SHARE

คัดลอกแล้ว

กลุ่มแม่ค้าพ่อค้าหน้าห้าง ‘เดอะวัน พาร์ค’ ที่อยู่หน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ร้องขอความเป็นธรรม หลังได้รับหนังสือจากสำนักงานเขตจตุจักร ห้ามจำหน่ายหรือขายสินค้าบนทางเท้า และร้านค้าต้องขนย้ายออกให้หมดภายในวันที่ 29 พ.ค. นี้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ค. 61 บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เดอะวัน พาร์ค แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกัญจน์รัตน์ ดีโนนโพธิ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/32 หมู่ 2 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ประกอบอาชีพขายน้ำปั่น ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเดือดร้อน และมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าประมาณ 30 คน ได้รวมตัวเรียกร้องของความเป็นธรรม

โดยระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 61 ได้มีประชุมหารือ โดยมีสำนักงานเขตจตุจักร, การรถไฟแห่งประเทศไทย, สน.พหลโยธิน, กอ.รมน., กรุงเทพฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนกลุ่มผู้ค้าบริเวณดังกล่าว ได้กำหนดแนวทางผู้ค้าด้านหน้าห้าง เดอะวัน พาร์ค และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ห้องประชุมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดนโยบายการวางสินค้าค้าขายบริเวณดังกล่าว

แต่ต่อมาวันที่ 23 พ.ค. 61 ได้มีหนังสือจากทางประกาศของสำนักงานเขตจตุจักร เรื่องห้ามจำหน่ายหรือขายสินค้าบนทางเท้าและผิวการจราจร โดยกำหนดให้กลุ่มผู้ค้าบริเวณดังกล่าวต้องขนย้ายออกให้หมดในวันที่ 29 พ.ค. 61

ทำให้เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 61 นางกัญจน์รัตน์จึงได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย, ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าห้างเดอะวัน พาร์ค ได้รับความเดือดร้อน

นางกัญจน์รัตน์ เปิดเผยต่อว่า ตนเป็นตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ได้อาศัยพื้นที่บริเวณริมฟุตปาธ หน้าห้างเดอะวัน พาร์ค เป็นที่ค้าขายนานกว่า 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมาทางได้ให้ความร่วมมือกับทาง กทม. ตลอด แต่มาวันนี้ทางผู้ใหญ่ในเขตกลับไปหลงเชื่อกลุ่มนายทุนที่อ้างว่าผู้คนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ คับแคบ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นความต้องการของกลุ่มนายทุนที่ต้องการให้พวกตนออกไปจากที่นี่ ซึ่งเป็นที่ทำมาหากินของพวกตน

โดยกลุ่มนายทุนหวังให้พวกตนไปเช่าแผงบริเวณเต็นท์ที่อยู่ลึกไปด้านหลัง ตรงนั้นเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ายินดีทำตามเงื่อนไขของทางราชการ แต่ขอให้มีรายละเอียดและข้อเท็จจริงให้กลุ่มผู้ค้าให้เข้าใจว่าทางราชการมีเจตนาอย่างจริงจังในการช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้าต้องการแก้ไขปัญหาและมีสถานที่รองรับให้ค้าขายได้ด้วย จึงอยากขอให้ทางราชการหยุดหรือชะลอการห้ามจำหน่ายสินค้าออกไปก่อน

ทั้งนี้ จากการสำรวจของทีมข่าวเวิร์คพอยท์ พบว่าฟุตบาธด้านหน้าริมถนนพหลโยธินมีร้านค้าตั้งแผงเรียงรายกันเต็มข้างทางประมาณ 50 ร้าน โดยฝั่งหนึ่งเป็นร้านขายพวกเสื้อผ้า มีการตั้งเต็นท์ ราวเหล็กแขวนเสื้อถาวร ส่วนอีกฝั่งที่หนึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายอาหาร ลงไปตั้งร้านอยู่บนพื้นผิวถนน ทำให้เสียช่องทางการจราจรไป 1 ช่องทาง

ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวยังเป็นป้ายรถเมล์ รถตู้ ซึ่งรถตู้ก็ไม่สามารถจอดเทียบข้างฟุตบาธได้ ในขณะเดียวกันพบร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่บนถนน มีการสร้างแผงเหล็กกั้น พร้อมกับโต๊ะนั่งทานประมาณ 6 – 7 ตัว ส่วนบางร้านได้ตั้งแผงล้ำไปใกล้กับบริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว

จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะบริเวณดังกล่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เธอเองขึ้นรถเมล์ที่จุดนี้ค่อนข้างบ่อย เมื่อต้องเดินบนฟุตบาธผ่านร้านค้าตั้งแผงทั้งสองข้างทาง ก็รู้สึกเดินลำบาก ยิ่งช่วงเย็นที่จะมีประชาชนเลิกงานมาขึ้นรถโดยสาร หรือรถตู้ ก็จะรู้สึกว่ามันแคบจนบางครั้งต้องลงไปเดินอยู่บนถนน เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และยิ่งมีบางร้านที่ตั้งล้ำมาใกล้กับป้ายรถเมล์ ร่มบังแดดของร้าน กลับบังสายตาทำให้ไม่เห็นรถเมล์ที่กำลังจะเข้าป้าย

ในขณะเดียวกันคนขับแท็กซี่ก็เห็นด้วย หาก กทม. จะมีการจัดระเบียบร้านค้าบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเวลารับส่งผู้โดยสาร ไม่สามารถจอดเข้าป้ายได้ รถตู้ก็เยอะอยู่แล้ว และเส้นทางดังกล่าวก็รถก็ติดเป็นประจำ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า