Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เชื่อว่าหลายคนที่ใช้เฟซบุ๊กหรือเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ คงจะเคยเห็นคลิปวีดิโอหรือเป็นแฟนคลับตัวยงของสองสาวน้อยน่ารัก ‘จินและเรนนี่’ แห่ง Little Monster  แฟนเพจของครอบครัวอารมณ์ดีที่บอกเล่าประสบการณ์ของการเลี้ยงลูก รวมถึงแฟนเพจมาดกวนอย่าง เทพลีลา ที่ปล่อยคลิปฮาๆ ออกมาให้ดูกันตลอด ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังของทั้งสองเพจนี้ คือ “เหว่ง ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์” คุณพ่ออารมณ์ดี ของน้องจินและเรนนี่นั่นเอง

แต่นอกจากบทบาทคุณพ่อลูกสองแล้วชายคนนี้ยังมีอีกบทบาทนึง ซึ่งเป็นถึงหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์ของไทยอย่าง 9 ศาสตรา ที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และกำลังจะเข้าฉายในต่างประเทศเร็วๆ นี้

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์จะพาคุณไปรู้จักกับ “เหว่ง ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์” ผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดาคนนี้ พร้อมเปิดมุมมองเรื่องชีวิต ครอบครัว และการทำงาน

 

“ทำเพจ Little Monster

ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเราก็มีความสุข

เพราะได้ใช้เวลากับลูก”

 

จุดเริ่มต้นของเพจ Little Monster?

จริงๆ เกิดจากตุ๊กแฟนเรานี่แหละ ตอนที่เขาคลอดจินเขารู้สึกมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด ด้วยความที่เขาเป็นคนทำงานเขา ก็ยังอยากจะทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้น วันที่เราทำงานแล้วเรากลับบ้านดึกๆ ก็จะทะเลาะกัน มันเป็นปัญหา ซึ่ง ณ ขณะนั้นเราทำหนัง สิ่งที่เขาคิดก็คือ เขาอยากจะบ่นลงเฟซบุ๊ก แต่ถ้าบ่นก็เหมือนกลายเป็นมีคนมาว่าเราอีก สิ่งที่เขาปรึกษาผมคือ เขาอยากจะสร้างแฟนเพจที่สามารถพูดกับคนในสังคมกลุ่มนึงที่เป็นแม่ โดยที่ไม่อ้างอิงตัวเขาหรือตัวพี่ แล้วสักพักเขาก็สร้าง Little Monster ขึ้นมา โดยที่พี่ก็ช่วยสเก็ตช์คาแรกเตอร์ให้เขา ก็เริ่มจากง่ายๆ เล็กๆ คุยกัน

 

 

เคยคิดไหมว่าวันนึง Little Monster จะมีชื่อเสียงและสร้างรายได้ เพจ จะสร้างรายได้?

เอาจริงๆ ตุ๊กเขาคงไม่ได้คิดหรอก เขาเคยคุยกับพี่ แค่คนมาตามเพจสักห้าพันคนเขาก็ดีใจแล้ว ส่วนตัวเราเองเราทำงานในสายของคาแร็กเตอร์ดีไซน์ ทำแอนิเมชั่นอะไรพวกนี้ เรารู้ว่าถ้ามันถึงจุดนึง คอนเทนต์มันได้และคนสนใจจริงๆ มันก็จะสร้างรายได้ด้วยตัวของมันเองได้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ซึ่งเราก็รู้อยู่

 

อารมณ์ของลูกกับการทำงาน?

มันก็แล้วแต่โอกาส แล้วแต่สถานการณ์ จินไม่ได้มีอารมณ์ที่ดีทุกวัน ในคลิปจินอาจจะเป็นเด็กอารมณ์ดี เรนนี่อาจจะเป็นเด็กอารมณ์ดีหรือร้องไห้ อันนั้นก็คือมุมนึงที่ทุกคนเห็น แต่ในความเป็นจริง เด็กเหมือนกันทุกคนแหละ กลับมาเรื่องที่ว่าคลิปเนี่ยจริงๆ เขาชอบ อย่างขับรถไปโรงเรียนเขาก็ชอบพ่อเปิดคลิปถ่ายมั้ย คุยเล่นกัน เพราะเราเป็นการเล่นสนุกกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์เขาด้วย

 

 

ความต่างของการเลี้ยงลูกของพี่เหว่ง กับ พี่ตุ๊ก?

