แชร์บทความ คัดลอกแล้ว

SHARE

คัดลอกแล้ว

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กําหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม ออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร./ผอ.ศตกม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ. ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นําเจ้าหน้าที่ตํารวจในสังกัดร่วมหามาตรการ ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน จนนํามาสู่ผลการปฏิบัติการดังกล่าว 

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2558 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ นําโดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท. ร่วมกับ คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อํานวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงาน ยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จํากัด และ คุณสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว สํานักงานตํารวจแห่งชาติผนึกกําลังทุกภาคส่วน เปิดแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ชวนคนไทย “Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ในนามกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี หรือ ตํารวจไซเบอร์ ได้ร่วมกับ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จํากัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ทรูมันนี่ จํากัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จํากัด (มหาชน), มูลนิธิพระราหู, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน), บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน) และภาคเอกชนต่างๆ ได้ร่วมกันเปิดโครงการรณรงค์ ภายใต้ชื่อแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” จุดประสงค์เพื่อชวน คนไทย “Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดยโครงการดังกล่าวกําหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.68 เป็นต้นไป

โดยแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” อยู่ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger” ที่ได้ถือกําเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด อันสะท้อนภาพของภัยใกล้ตัวในยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน ด้วยการรณรงค์ในชื่อ “รีบโอน โจรยิ้ม” ซึ่งเปรียบเสมือน การเตือนสติประชาชนให้รู้เท่าทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถดํารงชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย รู้เท่าทันกลลวงอันซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ หลังหน้าจอ โดยมีเป้าหมายสําคัญที่สุดคือ ประชาชนปลอดภัย ไม่โอนเงินให้มิจฉาชีพ

วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้ประชาชนระวังตัวก่อน “คลิก” ทุกครั้ง กล้าตั้งคําถามก่อน “เชื่อ” ทุกข้อความ ใช้วิจารณญาณก่อน “โอน” ทุกบาท โดยการกระตุ้นให้ตระหนัก ถึงภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้งาน โซเชียลมีเดีย หรือการทําธุรกรรมทางการเงินออนไลน์

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังปลูกฝังจิตสํานึกแห่งความระมัดระวังให้ประชาชน ด้วยการรู้จักตั้งข้อสงสัย เมื่อได้รับข้อความ โทรศัพท์ หรือการติดต่อจากบุคคลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ที่แอบอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานทางกฎหมาย หรือสถาบันทางการเงิน ซึ่งในหลายกรณีมักใช้เทคนิคการโน้มน้าว ทางจิตวิทยา (Social Engineering) การใช้เทคโนโลยีปลอมแปลงขั้นสูง เช่น Deepfake (การปลอมเสียง หรือใบหน้าด้วย Al) และ Phishing (การส่งลิงก์ปลอมหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว)

โครงการ “Thai Cyber Ranger” มีกิจกรรมรณรงค์ด้วย 2 ช่องทางหลัก ได้แก่

  1. ช่องทางออนไลน์ (Online Campaign)

ผู้ร่วมแคมเปญร่วมกันเผยแพร่คลิปวิดีโอเตือนภัย, อินโฟกราฟิก, และกิจกรรมออนไลน์ในรูปแบบ Challenge ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Facebook, TikTok, Instagram, YouTube และ Threads โดยใช้ Influencer จากหลายสาขา เช่น การเงิน เกม และไลฟ์สไตล์ เป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหาเตือนภัยในรูปแบบ สร้างสรรค์ พร้อมด้วยการติดแฮชแท็ก #รีบโอนโจรยิ้ม และสโลแกนเตือนสติ “รีบโอน – โจรยิ้ม”

  1. ช่องทางออฟไลน์ (On-Ground Campaign)

ผู้ร่วมแคมเปญร่วมกันจัดแสดงสื่อประชาสัมพันธ์ตามจุดยุทธศาสตร์ เช่น จอ LED บนรถไฟฟ้า BTS/MRT และสื่อภายในร้าน 7-Eleven กว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมกิจกรรมภาคสนามในพื้นที่ชุมชน เช่น การจัดนิทรรศการ บรรยายความรู้ การแจกสื่อเตือนภัยไซเบอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในงานเปิดตัว ยังมีการจัดเสวนา “รู้ทันภัยไซเบอร์” นําโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อํานวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จํากัด และคุณสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจ ต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยมี ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวชื่อดังเป็น ผู้ดําเนินรายการ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ และยังมีการจัด Workshop จําลองสถานการณ์หลอกลวงแบบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกต “Red Flag” หรือ สัญญาณอันตรายได้อย่างแม่นยํา

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ตั้งเป้าหมายเข้าถึงประชาชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนในช่วง 2 เดือนแรก และคาดว่า สามารถช่วยลดจํานวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาท (ซึ่งปัจจุบัน คิดเป็นกว่า 90% ของคดีทั้งหมด) ได้ไม่น้อยกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : ตํารวจไซเบอร์ – CCIB หรือ เว็บไซต์ : www.thaipoliceonline.go.th

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า