SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ เรื่องการเกษียณอายุราชการตามแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 6 เม.ย.2561 โดยระบุว่า ผู้ที่จะเกษียณ ในปี 2562 และ 2563 ให้ไปเกษียณเมื่ออายุ 61 ปี ผู้ที่จะเกษียณ ปี 2564 และปี 2565 ให้ไปเกษียณเมื่ออายุ 62 ปี ผู้ที่จะเกษียณ ปี 2566 และ ปี 2567 ให้ไปเกษียณเมื่ออายุ 63 ปี และหลังจากนั้นให้เกษียณอายุราชการ 63 ปี ทั้งหมดนั้น

วันที่ 15 พ.ค.2561  วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะแท้ที่จริงเป็นเพียงข้อเสนอในแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม ซึ่งตัวแผนมีผลบังคับใช้แล้วจริง แต่ในทางปฏิบัติจะมีผลก็ต่อเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปกำหนดรายละเอียด ปรับแก้กฎหมาย และประกาศบังคับใช้ เน้นย้ำว่า ข้อเสนอนี้เกิดจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ที่อยากให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ ประกอบกับผู้สูงอายุสมัยนี้เมื่อเกษียณอายุแล้วแต่ก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง และมีศักยภาพในการทำงานอยู่ จึงเสนอให้ขยายอายุราชการออกไป โดยหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงคือ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ก็จะต้องรับไปศึกษาและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ โดยจะมีผลบังคับใช้จริงเมื่อมีประกาศจากสำนักงาน ก.พ. ออกมา

พล.อ.ประยุทธ์ กำชับให้ สำนักงาน ก.พ. และส่วนราชการต่าง ๆ ชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงและความคืบหน้าของการดำเนินงานแก่ข้าราชการและบุคลากรของรัฐ รวมทั้งพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่อยากให้บุคลากรของรัฐเป็นกังวลหรือตื่นตระหนก เพราะในทางปฏิบัติจะต้องดูความเหมาะสมของลักษณะงานด้วย นอกจากนี้ข้อเสนอบางเรื่องก็ยังไม่ถือเป็นการผูกมัดให้ต้องดำเนินการทันที เช่น การตั้งหรือยุบเลิกหน่วยงานรัฐ และงบประมาณที่จะใช้ในการปฏิรูปแต่ละด้าน เป็นต้นขั้นตอนต่อไปเมื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละเรื่องพิจารณารายละเอียดทั้งหมดแล้ว เรื่องใดที่สามารถทำได้ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนเรื่องใดที่อาจติดขัดในข้อกฎหมาย หรือต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อสรุปก็จะพูดคุยกัน จากนั้นสามารถชี้แจงเหตุผลไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ให้ปรับปรุงแก้ไขแผนได้ ส่วนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปอีก 4 ปี เพื่อกำกับ ติดตาม ผลักดันให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปตามแผน โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ 11 เรื่อง ใน 6 เล่ม ลงประกาศ ณ วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561 โดยมีเรื่องที่น่าสนใจในเล่มที่ 5 ว่าด้วยแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสาร มวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านสังคม โดยเนื้อหาดังกล่าวอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่องและประเด็นปฏิรูปที่ 2 : กลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม หัวข้อการเสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุในการทำงาน ในกิจกรรมที่ 1 ระบุว่า ขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี โดยใช้เวลา 6 ปีคือ 2 ปี ขยาย 1 ปี เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายเวลาการทำงานและค่อยๆขยายเวลาเป็น 2 ปี ขยาย 1 ปี เพื่อจะไม่กระทบต่อการจ้างงานคนรุ่นใหม่ที่ทดแทนคนที่เกษียณอายุ โดยไม่ครอบคลุมหน่วยงานที่ต้องใช้ศักยภาพทางร่างกาย

ขณะที่วิธีการกำหนดให้ 1.ศึกษาความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะมีการขยายอายุเกษียณ 2.แก้ไข พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญให้ขยายอายุเกษียณราชการเป็น 63 ปี โดยมีผู้รับผิดชอบหลักคือ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ส่วนเป้าหมาย คือ ข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเกษียณอายุที่ 63 ปี ในปี 2567 และมีตัวชี้วัดเป็นข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีศักยภาพมีอายุเกษียณเพิ่มขึ้น 1 ปี ในทุกๆ 2 ปี กระทั่งปี 2567

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า