ตุ๊กค่อนข้างจะเข้มงวดกว่าพี่ในเรื่องของระเบียบวินัย ศึกษาการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องควรจะเป็นอะไรบ้าง ตุ๊กเป็นคนที่ขี้กังวลระดับสูง ส่วนตัวพี่เองจะค่อนข้างเจอลูกน้อยกว่าตุ๊ก ตอนที่จินเพิ่งเกิด พี่ก็ทำหนังเรื่อง 9 ศาสตรา เพราะฉะนั้นเวลาพี่น้อยมาก ตอนที่เข้าเนอสเซอรี่แล้วเราก็จะเป็นคนไปส่งแล้วก็จะคุยกันช่วงนั้น พี่จะแทบเลี้ยงลูกน้อย จนมาช่วงหลังได้เลี้ยงเยอะ ซึ่งแนวทางการเลี้ยงของเราคือเล่นกับลูก พาลูกไปเที่ยว ไปส่งไปโรงเรียน ก็คือสิ่งที่เราพอจะทำได้ แล้วก็สอนเขาบ้างตามโอกาส

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำเพจ Little Monster?

เยอะมาก สิ่งที่เข้ามาเขาพยายามพูดคุยกัน เป็นสังคมสังคมหนึ่งที่พูดคุยเรื่องครอบครัวและลูกเป็นหลัก อินบ็อกซ์จะเยอะมาก นี่แหละพี่ว่ามันเป็นการแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูก

 

ความยากของการเป็นพ่อแม่?

เราไม่เคยมีลูก เราก็ไม่รู้ว่าเลี้ยงลูกยังไง ก็ปรึกษาผู้ใหญ่หาความรู้ไป แล้วที่มันยากคือชีวิตของเรา ที่เราเคยเจอเพื่อนเยอะๆ เราจำเป็นต้องลดลง จน ณ วันนี้แทบจะไม่เหลือเลย ความยากอีกอย่างนึงคือ เราคิดเสมอว่าเราจะเลี้ยงเขายังไงให้เขาดี บางทีเขาดื้อ เราสอนเขา ที่วันนี้เราดุเขาเนี่ย เราดุถูกวิธีไหม พวกนี้เราต้องคอนโทรลหมด เพราะบางทีมันจะสร้างปมให้ลูกเรา

 

 

ความหมายของลูก?

เยอะมาก  พี่ให้ทุกอย่างได้ คือพลกำลังที่เราจะทำงานเพื่อลูก เราแทบจะไม่ทำเพื่อตัวเองซักเท่าไหร่ ไม่ได้พูดให้ โห พี่พูดซะตัวเองดูหล่อเลยอะ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ทั้งตุ๊กและพี่เอาความรักใส่ที่ลูกเยอะมาก ทุกวันนี้ ทำอะไรก็ได้ที่มั่นคงพอที่จะสามารถส่งเสียลูกเราเรียนจนจบ แล้วลูกเราจะเป็นยังไง เราก็ต้องสอนให้เขาฉลาด คิดเป็น อยู่รอดเป็น เพราะเราคงไม่มีเวลาดูเขาตลอด เขาต้องดูแลตัวเองเป็น เขาต้องฉลาดที่จะคิดในสังคมที่มันเปลี่ยนไป อยู่อยากขึ้นเรื่อยๆ

 

ในวันที่จิน และเรนนี่โตขึ้น มองอนาคตไว้ยังไงบ้าง?

