แก้แค้นการเมือง ? ทนายกร้าว หลังศาลสั่งจำคุก อดีตผู้นำหญิงบังกลาเทศ

นางคาเลดา เซีย อดีตนายกฯหญิงบังกลาเทศสองสมัย

ประเด็นคือ – ศาลบังกลาเทศ สั่งจำคุก อดีตนายกรัฐมนตรี สองสมัย ข้อหายักยอกเงินสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ขณะที่ทนายความ กร้าวเป็นการ “แก้แค้นทางการเมือง”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ศาลบังกลาเทศ ได้พิพากษาจำคุก นางคาเลดา เซีย วัย 72 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงสองสมัย เป็นเวลา 5 ปี ในความผิดฐาน ยักยอกเงินกองทุนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เป็นเงิน 252,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,900,000 บาท แต่นางคาเลดา ต่อสู้คดีมาโดยตลอดว่า เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการเมือง หลายฝ่ายเชื่อว่า นางคาเลดา ซึ่งเป็นผู้นำพรรคชาตินิยมบังกลาเทศ หรือ บีเอ็นพี จะอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผลจากคำตัดสินดังกล่าว อาจทำให้เธอไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคมในปีนี้ ขณะที่พรรคบีเอ็นพี ประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินนี้ เพราะมองว่า เป็นคดีเท็จที่จัดฉากขึ้น ขณะที่ทนายความของนางคาเลดา กล่าวว่า เป็นการแก้แค้นทางการเมือง และมั่นใจว่า ศาลอุทธรณ์จะต้องกลับคำตัดสิน

ผู้สนับสนุน นางคาเลดา เซีย ปะทะกับตำรวจ

ส่วนบรรยากาศในกรุงธากา หลังนางคาเลดา ถูกตัดสินคดี ก็เป็นไปด้วยความตึงเครียด ผู้สนับสนุนเธอหลายพันคน ฝ่าแถวเจ้าหน้าที่เข้าไปประกบรถที่จะนำเธอมาขึ้นศาล และเกิดการปะทะกับตำรวจ ในช่วงหลายกิโลเมตรก่อนถึงศาล

โดยสถานีโทรทัศน์เอกชน รายงานว่า มีตำรวจอย่างน้อย 5 นายบาดเจ็บ มีรถจักรยานยนต์ 2 คันถูกเผา ขณะที่ตำรวจ ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั่วกรุงธากา กว่า 5 พันนาย เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย

ทั้งนี้ เมี่อปี 2558 นางคาเลดา เซีย ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินรวม 650,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในคดีคอร์รัปชั่น 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเพื่อการกุศลระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2544 – 2549

ขณะที่ ปี 2557 พรรคบีเอ็นพี ของนางคาเลดา เซีย ไม่ยอมเข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไป อ้างว่า การจัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใส และพรรคฯ ได้จัดให้มีการประท้วง เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ชีค ฮาซีนา ลาออก และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่เป็นกลางทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง

สำหรับการเมืองบังกลาเทศประสบวิกฤติต่อเนื่องมาหลายปี ช่วงที่มีการแย่งชิงอำนาจกันระหว่าง นางฮาซีนา กับนางคาเลดา สตรีทั้งสองคน สลับเปลี่ยนกันเป็นนายกรัฐมนตรีมาตลอดช่วง 20 ปี