ปริศนาลวงโลก ?! ผู้เชี่ยวชาญรัสเซีย ยัน ซากมัมมี่เปรู “ไม่ใช่มนุษย์”

ทีมวิจัยรัสเซียได้ทำการตรวจซากมัมมี่ปริศนาที่ถูกค้นพบที่เปรูเมื่อปีที่แล้ว แม้ผลตรวจหลายสิ่งบ่งชี้ว่ามีความเป็นมนุษย์ แต่ยังคงยืนยัน “ไม่ใช่มนุษย์” เพราะมีโครงสร้างร่างกายแตกต่างกัน ขณะที่หลายคนให้ความเห็นว่า อาจเป็นแค่รูปปั้นหล่อปูนปลาสเตอร์ลวงโลก

หลังจากเมื่อช่วงกลางปี 2560 สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีการค้นพบซากมัมมี่ปริศนา ในสุสานแห่งหนึ่งใกล้กับ “เส้นนัซกา” (Nazca Lines) หรือภาพวาดลายเส้นปริศนาบนพื้นอันกว้างใหญ่ ทางตอนใต้ของเปรู โดยซากมัมมี่ที่ค้นพบถูกตั้งชื่อว่า “มาเรีย” มีลักษณะทางร่างกายที่แปลกประหลาดไปจากคน มีเพียง 3 นิ้วมือ และยังพบมัมมี่อายุ  9 เดือน ชื่อ “วาวิตา” ที่เชื่อเชื่อว่าทั้งคู่เป็นแม่ลูกกันและมีอายุกว่า 6,500 ปี

ด้วยความประหลาดของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์บางคนจึงคาดว่า นี่ไม่ใช่ร่างของมนุษย์ แต่อาจเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับนอกโลกอย่างเอเลี่ยน ในขณะที่มีเสียงโต้แย้งว่า ข่าวนี้เป็นข่าวปลอมเพื่อต้องการลอกลวง หรือเป็นทฤษฎีสบคบคิด ว่ามีเอเลี่ยนอยู่จริงๆ

ล่าสุด ศาสตราจารย์ Konstantin Korotkov แห่งมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติรัสเซีย เปิดเผยว่า หลังจากที่ทีมวิจัยได้นำเนื้อเยื้อตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดและทำ ซีที สแกน พบว่า มัมมี่มาเรียมีโครโมโซม 23 คู่ มีเนื้อเยื่อลักษณะทางชีวภาพ องค์ประกอบทางเคมี กรดอะมิโน ที่บ่งชี้ว่าเป็นมนุษย์ แต่มีลักษณะตำแหน่งของซี่โครงต่างไปจากมนุษย์ นอกจากนี้ยังพบผงแคดเมียมคลอไรด์หรือผงสีขาวที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ไว้ใช้รักษาสภาพศพที่ร่างมัมมี่ดังกล่าวด้วย

ส่วนมัมมี่วาวิตา หลังจากการวิเคราะห์เช่นเดียวกัน พบว่า มีสองแขน สองขา กะโหลกศีรษะ ตา 2 ข้าง และปาก ส่วนเนื้อเยื่อก็มีลักษณะทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีบ่งชี้ว่าเป็นมนุษย์ มีโครโมโซม 23 คู่เช่นกัน โดยคาดว่ามัมมี่วาวิตาเป็นเพศชาย แต่ศาสตราจารย์ผู้นี้ยืนยันว่า พวกเขายังไงก็ไม่ใช่มนุษย์ เพราะมีความแตกต่างทางโครงสร้าง ทั้งนี้ มัมมี่วาวิตามีความสูงเพียง 70 เซนติเมตร มีสามนิ้วกะโหลกศีรษะจะมีความยาวขึ้นไปทางด้านหลังของศีรษะ และโหนกคิ้วไม่ชัดเจน

“มาเรียและวาวิตาอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือไบโอโรบ็อต หรืออาจเป็นเผ่าพันธุ์ในอดีตหลายพันปีก่อน ที่มีความก้าวหน้ามากกว่าพวกเราได้ ” Konstantin Korotkov กล่าว “แต่เผ่าพันธุ์นี้อาจเสียชีวิตจากน้ำท่วมครั้งใหญ่หรือถูกดาวหางพุ่งชนโลก ประกอบกับสิ่งมีชีวิตที่มี 3 นิ้วก็สามารถพบได้ในงานศิลปะยุคก่อนที่เปรู”

ดอกเตอร์ Edson Vivanco ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก สรุปว่ามัมมี่ดังกล่าวไม่ใช่มนุษย์ พร้อมยืนยันว่ามีรายละเอียดมากมายที่ชี้ให้เห็นว่ามัมมี่เป็นของจริง การสร้างกะโหลกและรูปร่างมันเป็นงานที่ยากมาก ขณะนี้ พวกเรากำลังศึกษาจากหลักฐานที่มีอยู่ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบอะไรที่จะพอกล่าวได้ว่าเรื่องนี้เป็นการหลอกลวง หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายของมัมมี่ให้เหมือนเอเลี่ยนแต่อย่างใด

แต่ Nigel Watson ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเลี่ยนชาวอังกฤษกล่าวว่า การค้นพบมัมมี่ที่ถูกระบุว่าเป็นเอเลี่ยนนี้ เป็นเรื่องหลอกหลวงทั้งเพเป็นเรื่องน่าขำสิ้นดี ผลการตรวจสอบทั้งหมดมันบ่งชี้ได้ว่าเป็นมนุษย์ มีเพียงรูปร่างที่มีบางส่วนประหลาด และมันก็อาจถูกตัดต่อ

ผู้เคยทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องยูเอฟโอและเรื่องลึกลับให้กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หลายสิ่งยังมีความไม่ชัดเจน และสงสัยว่ามัมมี่ดูเหมือนหุ่นหล่อปูนปลาสเตอร์มากกว่าสิ่งอื่นใด และถ้ามันเป็นเอเลี่ยนจริง ก็คงจะได้เห็นผ่านนิตยสารเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือธรรมชาติแล้ว

ที่มา Sputnik News, The Sun, Daily Mail, Gaia