แชร์บทความ คัดลอกแล้ว

SHARE

คัดลอกแล้ว

วันนี้ (19 มิ.ย. 2568) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดที่ 1,068.73 จุด ลดลง 25.85 จุด หรือลดลง 2.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46,634.59 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,066.07 จุด และสูงสุดที่ 1,085.71 จุด

หุ้นไทย

‘ณัฐพล คำถาเครือ’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า SET Index แกว่งรอความชัดเจนเรื่องการเมืองในประเทศ เพราะเมื่อยังมีความไม่ชัดเจน นักลงทุนก็ตีความไปได้หลายทาง

ไม่ว่าจะเป็นการประคองรัฐบาลต่อด้วยเสียงปริ่มน้ำ หลังพรรคร่วมสำคัญ ‘ภูมิใจไทย’ ประกาศลาออกจากรัฐบาล การลาออกของนายกรัฐมนตรี และการยุบสภาพ เหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงเพื่อรอความชัดเจน

เบื้องต้น ฝ่ายวิจัยยังเชื่อว่า แนวรับที่ 1,050 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมของรอบที่แล้ว ยังเป็นแนวรับที่รับอยู่ และมองฉากทัศน์ (Scenario) ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนี้

1. รัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยล่าสุด รัฐฐาลเหลือเสียงในสภา 248 เสียง จากทั้งหมด 493 เสียง คาดว่าในฉากทัศน์นี้ การบริหารประเทศจะต้องใช้พลังเยอะ อาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจและ SET Index

2. นายกฯ ลาออก หากเป็นฉากทัศน์นี้ เชื่อว่าการเมืองจะชัดเจนเร็ว และค่อนข้างราบรื่น เพราะเป็นการลาออกของนายกคนเดียว และคาดหวังว่าจะมีตัวแทน (Candidate) ของทั้ง 2 พรรค (เพื่อไทยและภูมิใจไทย) หากยังปรองดองกันดี

3. ยุบสภา ฉากทัศน์นี้จะใช้เวลาในการเลือกตั้งใหม่ค่อนข้างนาน อาจมีความเสี่ยงเสียงเรื่องงบประมาณล่าช้า เพราะอาจเจอเสียงแตกเรื่องระหว่างที่มีนายกฯ รักษาการ รวมถึงการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก็จะยืดเยื้อออกไปอีก

หากผลออกมาเป็นฉากทัศน์แรก คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดัน (Overhang) ตลาดหุ้นต่อเนื่อง เพราะในกรณีดังกล่าว ฝ่ายค้านจะมีความแข็งแกร่งค่อนข้างมาก สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก เกิดการดูดฝั่งรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน หรือโหวตคว่ำมติต่างๆ ได้

แต่หากผลออกมาเป็นฉากทัศน์ที่ 2 และ 3 คาดว่าจะกดดันใน SET Index ถูกกระแทกครั้งสุดท้ายก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมา จากสถิติในอดีต เช่น การพ้นสภาพนายกฯ ของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ส่งผลให้ SET Index ในขณะนั้นปรับตัวลง -1.3% ก่อนจะลดช่วงลบขึ้นมาอยู่ที่ -0.5%

หรือในช่วงที่อดีตนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่ง ในช่วงนั้นตลาดหุ้นปรับตัวลง -10 จุด ก่อนจะลดช่วงลบมาอยู่ที่ -3-4 จุด เป็นต้น เชื่อว่าในครั้งนี้แพทเทิร์นก็จะคล้ายคลึงกับในอดีต ดังนั้น ขอให้มีความชัดเจนเป็นพอ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) SET Index ปรับตัวลงแล้ว  -24-25% จึงเชื่อว่า การปรับตัวลงในครั้งนี้ ดัชนีจะพอฟื้นตัวได้

เมื่อสอบถามถึงความเสี่ยงที่ SET Index จะปรับตัวลงหลุด 1,000 จุดนั้น บล.หยวนต้ามองว่า ยังค่อนข้างยาก แม้เกิดการยุบสภาก็เชื่อว่าดัชนีจะไม่หลุดแนวรับ 1,000 จุด เพราะถึงแม้งบประมาณปีหน้า (2569) จะล่าช้าออกไป 2 ไตรมาส แต่รัฐบาลยังสามารถเบิกงบกลางมาใช้จ่ายได้ ก่อนตั้งงบปีหน้าขึ้นมาโปะ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ หากรับความเสี่ยงได้น้อย แนะนำรอความชัดเจนของการเมืองในประเทศก่อน เพราะในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจน คาดว่า SET Index จะยังผันผวนต่อเนื่อง

แต่หากมีความชัดเจนแล้ว เชื่อว่ากลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จะทยอยปรับขึ้น เช่น การเสนอชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล อาจส่งผลบวกต่อ STECON และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ดังนั้น แนะนำนักลงทุนไม่จำเป็นต้องรีบเข้าลงทุน

ขณะที่ ‘ประกิต สิริวัฒนเกตุ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวลงของ SET Index วันนี้ ถือเป็นการปรับลงที่ค่อนข้างแรง แต่เชื่อว่าจากนี้ไป ดัชนีจะเริ่มทรงตัวนิ่งขึ้นเพื่อรอรับ Scenario ต่างๆ ต่อไป

