE

คัดลอกแล้ว

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แชร์แนวโน้มธุรกิจปี 2568 บัตรเครดิตโตลำบาก จากสภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า จีดีพีโตต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง คนเบี้ยวหนี้มากขึ้น หนี้เสียสูงขึ้น ขณะที่ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต เตรียมเจรจาแบงก์ชาติขอคงยอดผ่อนขั้นต่ำไว้ที่ 8%

‘อธิศ รุจิรวัฒน์’ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย บอกว่า ปี 2568 คงเป็นอีกปีที่ไม่ง่าย แนวโน้มดูหนักกว่าปีก่อน (2567) หลักๆ มาจากปัจจัยภายนอก และสภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า จีดีพีโตต่ำ หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูง และการผิดนัดชำระที่สูงขึ้น และหนี้เสียสูงขึ้น

นอกจากนี้ คาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมจะยังคงเข้มข้นต่อเนื่อง ประกอบกับการกำกับดูแลที่อาจมีผลต่อรายได้ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เช่น การคืนดอกเบี้ยให้ลูกค้า หลักการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม และ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ธนาคารและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือมีหน้าที่ร่วมรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทาย กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังตั้งเป้าเติบโตมากกว่าปีก่อน แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ต้องสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและความเสี่ยงให้ได้ด้วย กล่าวคือ การเติบโตต้องเน้นคุณภาพของลูกค้าและสินเชื่อที่ปล่อยไปด้วย

โดยเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ คาดว่า ยอดบัญชีลูกค้าใหม่จะอยู่ที่ 653,000 บัญชี เติบโต 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต 431,500 ล้านบาท เติบโต 10% YoY ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท เติบโต 14% YoY และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท เติบโต 8% YoY

ทั้งนี้ ผ่านการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan: P-Loan) การปรับปรุงยกเครื่องบัตรเครดิตในพอร์ตใหม่อีกครั้ง การดูแลลูกค้า ทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ การเฟ้นหาพันธมิตรใหม่ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง และการออกบัตรเครดิตใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ได้ใช้ชื่อว่า ‘กรุงศรี’ เพื่อให้บริการลูกค้าลูกค้าเวลธ์

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับโมเดลผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่มีการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ (Co-branding) โดยจะกลับไปทบทวนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแต่ละหน้าบัตร เช่น บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส

และเร็วๆ นี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เตรียมประกาศความร่วมมือใหม่ เพื่อสนับสนุนให้บัตรเครดิตของบริษัทเป็นบัตรใบแรกๆ ในกระเป๋าสตางค์ที่ลูกค้าหยิบขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น แอปเปิล (Apple) และกูเกิล (Google) อีกด้วย

สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา กรุงศรี คอนซูมเมอร์มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต 6% YoY ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต 8% YoY ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต 4% YoY และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตที่ดีกว่าตลาด

เมื่อดูยอดใช้จ่ายผ่านบัตร พบว่า หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด (เรียงตามยอดใช้จ่าย) 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ประกันภัย 2. ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ 3. ปั๊มน้ำมัน 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และ 5. ช้อปออนไลน์

ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว 2. โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน 3. ช้อปออนไลน์ 4. แอปเดลิเวอรี่ และ 5. สุขภาพและความงาม สะท้อนว่า ลูกค้าใช้บัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นบัตรหลักที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) พบว่า บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.1% ต่ำกว่าตลาดที่ 2.6% ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 2.4% ต่ำกว่าตลาดที่ 3.9% ส่วนในปี 2568 นี้ คาดว่าจะดูแล NPL ให้ไม่เกินจากปีก่อนได้ จากที่แบงก์ชาติคงดอกเบี้ยจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต (Min Pay) ไว้ที่ 8%

เมื่อสอบถามถึงความเสี่ยงในปีนี้ ยอมรับว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยปัจจุบันอัตราการอนุมัติ (Approval Rate) ของบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 40% ส่วน P-Loan อยู่ที่ประมาณ 30% และลูกค้าส่วนใหญ่ที่ผ่านการอนุมัติ ยังกระจุกอยู่ในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเป็นหลัก

ส่วนมาตรการกระตุ้นในช่วงที่ผ่านมา อย่างมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt พบว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด เติบโต 8.9% YoY (รูดเต็ม) ส่วนยอดผ่อนชำระ เติบโตสูงถึง 14% YoY ซึ่งในปีนี้ หากมีมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทจะเน้นที่การเติบโตของสินค้าประเภทผ่อนชำระมากขึ้นตามพฤติกรรมลูกค้า

และเมื่อกล่าวถึงเรื่องการผ่อนชำระ พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ค่อนข้างชื่นชอบการผ่อนชำระ กล่าวคือ มีให้ผ่อนนานเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะเลือกระยะเวลาที่นานที่สุด ส่งผลให้บริษัทเตรียมออกโปรโมชั่นกระตุ้นการผ่อนชำระเพิ่มเติมในปีนี้ด้วย

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือ อย่าง ‘คุณสู้ เราช่วย’ แบ่งเป็น โครงการ ‘จ่ายตรง คงทรัพย์’ พบว่า ไม่มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการเลย จากที่โปรดักต์หลักของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ส่วนโครงการ ‘จ่าย ปิด จบ’ พบว่า มีผู้เข้าร่วมโครงการและผ่านเงื่อนไขราว 100 บัญชี คิดเป็นยอดเงินประมาณ 300,000-400,000 บาท

สำหรับมาตรการ Min Pay ในหมวกของประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต แชร์ว่า จากที่หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเบื้องต้นยังคงไว้ที่ 8% อย่างไรก็ตาม ชมรมธุรกิจบัตรเครดิตและแบงก์ชาติจะมีการหารืออย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนหน้า (เม.ย. 2568) ซึ่งต้องรอติดตามว่า จะคง Min Pay ไว้ที่ 8% หรือขยับเพิ่มขึ้นไปที่ 10%

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า