SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ- จากกรณี นายพิสิษฐ์ ถูกกล่าวหาว่าทำการวิ่งราวเพชรมูลค่า 15.8 ล้านบาท ไปจากผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก เมื่อปี 2559 และนายพิสิษฐ์ ถูกตำรวจตามไปควบคุมตัวได้ ที่ จ.นครพนม ซึ่งผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของเพชรที่กรุงเทพฯ ได้ชี้ตัวยืนยันว่าคนร้ายคือนายพิสิษฐ์ ขณะที่หลักฐานต่างๆ ชี้ชัดว่า นายพิสิษฐ์เป็นผู้บริสุทธิ์ จึงถูกปล่อยตัวแล้ว เมื่อเย็นวานนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (26 ก.ย. 60) ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ, แม่, ภรรยา, ญาติ และผู้สื่อข่าว มาเฝ้ารอติดตามความเคลื่อนไหว การปล่อยตัว “แพะ” หลังจากศาลมีคำสั่งยกฟ้องคดีวิ่งราวเพชร มูลค่า 15 ล้านบาท

ต่อมานายพิสิษฐ์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ทันทีที่นายพิสิษฐ์ออกจากเรือนจำ ได้ก้มลงกราบเท้าผู้เป็นแม่ทันที ขณะที่แม่นำน้ำมนต์มาพรมทั่วตัวนายพิสิษฐ์เพื่อปัดสิ่งชั่วร้าย ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม

นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้ออกมา ยืนยันความบริสุทธิ์ ที่สุดท้ายแล้วพิสูจน์ว่าตนไม่ได้เป็นคนทำผิด ขณะที่อยู่ในเรือนจำนั้นได้รับการดูแลอย่างดี ตนสบายกายแต่ไม่สบายใจ ทั้งนี้เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนถูกล็อกตัวไปขณะที่กำลังเตรียมจะขายของ ที่ จ.นครพม โดยถูกพาไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง มีชายอ้างเป็นตำรวจ 3 นาย ใช้เท้าเตะ และเอาผ้าขนหนูปิดหน้า พร้อมถามว่าเอาเพชรไปไว้ไหน ตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้เอาไป เตะให้ตายตนก็ไม่รู้เรื่อง ยิ่งทำให้ถูกทำร้าย จนยื่นขอวิดีโอคอลคุยกับผู้เสียหาย เพื่อให้เห็นหน้าตาว่าตนไม่ได้ทำ แต่ผู้เสียหายกลับพูดเพียงว่า เอาเพชรไปไว้ไหนเท่านั้น

นายพิสิษฐ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าทำไมตำรวจจึงเข้าใจว่าตนเป็นคนทำ เพราะยืนยันว่าตนไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ มา 3 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลานั้นอยู่ที่ จ.นครพนมกับครอบครัวตลอด แต่สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะตนเคยใช้บัตรประชาชนไปซื้อและจำนำรถ จยย. ก่อนที่ตำรวจจะพบว่าบัตรประชาชนถูกนำไปเปิดซิมโทรศัพท์ติดต่อกับผู้เสียหาย

ตนอยากบอกตำรวจชุดนั้นว่า อยากให้จับคนร้ายตัวจริงให้ได้ และหลังจากออกจากที่คงกลับไปขายของเหมือนเดิม ตนอยากไปอยู่กับครอบครัว คิดถึงแม่ ลูก และภรรยามาก ส่วนเรื่องคดีหรือฟ้องกลับนั้น ตนไม่รู้กฎหมาย ขอปรึกษาผู้เกี่ยวข้องก่อน และขอบคุณกระทรวงยุติธรรม เรือนจำและหลายๆ ท่านที่ช่วยเหลือตนมาตลอด

ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเผยว่า พูดแล้วอายมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเงินที่รัฐจะเยียวยา เพียงแสนกว่าบาท แต่ในการสู้คดีนั้น ทางครอบครัวกู้หนี้มามาก ในกรณีของนายพิสิษฐ์โชคดีที่มีความรู้กลับไปทำมาหากินได้ ขณะที่บางกรณีต้องเสียเงินจำนวนมาก และเมื่อชนะคดีก็กลับไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ เราจึงเล็งเรื่องสร้างอาชีพเป็นหลัก

ด้านนายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบูล ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคเอกชน แสดงความคิดเห็นว่า ทางภาครัฐต้องหันมาให้ความสำคัญกรณีเหล่านี้มากขึ้น เพราะมีแพะไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ซึ่งตนและเพื่อนไม่มีอำนาจทางคดี แต่มีอำนาจทางมวลชน ต้องช่วยกันเรื่องช่วยหนี้สินและธุรกิจที่ได้รับความเสียหาย โดยจะจัดหาทีมทนายช่วย หากนายพิสิษฐ์และครอบครัวต้องการฟ้องกลับตำรวจชุดจับกุม

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า