1 เดือนหลัง “ปู” หนี เกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะมีอะไรต่อ?

ประเด็น – หลังจากที่วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา คุณยิ่งลักษณ์ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จนไม่สามารถไปรับฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวได้ และจนถึงตอนนี้ ผ่านไป 1 เดือน 2 วัน ครบกำหนดนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นบ้าง และคำตัดสินในวันนี้ จะเป็นไปในทางไหนได้บ้าง

แนวทางคำตัดสินของวันนี้ ก็ยังเป็น 3 แนวทาง เหมือนที่เคยวิเคราะห์ไปก่อนหน้านัดฟังคำพิพากษาครั้งก่อน ยกฟ้อง, ผิด รอลงอาญา = ไม่ติดคุก,ผิด ไม่รอลงอาญา = ติดคุก (ถ้าได้ตัว) เรื่องแนวทางคำตัดสินนี้ ออกมาแบบไหน ยิ่งลักษณ์จะเป็นอย่างไร ทางการไทยต้องทำอะไรต่อ แต่ไปดูกันก่อนว่าในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง

1 เดือน หลัง “ยิ่งลักษณ์” หนีศาล

– วันที่ 27 ส.ค. : กระทรวงต่างประเทศ แจ้งการออกหมายจับ ให้สถานทูตไทยทั่วโลกทราบ

– วันที่ 28 ส.ค. : นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลไม่มีส่วนรู้เห็น โดยยอมรับเป็นความบกพร่องของฝ่ายความมั่นคงที่ปล่อยให้อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี และสั่งเร่งติดตามตัว

– วันที่ 30 ส.ค. : ทักษิณ ชินวัตร ทวิตข้อความครั้งแรกในรอบ 2 ปี 1 สัปดาห์ ยกคำพูด มงแตสกีเยอ นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่ระบุว่า “ไม่มีความเลวร้ายใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย”

– วันที่ 31 ส.ค. : กระทรวงการต่างประเทศยังถอนหนังสือเดินทางไม่ได้ เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด

– วันที่ 1 ก.ย. : พบภาพกล้องวงจรปิด จับภาพรถที่พาอดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี ในคืนวันที่ 23 สิงหาคม

– วันที่ 21 ก.ย. : พบรถต้องสงสัยใช้ในการพาตัวยิ่งลักษณ์หลบหนี

– วันที่ 22 ก.ย. : พบตำรวจ 3 นายเกี่ยวข้องกับการพาหนี รับสารภาพ และบอกเล่าเส้นทางการหนี

– วันที่ 25 ก.ย. : ”อุ๊งอิ๊ง” โพสต์ภาพคู่ ทักษิณ ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตเงาสะท้อนในแว่นตา หน้าเหมือน ปู ยิ่งลักษณ์

– วันที่ 26 ก.ย. : อุ๊งอิ๊ง แจงภาพเงาสะท้อน เป็นรูปตัดต่อ

– วันที่ 27 ก.ย. : (ยิ่งลักษณ์น่าจะไม่มาแน่) ทีมทนายความต้องเดินทางไปรับฟังคำสั่งศาล หากผลออกมาในเชิงลบ การยื่นอุทธรณ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ จะต้องเดินทางมายื่นด้วยตนเองเท่านั้น

ก็ยังเป็น 3 แนวทาง เหมือนที่เคยวิเคราะห์ไปเมื่อช่วงก่อนวันนัด 25 ส.ค. 2560 คือ

1. ศาลยกฟ้อง หากศาลยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถกลับมาได้ เนื่องจาก “หมายจับที่ศาลเคยออกไว้เมื่อวันที่ 25 ส.ค. จะสิ้นผล เพราะหมายจับ แค่เพื่อให้นำตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาเท่านั้น

2. ผิด จำคุกโดยไม่รอลงอาญา มีการเรียกค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าวจากยิ่งลักษณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ การยึดทรัพย์ อาจจะมีการฟ้องร้องให้ดำเนินคดีกับรัฐบาลในอดีตที่ทำโครงการเหล่านี้ อาจจะทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

3. ผิด แต่โทษจำคุกรอลงอาญา คล้ายกับกรณีที่ศาลสั่งจำคุกโดยไม่รอลงอาญา คือแม้ว่าโทษจำคุกจะรอลงอาญา แต่ว่าเมื่อตัดสินว่าผิด ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ก็ต้องมีการบังคับคดี ยึดทรัพย์ ฟ้องล้มละลาย อะไรก็ว่ากันไปตามกระบวน ซึ่งก็อาจจะต้องทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

แต่ทาง อุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตรองประธานศาลฎีกา และอดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) บอกว่า แม้ศาลฎีกาฯ ตัดสินว่าเธอมีความผิด แต่การทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่น่าเกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เป้าหมายปลายทางสุดท้ายของยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ดูไบ แต่เป็นการขอสถานะผู้ลี้ภัยในอังกฤษ เพราะเป็นประเทศที่เป็นรัฐ ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย พ.ศ. 2492 (ไทยเข้าร่วมภาคีด้วย) และเป็นประเทศที่ทักษิณมีบ้านพักในกรุงลอนดอน มูลค่า 264 ล้านบาท

ณ จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่า คุณยิ่งลักษณ์หนีไปอยู่ที่ไหน แต่ นายกฯ พล.อประยุทธ์ บอก รู้แล้ว “ยิ่งลักษณ์” หนีไปอยู่ประเทศไหน ขออุบไว้ก่อน รอศาลตัดสินวันนี้ เดี๋ยวค่อยบอก