SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องนายสุเทพ เเละพวก ในคดีกบฏ อั้งยี่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา 

วันที่ 27 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ว่า ตอนนี้ไม่สามารถกด ATM ได้ อันเนื่องมาจากถูกอายัดบัญชี หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.-พวก ในคดีกบฏ อั้งยี่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า

“อายัดบัญชี 13 พันธมิตร ปฏิบัติการรุกฆาตจากการท่าฯ-อำนาจมืด เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมบังคับคดีส่งเอกสารถึงทุกธนาคาร อายัดทุกบัญชีของพวกเรา แต่เพิ่งทราบจริงวันนี้ (23) หลังจากเพื่อนโอนเงินมาให้ ไปกด ATM ไม่ได้ จึงไปติดต่อธนาคาร จึงทราบเรื่องทั้งหมด อายัดทุกบัญชี จะกี่บาทก็ช่าง และมันคงจะเป็นภาวะแบบนี้ไปจนกว่าเขาจะสามารถยึดทรัพย์เราได้ทั้งหมด..

“มันเป็นเช่นนี้เอง ความรู้สึกเจ็บลึกในอก.. แม่เจ้าโว้ย!!! ทีคนโกงชาติบ้านเมืองมันทำอะไรกันอยู่ ทีกับคนที่ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตนเอง เอ็งทำได้และรีบทำ..

“ตอนหนึ่งในเฟซบุ๊กของ “มาลีรัตน์ แก้วก่า” ที่โพสต์รัวๆ เมื่อเวลา 20.31 น. วันที่ 23 มี.ค.2561 และได้รับการแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งกลายเป็นข่าวร้อนทั้งในสื่อกระแสหลักและโลกออนไลน์.. มาลีรัตน์ แก้วก่า หรือ “พี่ติ๊ก” ของน้องๆ เป็นอดีต สว.สกลนคร และเป็นอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่น 2

“เมื่อกล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ประกาศยุติบทบาทไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค.2556 เป็นที่ทราบกันว่า พวกเขาได้ลุกขึ้นต่อสู้กับระบอบทักษิณถึงสองรอบใหญ่ๆ คือเมื่อปี 2549 และ 2551 ทำให้แกนนำและแนวร่วมถูกดำเนินคดีหลายคดี โดยคดีอาญาคดีหลักคือ คดีบุกทำเนียบรัฐบาล , คดีชุมนุมล้อมรัฐสภา และคดีชุมนุมที่สนามบิน

“สองรอบของการลุกขึ้นสู้ทำให้ระดับแกนนำโดนคดีอาญา-แพ่ง ไปคนละ 5-6 คดีเป็นอย่างน้อย เฉพาะคดีชุมนุมที่สนามบินเมื่อปลายปี 2551เป็นคดีที่ตลกร้ายที่สุด.. พนักงานสอบสวน ฟ้องเหวี่ยงแหผู้ต้องหาจำนวนมากถึง 98 คน ทั้งแกนนำการชุมนุม และคนที่ไปยืนปรบมือร้องเพลงข้างเวที และในจำนวน 98 จำเลย มีผู้ที่ถูกข้อหาก่อการร้ายโทษประหารชีวิตถึง 13 คน

“จะว่าไปคดีสนามบินนี้คล้ายๆ กับคดีที่ดีเอสไอ-อัยการกำลังถูกวิจารณ์อยู่ในขณะนี้ว่า ฟ้องเหวี่ยงแห 58 กปปส. แต่ที่น่าเศร้า..คดีสนามบินนั้นนอกจากพันธมิตรฯ จะถูกฟ้องอาญาข้อหาหนักแล้ว ยังถูกฟ้องแพ่งจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) , บริษัทการบินไทย และวิทยุการบิน อีกด้วย

“คดีแพ่งของการบินไทยและวิทยุการบินนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี แต่ในส่วนของ ทอท.คดีถึงที่สุดเมื่อเดือน ก.ย.2560 โดย 13 จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหาย 522 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ปี นับแต่ 5 ธ.ค.2551 และณ วันนี้เริ่มปฏิบัติการอายัดบัญชีกันแล้ว ทั้งๆ ที่คดีอาญาเพิ่งจะสืบพยานโจกท์ในศาลชั้นต้นเท่านั้น..

“คำถามจึงมีอยู่ว่า หากคดีอาญาศาลตัดสินยกฟ้องจำเลยหรือรอลงอาญา รอการกำหนดโทษ จะเป็นธรรมกับจำเลยที่ถูกบังคับคดี หรือที่สุดอาจถูกฟ้องล้มละลายหรือไม่อย่างไร..

“จริงอยู่เม็ดเงิน 800 กว่าล้านบาท ที่จำเลย 13 คนต้องชดใช้ หากคิดเป็นรายหัวตกคนละ 60 กว่าล้านบาท คงยากที่บุคคลเหล่านี้จะหามาชดใช้ได้ แต่คำถามชวนคิดก็คือ ทำไมปฏิบัติการรุกฆาตอายัดบัญชีมาแรงและมาเร็ว..ทั้งๆ ที่การบังคับคดี การสืบทรัพย์มีระยะเวลาดำเนินการนาน 10 ปี…และที่ผ่านมาสังคมก็รับรู้ว่าจำเลยทั้ง 13 คน และทุกคนไม่เคยมีใครหนีคดี มีแต่เคารพกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแม้แต่น้อย..

“ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมอดีต สว.มาลีรัตน์ ถึงได้ตบท้ายในเฟซบุ๊กของเธอแบบประชดประชันปนน้อยเนื้อต่ำใจว่า ‘จุกในอกจริงๆ..แต่ไม่อาจสยบข้าได้หรอก ต่อให้ไม่มีเงินกินข้าว เพื่อนมิตรยังมีข้าว ให้กิน…เอาเถอะ..รีบมายึดไปให้หมด..เร็วนะ..’

“สำหรับ13 แกนนำ / แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ถูก ทอท.ฟ้องแพ่ง ประกอบด้วยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายพิภพ ธงไชย , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายอมร อมรรัตนานนท์ , นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง , นายสำราญ รอดเพชร , นายศิริชัย ไม้งาม , นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี

“จาก 13 รายชื่อ จะพบว่ามีอย่างน้อย 6 คน คือ พิภพ , สมศักดิ์ , สุริยะใส , สมเกียรติ , สำราญ และอมร เป็นผู้ต้องหาคดีกบฏร่วมกับ ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ในรอบของ กปปส.ปี2557 ด้วย…

“การตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย-กบฏ-อังยี่-ซ่องโจร…ไม่ได้เป็นเรื่องสนุกอย่างแน่นอน แต่ใช่หรือไม่ว่า เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนพันธมิตรฯ – กปปส.ลุกขึ้นมาต่อสู้ก็เพราะต้องการหยุดอำนาจฉ้อฉลประเทศชาติ หยุดปฏิบัติที่ทำร้ายศาสนา จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์..เป็นหลัก

“คงไม่มีใครว่าถ้าการดำเนินคดีในส่วนของต้นทาง กลางทางของกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างโปร่งใส สะอาด ยุติธรรม..แต่ที่ผ่านๆ มาพิสูจน์แล้วพิสูจน์อีกหลายต่อหลายกรณีว่า..ไม่ใช่

“นี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่พี่น้องมวลมหาประชาชนจะต้องช่วยกันตอบให้กับบ้านนี้เมืองนี้อีกครั้ง…!!

“โดย อดีตพันธมิตรร่วมสู้”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า