เรามองว่าเราคือ แฟมิลี่คอนเทนต์ จินกับเรนนี่ก็เป็นลูกของพี่ที่โตขึ้น ในวันที่เขาโตก็จะยังเป็น Family ที่ยังทำอะไรบางอย่างได้ เราอาจจะไม่ได้ทำบนออนไลน์ แบบมานั่งทำคลิปแล้วก็ได้ จินอาจจะเป็นคนสอนวาดรูปและสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่สามพรานก็ได้ เขาอาจจะจบด้วยการเรียนอะไรมาที่เขามีความสุขก็ได้ เขาอาจจะเล่นเปียโนเก่งก็ได้ แต่สิ่งที่เราทำก็คือ เราสร้างรากฐานไว้ให้เขาดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ค่อยห่วงกับอนาคตอะไรสักเท่าไหร่ ยังไงก็รอดอะพี่ว่า

 

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่มือใหม่?

วันนั้นเราคือพ่อมือใหม่ที่ทำอะไรไม่เป็น วันนี้มีลูก 2 คนแล้ว เรารู้อะไรมากขึ้น สำหรับเราคิดว่าต้องเสียสละ โดยเฉพาะเวลานี่โคตรสำคัญเลย ตอนแรกพี่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่มาได้จากตุ๊กที่มาบอกว่า พี่เหว่งรู้ไหมว่าลูกเราโตเร็วมากเลย แปปๆ เขาโตกันหมดแล้ว ในช่วงเวลาเด็กๆ ที่เขาควรจะเก็บความรู้สึกที่พ่อแม่ควรจะให้ ความรู้สึกแบบนี้มันจะฝังอยู่ข้างใน ถ้าจะให้พี่พูดถึงพ่อแม่สมัยนี้พ่อแม่ต้องแบ่งเวลาให้ลูก พี่เคยพลาดไปแล้วช่วงเวลาเป็นปี พี่ก็ไม่อยากเป็นอย่างนั้นอีก หล่อไหม โคตรเท่ พี่ว่าความรักที่พี่ให้มันสุดแล้ว พี่ว่าเขาสัมผัสได้ในทุกวัน

 

 

“ถ้าพี่ๆ Exformat Films ไม่ให้โอกาสทำ 9 ศาสตรา

หรือเราเลือกที่จะไม่รับในวันนั้น เราจะต้องปิดบริษัท 

เพราะฉะนั้น ทำได้ไม่ได้ไม่รู้ ต้องทำไว้ก่อน

แล้วต้องทำอย่างสุดความสามารถด้วย “

 

จุดเริ่มต้นของการเข้ามาทำโปรเจกต์ 9 ศาสตรา

ถ้าไม่ทำก็บริษัทเจ๊ง บริษัทที่ทำก่อนหน้านี้ เป็นบริษัทแอนิเมชั่นที่ตั้งขึ้นมา 5-6 ปี แล้วก็เกิดวิกฤตน้ำท่วม ไม่มีเงิน ต้องไปกู้เงินมา ถ้าพี่ๆ Exformat Films ไม่ให้โอกาสทำโปรเจกต์ 9 ศาสตรา หรือเราเลือกที่จะไม่รับ เราจะต้องปิดบริษัท เพราะฉะนั้น ทำได้ไม่ได้ไม่รู้ ต้องทำไว้ก่อน แล้วต้องทำอย่างสุดความสามารถด้วย จุดเริ่มต้นจากตรงนั้นมากกว่า

 

ความยากของช่วงชีวิตในตอนนั้น?

หนึ่งก็คือเป็นพ่อแม่มือใหม่ แล้วบริษัทก็ทำโปรเจกต์ที่มันหนักมากที่เราต้องรับผิดชอบ 9 ศาสตรานี่แหละ เราไม่เคยทำหนังสเกลนี้ ส่วนที่เรารับผิดชอบคือเราต้องดูแลคน เงิน ตารางเวลา มันใหญ่เกินกว่าที่เราเคยรู้ ระดับความเครียดคือสูงที่สุดในอาชีพการงานตั้งแต่เกิดมาแล้ว จนสุดท้ายต้องเลิก

 

เลิกในที่นี้หมายถึง?