โดย บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ วิเคราะห์ 4 Scenario ดังนี้

1. รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หลังพรรคภูมิใจไทยประกาศลาออกจากรัฐบาล หากรัฐบาลชุดนี้ยังยื้อเป็นรัฐบาลต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ การดำเนินนโยบายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างๆ จะค่อนข้างลำบาก ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้ยาก และอาจเกิดการประท้วง ลงถนนมากขึ้น

2. ยุบสภา เชื่อว่าเป็นฉากทัศน์ที่เป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากกระแสสังคมกดดัน นอกจากนี้ พรรคร่วมรัฐบาลยังทยอยลาออก ซึ่งหากมีพรรคถอนตัวต่อจากพรรคภูมิใจไทยอีกพรรคหนึ่ง รัฐบาลก็จะไปต่อไม่ได้

ในกรณีนี้ ถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น เพราะร่างงบประมาณปี 2569 ที่ยังค้างท่ออยู่ ขาดการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ซึ่งหากเลือกตั้งใหม่ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน (ก.ย. 2568) จัดตั้งอีก 2-3 เดือน (พ.ย. 2568) ตั้งงบฯ (ก.พ. 2569)

ดังนั้น กว่าจะได้ใช้งประมาณจริงๆ คาดว่าจะตกอยู่ในเดือน ก.ค. 2569 เลยทีเดียว หากเป็นเช่นนั้น จะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจจากสุญญากาศทางการเมืองแน่นอน โดยคาดว่าจะกดดันในจีดีพีปีนี้โตเพียง 0.9% และปีหน้า 1%

อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ รัฐบาลสามารถขอสัญญาประชาคมเพื่อให้งบประมาณปี 2569 ผ่านไปก่อนค่อยยุบสภาได้ หากเป็นเช่นนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อจีดีพีปีนี้และปีหน้าเล็กน้อย

3. นายกฯ ลาออก และเอา Candidate ใหม่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ซึ่งจะสามารถประคับประคองรัฐบาลนี้ต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ รัฐบาลก็ยังจะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ดี แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะกระทบไม่มาก

4. รัฐประหาร กรณีเลวร้ายที่สุด เชื่อว่า SET Index จะปรับตัวลงค่อนข้างแรง

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง คาดว่าจะกำไรต่อหุ้น (EPS) ตลาดจะหายไป 1.5-2% จีดีพีแทบไม่โต ดัชนีปรับลง 2-3% หรือประมาณ 30 จุดต่อจากนี้ กรอบ 1,070-1,200 จุด แต่หากยุบสภา อาจมีจังหวะปรับตัวลงไปแตะ 1,000 จุดได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แม้หุ้นไทยจะราคาถูก น่าสนใจก็จริง แต่ไม่ได้การันตีว่าจะดัชนีจะมีโอกาสปรับตัวขึ้น ดังนั้น แนะนำนักลงทุนรอดูสถานการณ์ก่อน

‘วิจิตร อารยะพิศิษฐ’ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,056 จุด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,050 จุด และในกรณียุบสภา คาดว่าดัชนีอาจหลุดระดับ 1,000 จุดได้

สำหรับการลงทุน แนะนำระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนสถาบันลดความเสี่ยงเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกหรือยุบสภาหรือไม่ ทั้งนี้ ยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนดัชนี มีแต่ปัจจัยลบกดดัน

ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ หากมีเงินสดแนะนำรอจังหวะ แม้ราคาหุ้น (Valuation) ไม่แพง แต่ความเชื่อมั่นยังไม่เกิด และการเมืองในประเทศยังไม่นิ่ง

แนะนำรอการเมืองนิ่งกว่านี้ เช่นว่า จะเกิดการเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือจะมีการเข็นนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างไร ดังนั้น ดัชนีบริเวณนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบ แนะนำรอความชัดเจนกว่านี้ค่อยเข้าลงทุน

สำหรับหุ้นเด่นแนะนำ ได้แก่ กลุ่มที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ (Global Play) เช่น กลุ่มน้ำมัน ได้ปัจจัยหนุนจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

รวมถึงกลุ่มหุ้นต้านทานสูง (Defensive Stock) เช่น โรงพยาบาลที่ราคาปรับตัวลงมามากแล้ว กลุ่มนี้กองทุนอาจโยกเงินเข้าไปพักบ้าง แต่หากนักลงทุนรายย่อยไม่จำเป็นต้องปรับน้ำหนักตามนักลงทุนสถาบัน แนะนำรอเวลาเหมาะสมกว่านี้ได้เรา

‘ถ้ายุบสภาจริงคาดว่าจะหลุด 1,000 จุด เพราะเป็นแนวรับที่ไม่เคยรับอยู่ อาจหลุดไป 900 เกิด Panic Sell แต่ขานั้นจะมีเม็ดเงินระยะยาวเข้ามา เราแนะนำหาตัวที่น่าสนใจ เพราะถ้า SET แบบนี้ยังลงซึมๆ ยังไม่จบ’

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า