ผบช.ก.ยัน คดีหวย 30 ล้าน มีฝ่ายถูก-ผิด ย้ำสรุปคดีทัน 28 ก.พ.

ประเด็นคือ – คดีหวยมาราธอน 30 ล้านบาท คืบหน้ากว่า 90% ผบช.ก.ระบุมีฝ่ายหนึ่ง “โกหก” เผยสรุปคดีทัน 28 ก.พ.นี้แน่นอน โดย ผบ.ตร.จะเป็นผู้แถลงสรุปเหตุการณ์เอง 

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ก.พ. 61 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่า การสอบปากคำทั้ง “เจ๊เกียว” และ “เจ๊กุ้ง” เป็นการสอบปากคำเพื่อเก็บรายละเอียดข้อมูลในส่วนที่เหลือ ซึ่งจำเป็นต้องพิสูจน์ที่มาของคำให้การของแต่ละคนว่า เป็นเพราะเข้าใจข้อเท็จจริง หรือเห็นข้อเท็จจริง หรือได้ยินมาจากคนอื่น

ส่วนเรื่องการสอบสวน พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบทำสำนวนคดีนี้ ได้ข้อเท็จจริงพอสมควรแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาต่อไปอีกระยะเพื่อทำความเข้าใจ พร้อมกันนี้ยังอธิบายถึงที่มาที่ไปของคดีนี้ว่า จุดเริ่มต้นไม่ได้มาจากเรื่องทุจริต แต่มาจากความเชื่อของแม่ค้าว่า เป็นคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลให้กับลูกค้าประจำคนหนึ่งไป ส่วนตำรวจที่ทำคดีนี้มองว่า มีประสบการณ์ในการทำคดีน้อย เมื่อมีคนเข้าแจ้งความพร้อมกัน 2 คน คนหนึ่งสามารถอธิบายได้ว่าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจากใคร หรือที่ใด กับอีกคนหนึ่งที่จำรายละเอียดไม่ได้ ทำให้ครั้งแรกเกิดความเชื่อถือเอนเอียงขึ้น

สำหรับเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า หมวดจรูญเป็นผู้เก็บสลากกินแบ่งได้นั้น ยังไม่ขอตอบ และขอให้ทุกคนอดทนรอคอยแถลงสรุปคดีในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ซึ่ง ผบ.ตร.จะเป็นผู้แถลงสรุปเหตุการณ์นี้ทั้งหมด ส่วนความคืบหน้าการทำสำนวนคดี ยืนยันตามที่ ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 และอีก 5 วันที่เหลือ ก็เชื่อว่าจะสรุปสำนวนคดีนี้ได้ทันทั้งหมด ทั้งนี้ ยังยืนยันว่าคดีนี้มีฝ่ายหนึ่งโกหก และอีกฝ่ายพูดความจริงแน่นอน ส่วนในวันแถลงข่าวจะนำครูปรีชาและหมวดจรูญมาร่วมในการแถลงข่าวด้วยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับ ผบ.ตร. พิจารณา

อย่างไรก็ตาม สำหรับเอกสารไฟล์ดิจิทัลข้อมูลลับ ที่มีสื่อมวลชนนำไปนำเสนอ ยอมรับว่าไม่ทราบว่าหลุดจากตำรวจนายใดออกไป แต่ก็เห็นว่าหลังจากนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ยืนยันว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นประโยชน์ใดๆ กับการทำงานของชุดทำงาน

ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับ ผบก.จ.กาญจนบุรี ยังไม่มีใครแจ้งข้อกล่าวหา จึงต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงออกมาก่อน จากนั้นจึงจะนำมาพิจารณาว่า มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงปรากฏการณ์คดีการแอบอ้างผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในหลายจังหวัดว่า หลังจากนี้จะประมวลแผนประทุษกรรมทั้งหมด และหาคำตอบให้กับทุกคดี พร้อมยกตัวอย่างเปรียบเทียบคดีขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 มูลค่า 12 ล้านบาท ที่ จ.บุรีรัมย์ และคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัล 30 ล้านบาท ที่ จ.กาญจนบุรี ของ หมวดจรูญ และครูปรีชา

ทั้งสองคดีนี้มีจุดเริ่มต้นและแผนประทุษกรรมที่คล้ายคลึงกัน