พอจบหนัง 9 ศาสตราเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว พี่ก็ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ตัวเองตั้งขึ้นมากับเพื่อน พี่อยากกลับไปอยู่ในสเกลที่พี่คอนโทรลได้ แล้วพี่ทำงานอย่างเต็มที่แล้วพี่มีความสุข ยกตัวอย่างเช่น Little Monster ถึงพี่จะเหนื่อยขนาดไหน แต่พี่ก็อยู่กับครอบครัวพี่ แต่ 4 ปีที่ให้ไปในโปรเจกต์ 9 ศาสตรา คือพี่ก็ต้องเสียสละเวลาหลายๆ อย่างไป แต่ถ้าให้ย้อนเวลากลับไป พี่ก็ทำ 9 ศาสตราอยู่ดี เพียงแต่จะปรับบางอย่าง เช่น พยายามหาเวลาให้ลูกมากขึ้น

 

ตอนที่ทำ 9 ศาสตรา มีไหมที่รู้สึกเหนื่อยเกินไป ไม่ไหวแล้ว ยอมแพ้?

วันที่พี่ทำ 9 ศาสตรา คนที่เขาช่วยพี่ เขาเชื่อว่าคนที่ทำงานดีคือคนที่หิว คนที่อิ่มแม่งทำงานไม่ดีหรอก แม่งขาดแรงกระตุ้น ขาดแพสชั่น แล้วพี่กำลังจะเจ๊งอะ หูดับตับไหม้เลย แม่งเสาร์อาทิตย์กูก็ทำ วันที่พี่ไม่มีเงินนี่ปีนึงละ ไม่ยอมแพ้แน่นอน 9 ศาสตรา มันมีเหนื่อยอยู่แล้ว พี่คิดอย่างเดียวคือว่า ทำให้ดีที่สุดจนมันเสร็จแล้วพี่ถึงเลิก เพราะว่านี่คือสิ่งที่เขาช่วยเหลือเราในเวลาที่เราลำบาก จะไปทิ้งกลางคันได้ไง ไม่มีทาง ซึ่งวันนี้มันพึ่งเข้าโรง ตอนนี้รายได้เพิ่งจะถึงร้อยล้าน สิ่งที่เราดีใจคือกระแส แต่ถามว่าเราอยากจะกลับไปทำไหม มีภาคสองไหม ตัวเราก็บอกไปแล้วว่าเราไม่ทำ เราออกไปจากวงการนี้แล้ว แต่ถ้าเกิดว่าเราช่วยอะไรได้ หมายถึงว่าช่วยปรึกษาอะไรในฐานะคนสนิทกันเราทำได้

 

 

เมื่อ 9 ศาสตราก้าวสู่ตลาดโลก

ถ้าแอนิเมชันขายในไทยอย่างเดียวเจ๊งแน่นอน เพราะว่าเม็ดเงินมันเยอะ คราวนี้สิ่งที่จะไปขายเมืองนอกได้คืออะไร ถ้าไม่ได้มาตรฐานเขาจะซื้อไหม ความเป็นไทยอะไรที่ขายได้ล่ะ เขาก็เลยมองถึงมวยไทย เราควรจะทำการ์ตูนมวยไทยเป็นแอ็กชัน นี่คือโจทย์ที่เราคุยกับเขา นี่แหละคือจุดเริ่มต้น แต่ถ้าถามว่าเป็นแฟนตาซีวรรณคดีอะไรแบบนี้ เราไม่ได้ดึงมานะ เอาแค่รูปลักษณ์หรือองค์ประกอบศิลป์บางอย่างมาปรับให้มันดูเป็นสไตล์ที่มันเหมาะกับเรื่องของเรามากกว่า แรกๆ มีแต่คนด่า ตอนไปเกาหลีเขาถล่มมาเลย ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ มึงเลิกเหอะ เจ๊งแน่นอน คนเกาหลีพวกนี้นี่คือบริษัทใหญ่เป็นอุตสาหกรรมหนัง ทีนี้สิ่งที่เราไม่ยอมคือกลับมาพัฒนาเรื่องบทเรื่องอะไร แล้วถ้าเราจะรอดเราต้องไปจีนด้วย เขาก็บอกว่าถ้าจะเข้าจีนอย่างน้อยตัวละครเอกก็ต้องมีจีนนะ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือรื้อตัวนางเอก ดีไซน์ตอนแรกไม่ใช่คนจีน เปลี่ยนโมเดลใหม่ก็คือรื้อทิ้งหมดเลย

