นายกฯ เปรียบนักการเมืองเป็นแมว ไม่เกี่ยงดำ-ขาว แต่ต้องสะอาดถึงจัับหนูได้

ประเด็นคือ – นายกรัฐมนตรี โต้เสียงวิจารณ์กล่าวหาใช้งบประมาณมีการทุจริต หวังผลทางการเมือง ย้ำต้องคัดแล้วคัดอีก นักการเมืองสมัยหน้า แต่ไม่เกี่ยงแมวขาวหรือแมวดำ แต่ขอแมวสะอาด ถึงจะจับหนูได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศวันที่ 27 เมษายน 2561 ช่วงหนึ่งถึงกรณีมีการวิจารณ์รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจแย่ลง หรือรังแกคนจนว่า บางครั้งเป็นการพูดหวังผลทางการเมือง พร้อมถามกลับคนที่พูดเช่นนั้นว่า วันหน้าหากเข้ามาเป็นรัฐบาล จะทำแบบเดิมหรือไม่ พร้อมระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำในวันนี้ ก็จะเกิดผลในรัฐบาลหน้า รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง รัฐบาลต่อๆไปถ้าเข้าใจกัน สานต่อการทำงานกัน ประเทศชาติก็จะดีขึ้น และดีกว่าเดิม

“ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ มันจะใช่อย่างที่นักวิชาการ นักการเมืองบางคนออกมากล่าวหรือไม่ ไม่แน่ใจ พูดในเชิงขัดแย้ง กดดันรัฐบาล คสช. พูดดักหน้าดักหลังไปตลอดเวลา 4 ปีของผม ผมไม่อยากให้คนไทยทุกคน ได้มองแต่ประโยชน์ที่รวดเร็วแบบเดิม ได้มากเหมือนเดิม แต่มันไม่ยั่งยืน ไม่ทั่วถึงไม่เป็นธรรมหรอกครับ

มันอาจจะเหมือนขุดบ่อล่อปลา แล้วให้ปลาทุกตัวว่ายมารวมกัน เสร็จแล้วก็ถูกหวิดน้ำให้แห้ง ก็มีการดูดซึมน้ำรั่วออกมาด้วย ด้วยการทุจริตคอรัปชั่น ปลาในนั้นก็จะกลายเป็นเหยื่อ อยากบอกให้ประชาชนอย่าเป็นปลา หรือ เป็นเหยื่อ เพราะเราไปคาดหวังในแหล่งน้ำที่วางแผนไว้ง่ายๆ ใครที่รับประโยชน์ก็กลายเป็นเหยื่อไปซะเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

• ปฏิเสธ คสช. ดูด ส.ส.

ส่วนคำกล่าวว่า รัฐบาลดูด ส.ส.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายว่า ตนไม่ใช่นักการเมือง แต่กำลังทำงานการเมือง และเรื่องการดูด ส.ส. มีอยู่ทุกพรรค และมีมาเป็นเวลายาวนานแล้ว เป็นครรลองประชาธิปไตย ไม่ใช่ คสช.ดูด และคำว่า ดูด ส.ส.นัั้น เป็นภาษาของสื่อ เป็นการตลาด คิดว่า ประชาชนจะใช้วิจารณญาณได้ว่า ใครทำเพื่อส่วนรวม ใครทำเพื่อพวกพ้อง พร้อมย้ำว่า ต้องทำให้นักการเมืองที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นคนดี มีธรรมาภิบาล โดยมีการศึกษากลุ่มของนักการเมืองขณะนี้ พบว่า มี 3 กลุ่ม คือ นักการเมืองใหม่, นักการเมืองเดิมที่มีคุณภาพ และนักการเมืองทุกกลุ่มเดิมๆ ที่อาจเข้ามาใช้วิธีเดิมๆ ซึ่งอาจต้องใช้วิธี ทำให้กลุ่มที่ 1 และ 2 มาผผสมกัน แต่ขณะนี้ นักการเมืองใหม่เข้ามาน้อยมาก แต่เราน่าจะอยากได้คณะรัฐมนตรีที่มีนักการเมืองใหม่เข้ามาเติม มาเสริมนักการเมืองเก่า ที่หวังดีกับประเทศชาติ สมัครใจมาทำงานเพื่อชาติ ประชาชนมากกว่าเพื่อพรรคอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยกทฤษฎีแมวของ “เติ้งเสี่ยวผิง” เปรียบเทียบกับนักการเมืองทิ้งท้ายว่า “แมวขาว หรือ แมวดำ ขอเพียงจับหนูได้ คือ แมวที่ดี” ส่วนเราเองต้องทำให้แมวขาว และแมวดำ ไม่ทะเลาะ กัดกันเอง และเป็นแมวสะอาดไม่มีเชื้อโรค ไม่เช่นนั้นก็ไปปราบหนูไม่ได้ ต้องทำให้นักการเมืองสะอาด ต้องใช้แมวที่สะอาด