 

ความหมายที่แท้จริงของศาสตราทั้ง 9

อภินิหารที่เกิดขึ้นในตอนท้ายของเรื่อง มันเหมือนเป็นพลังมากกว่า พอศาสตราสุดท้ายมาปรากฎแล้ว มันมีอะไรที่เหนือจินตนาการที่มันจะจัดการกับตัวที่มันใหญ่ขึ้นได้ มันมีธรรมะแฝงอยู่ในนั้น มีพระอาจารย์ไปดูหนังแล้วก็เล่าว่า จริงๆ ธรรมะมันซ่อนอยู่ในหนัง 9 ศาสตราเยอะมากเลยนะ อันนี้ก็เหมือนกัน ศรัทธาก็ถือว่าเป็นธรรมะที่จะสอนคนได้ว่า ไม่ใช่ซูเปอร์ไซย่า ไม่ใช่ดราก้อนบอล ไม่ได้มีพลังบางอย่าง แต่มันคือการเคลื่อนไหวที่เร็วเพราะพลังศรัทธามากกว่า

 

ไม่ใช่แค่ตัวหนัง แต่ทีมงานทุกคนก็ต้องมีความศรัทธามากเช่นกัน?

หลายๆ เรื่องก็ทำจากบัดเจตไง แต่พวกพี่ๆ ที่เขาทำ Exformat Film  เขาตั้งแหละบัดเจต แต่พอทะลุแล้วเขาไม่ยอมแพ้ เขาบอกว่าคนที่คอมเมนต์มาพูดถูก มันดีไม่พอ ทำยังไงให้มันดีพอ ก็ต้องเพิ่มตังค์จาก 30 ล้านก็เลยเป็น 230 ล้านไง

 

รู้สึกอย่างไรในวันที่ 9 ศาสตรา ได้100 ล้าน?

รู้สึกดีนะ รู้สึกดีไม่ได้หมายความในเชิงตัวเลขนะ เราดีใจกับคนที่ไปดูในโรงแล้วบอกว่าสนุก ไปดูแล้วบอกต่อ มีคนดู 9 รอบอะ ตอนแรกพี่ก็นึกว่าโม้แล้ว น้องบ้าเปล่า ดู 9 รอบ แม่งมีตั๋วมากาง เราดูแล้วต้องขยายดูว่าวันที่เท่าไหร่ แล้วไม่ใช่มีคนเดียว 9 รอบ 7 รอบนี่มีหลายคน 3 รอบนี่แบบเป็นเรื่องปกติ เยอะมาก นี่คือสิ่งที่เราตกใจ ประทับใจ

 

การคัดเลือกผู้ที่มาให้เสียงใน 9 ศาสตรา?

ใช้วิธีแคส คนที่แคสคือ Dream Box ช่วย ช่วยเยอะเลย แคสเสร็จเขาต้องมาลองซ้อมเหมือนเล่นละครเวที เล่นจริงจังเลย เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าพากษ์ไม่ดี เสียงไม่ใช่ พี่ว่าประเด็นน่าจะอยู่ที่ไดอะล็อก มันกึ่งพีเรียดคนฟังแล้วอาจจะไม่อิน น้ำหนักเสียงบางอันอาจจะเน้นไม่ได้ โดยภาพรวมพี่คิดว่า เป็นการใช้เสียงแสดงที่เหมาะสมแล้ว ดีเท่าที่พวกเราจะมีปัญญาทำ

 

บางฉากที่ถูกตัดไป

ใช่ ตัดเพราะว่าเวลาที่จะไปฉายต่างประเทศเขากำหนดไว้ ไม่เยอะหรอก 130 นาที ต้องตัดให้เหลือ 90-100 นาที

 

การทำการตลาดของ 9 ศาสตรา?

สิ่งที่เราใช้คือว่า เรามั่นใจว่าหนังเรื่องนี้ดีพอ เราใช้การเชิญคนมาดู เชิญคนที่จะสร้างให้คนรู้จักหนังเราได้ เราทำการตลาดแบบนี้มากกว่า เราใช้เงินไปกับสื่อ Traditional Media ต่างๆ อาจจะรายการทีวี หรือโฆษณาบนทีวี หรือบิลบอร์ด สมมุติถ้าเราใส่เงินมากกว่านี้ พี่ถามว่า 9 ศาสตรา ไม่มีคนรู้จักมันเหรอ ณ วันนี้ รู้จักเยอะนะ แต่ก็มีอีกหลายคนที่รู้จักแต่ไม่ดู วันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างให้คนรู้จักแล้ว มันเกี่ยวกับว่า เขาไม่ดู ยังไงเขาก็ไม่ดู

 

ค่านิยมการดูแอนิเมชันของคนไทย ท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน?

เราไปห้ามเขาไม่ได้นะพี่ว่า เพราะว่า เขาอาจจะรับรู้เป็นโหมดการ์ตูนเด็กมาตลอด หรือว่าแอนิเมชันไทยที่พยายามทำกันมามันหลายๆ องค์ประกอบก็เลยได้ประมาณที่เราเห็นกันมา มีทั้งดีและไม่ดี สมัยนี้ดูต่างประเทศเยอะ ซึ่งแน่นอนประสบการณ์และเงินทุนเขาสูงกว่าเราเยอะ คือเขาผ่านมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ส่วนคนไทยหลายๆ คน อย่างในยูทูปเนี่ย พี่ไปอ่านหลายๆ คอมเมนต์มีทั้งดีและไม่ดีนะ แต่มีบางคลิปวีดิโอที่ด่า เช่น ทำมาได้ยังไง ด่าแบบสัตว์เลื้อยคลานอะ พี่ไม่รู้ว่าน้องคนนี้คือใคร แต่สิ่งที่พูดได้เลยว่าแย่ ไม่ใช่ว่าเขาด่านะ คอมเมนต์ต่างๆ ที่อยู่ใต้นั้นที่เป็นเยาวชนของประเทศเราส่วนใหญ่เชิดชูคำด่า คำด่ากับคำวิจารณ์ไม่เหมือนกันนะครับ คำด่าก็คือคำด่า วิจารณ์ก็คือวิจารณ์ เช่น หนังไม่สนุกเลย หนังน่าเบื่อมาก หนังเหมือนจะให้อะไรแต่ดูไม่ออกไม่รู้ว่าให้อะไร แต่ด่าแบบนั้นอะน่าตกใจ นี่อนาคตของชาติเหรอ? เราไม่ได้บอกว่าทุกคนนะ แต่หลายๆ คนในนั้นพี่แบบ โถ่ ตายแล้ว กลุ้มใจเลย ภาวนาลูกกูอย่าเป็นอย่างนี้นะเว้ย

 

เรื่องล้มเหลวในชีวิต?

เรียกว่าสำเร็จนับครั้งได้ดีกว่า ตอนนี้ไม่รู้สำเร็จจริงหรือเปล่า ก่อนหน้านี้มันเหมือนจะมีความสำเร็จเกิดขึ้นในชีวิตเรา มันก็ต้องพังกลับไปหลายครั้งแล้ว เริ่มต้นพี่จบมาพี่แต่งเพลงที่ GMM จบสถาปัตย์มาไม่ได้อยากเป็นสถาปนิก เสร็จก็รู้ว่าเราไม่รอดแล้ว ก็เปลี่ยน ระหว่างนั้นก็ทำฟรีแลนซ์ไป เพื่อนก็มาชวนทำหมูปิ้ง หาสูตรอยู่ปีนึงจนได้สูตรหมูปิ้งที่ส่วนตัวพี่มั่นใจว่าหมูปิ้งอันนี้ไม่เคยมีใครกินรสชาติแบบนี้ละกัน สุดท้ายทำอยู่ประมาณเกือบๆ ปีก็ต้องเจ๊งไป สิ่งที่เราพลาดคือเราไม่มีประสบการณ์ในการทำงานกับเพื่อน หลังจากนั้นก็มาเปิดร้านส้มตำแต่ก็ต้องเลิกเพราะตังค์หมด สายป่านยาวไม่พอ จนเริ่มมาทำบริษัทสถาปัตย์เขาให้ไปร้องเพลงละคร เริ่มมีคนสนใจเรา แต่ถึงเวลาก็มีปัญหากับคนคุมร้องคนนึงด้วยอารมณ์ของเราที่เป็นวัยรุ่น นักร้องคือความฝันเราไหม ไม่ขนาดนั้น แต่เราชอบร้องเพลง

 

แล้วความฝันจริงๆ ล่ะ?

สมัยก่อนอยากเป็นนักสนุ๊กเกอร์ แต่ถ้าตอนนี้ไม่มี ถามว่า Little Monster เป็นความฝันเราไหม ไม่ใช่ ไม่ได้ฝันด้วย มันก็คือทำแล้วรู้สึกมีความสุขดี ได้อยู่กับลูก ฝันของเราถ้าฝันส่วนตัวเลย อยากเล่นกีฬาอะไรบางอย่าง ฝันอีกอย่างนึงอยากเป็นนักบอล แต่เราไม่ได้ทำไง เราไม่ได้ถูกปลูกฝังให้เรียนและเล่นอย่างนั้นไง

 

“ถ้าเราลองทำมันจนสุดทางในมุมมองเราแล้ว ทั้งเงินทั้งเวลาเราใส่ลงไปเต็มที่แล้ว เราพร้อมจะเลิกแบบไม่ต้องเสียดายด้วย ถึงเราจะล้มเหลวไป แต่เราได้อะไรคืนมาตลอด”

 

การทำงานหลากหลายในช่วงที่ผ่านมา ให้อะไรกับตัวเราบ้าง?

คือที่คิดทุกอย่าง อยู่ๆ ไม่ได้คิดจะทำ แต่ว่าทุกอย่างที่พี่ทำ พี่ก็ต้องคิดว่าสุด ถ้าเราทำใส่แรงเต็มที่แล้ว เราจะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง ถ้าเราลองทำมันจนสุดทางในมุมมองเราแล้ว ทั้งเงินทั้งเวลาเราใส่ลงไปเต็มที่แล้ว เราพร้อมจะเลิกแบบไม่ต้องเสียดายด้วย ถึงเราจะล้มเหลวไป แต่เราได้อะไรคืนมาตลอด

 

ฝากถึงวัยรุ่นสมัยนี้?

ที่ไม่อยากให้เป็นคือ ทำๆ แล้วเลิก ถ้าให้พี่แนะนำคือวันนี้เราอาจจะมีโอกาสได้รู้ตัวเองมากกว่าสมัยพี่ ในโลกอินเทอร์เน็ตการที่เรารู้อะไรหลายๆ อย่าง แล้วเราสามารถตอบตัวเองได้ว่า เราค่อนข้างจะชอบกับสิ่งนั้น เป็นโลกที่ต้องการความ Specialist สูง ถ้าน้องเก่งเฉพาะด้านยังไงน้องก็ไม่มีทางอดตาย เพราะโลกนี้มันสามารถบอกประกาศให้คนอื่นหมดเลยได้ว่า กูเนี่ยทำอะไร มันมีโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะฉะนั้นวัยรุ่นที่พึ่งจบหรือจบแล้วอะไรก็ตามควรจะทำงานให้หนัก เพราะถ้าวันนี้น้องทำงานเบาเกินไป แล้วน้องอายุมากขึ้นน้องเจองานหนัก หรือน้องพลาดในชีวิตสักครั้งนึง น้องจะกลับมายืนได้ยากมาก เหมือนพี่ไง พี่ออกจากบริษัทพี่ไม่เหลืออะไรเลย พี่ใช้เวลาปีนึง กลับมายืนใหม่ วันนี้แข็งแรงกว่าเดิมด้วย ในวัย40 มันไม่ใช่เล่นๆ แม่งน่ากลัวนะน้อง ลูกสองคน แม่งแทบไม่เหลือตังค์อะ น่ากลัวมาก แต่ยังโชคดีที่มีแรงจากครอบครัวช่วยเรา

 

 

 

 

 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า